แผลเป็นจากสิว ร้าย-ลึก

‘สิว’… ในชีวิตหนึ่งคงหาคนที่ไม่เคยเป็นสิวได้น้อย ไม่ว่าจะเป็นสิวเสี้ยน สิวผด สิวอักเสบ เพราะมันเกิดขึ้นได้ง่าย ทั้งจากสาเหตุของฮอร์โมน อาหารการกิน สารเคมีจากเครื่องสำอาง การรักษาความสะอาดของผิวหน้า


เมื่อเกิดปัญหาสิว หนุ่มๆ สาวๆ คงจะมีวิธีการรักษาให้หายโดยง่าย และเร็ว อย่างการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว หรือปรึกษาแพทย์ แต่รู้หรือไม่ว่า สิว อาจทิ้งรอยแผลเป็นที่มีระดับความรุนแรง จนทำให้คุณคิดว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องสิวๆ!




แผลเป็นจากสิวเกิดขึ้นเพราะ
เป็นปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่อการหายของแผลหลังจากเกิดการอักเสบ โดยการสร้างเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนังขึ้นมามากกว่าปกติ แบ่งเป็น 4 ระดับ


แผลเป็นจากสิวเกรด 1 :
มีความรุนแรงน้อยที่สุด เป็นเพียงรอย จุดแดงๆ หรือด่าง เรียบแบน ไม่นูน สังเกตเห็นได้ยาก


แผลเป็นจากสิวเกรด 2 :
เป็นจุดนูนเล็ก ลักษณะอ่อนนุ่ม มีจำนวนไม่มาก สังเกตเห็นได้ง่ายกว่าเกรด 1 แต่สามารถใช้การแต่งหน้าปกปิดได้


แผลเป็นจากสิวเกรด 3 :
เห็นขอบแผลได้ชัดเจน อาจเป็นทั้งนูน หรือเป็นหลุม มักพบร่วมกับแผลเป็นเกรด 1 ไม่สามารถแต่งหน้าเพื่อปกปิดรอยแผลได้


แผลเป็นจากสิวเกรด 4 :
ระดับนี้มีความรุนแรงที่สุด เพราะขอบแผลจะยกนูน หรือเป็นหลุมลึกกว้าง มีลักษณะแข็ง สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน การแต่งหน้าก็ไม่อาจปกปิดรอยแผลเป็นระดับนี้ได้


ทีนี้ลองสังเกตดูว่า รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวบนใบหน้าของคุณอยู่ในระดับใด แล้วมาศึกษาวิธีทางการแพทย์ในการรักษาแผลเป็นนั้น


การรักษาแผลเป็นเกรด 1 :
ทำได้ทั้งการใช้เวลาให้หายไปเอง หรือการทาครีมบำรุงผิวที่มีขายตามท้องตลาด บางครั้งอาจใช้วิธีกรอหน้าชนิดตื้น หรือใช้พลังงานแสงรักษา


การรักษาแผลเป็นเกรด 2 :
การใช้พลังงานแสงกลุ่มเลเซอร์ ที่ไม่ทำเกิดแผล ยิงเพื่อให้ผิวมีการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ หรือฉีดสารคอลลาเจน เติมเต็มส่วนที่เป็นหลุม หรือใช้วิธีการกรอด้วยหัวเข็มตกแต่งบริเวณแผลเป็น


การรักษาแผลเป็นเกรด 3 :
เป็นการรักษาที่ค่อนข้างรุนแรง และจะทิ้งรอยแผลหลังการรักษา วิธีนี้จะใช้การกรอผิวชนิดลึก การฉีดสารเติมเต็มในกรณีที่เป็นหลุมลึกกว้าง หรือผ่าตัดโดยการใช้เข็มตัดพังผืดใต้ผิวหนัง


การรักษาแผลเป็นเกรด 4 :
การรักษาในระดับนี้จะใช้กับแผลที่เป็นหลุม และไม่เรียบเอามากๆ จะใช้วิธีการดึงหน้า หรือแต้มกรดบางอย่าง รวมทั้งการกรอหน้า และการย้ายไขมันจากส่วนที่มีมากมาฉีดลงมนส่วนที่เป็นหลุม


อย่างไรก็ตาม
 
คนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาแผลเป็นจากสิวในระดับที่มีความรุนแรงน้อยที่สุด ดังนั้นการรักษาจึงสามารถทำได้ด้วยตนเอง ค่าใช้จ่ายไม่มาก มีผลข้างเคียงหรืออันตรายน้อยกว่าแบบอื่นๆ แต่หากมีปัญหาแผลเป็นในระดับอื่นๆ ที่รุนแรงกว่า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ หรือตามสถาบัน คลินิกที่ได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยอย่างถูกต้อง เพื่อคุณจะได้รักษาแผลเป็น แก้ปัญหาผิวหน้าอื่นๆ ได้อย่างถูกวิธี และปลอดภัย


ส่วนการดูแลผิวหน้า ถือเป็นการป้องกันการเกิดสิวได้ด้วยตัวคุณเอง เพียงแค่ล้างหน้าสะอาด โดยเลือกใช้ครีมหรือโฟมให้เหมาะกับสภาผิว จากนั้นเช็ดด้วยโทนเนอร์ และทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ทั้งเช้า-เย็น ยิ่งถ้าวันไหนแต่งหน้าควรเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด และล้างให้สะอาด หาเวลาขัดผิวหน้าเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกเพื่อทำให้ผิวหน้าสดใส ที่สำคัญต้องไม่ลืมทาครีมกันแดด ป้องกันผิวหมองคล้ำจากรังสียูวีในจากแดดที่ร้อนจ้า


ด้านอาหารการกิน ก็ยังสมารถช่วยลดการเกิดสิวลงได้ เพราะกินอย่างไร ก็จะได้อย่างนั้น จึงควรทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ โดยเฉพาะผักสด ผลไม้ ที่มีสารต่อต้านริ้วรอย การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยให้ผิวพรรณชุมชื้น ไม่ดื่มชา กาแฟ เกินวันละ 3 แก้ว เพราะสารคาเฟอีนขัดขวางการดูดซับสารอาหาร ทำให้ผิวหมองคล้ำ และอาจส่งผลต่อสุขภาพผิวในระยะยาว ทั้งยังมีทาร์ และนิโคตินในบุหรี่ ตัวร้ายทำให้ผิวแห้งกร้าน

ที่ละเลยไม่ได้ คงจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวได้ผ่อนคลาย และฟื้นฟูสภาพผิว ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส มีสุขภาพจิตที่ดี จะไม่ทำให้หน้าแก่เกินวัย หรือเหี่ยวเร็ว.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์