เตรียมงบจัดดอกไม้สำหรับงานแต่ง

ข้อที่สอง  เลือกใช้ ดอกไม้ และ ใบไม้ รวมถึง ต้นไม้ ในประเทศ 

              เพราะปลูกได้เอง ราคาจึงถูกกว่า ดอกไม้ นอกที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการนำเข้า  เดี๋ยวนี้ ดอกไม้ไทย และ ดอกไม้นอก ที่ปลูกได้ที่ ภาคเหนือ ของไทย เราก็มีให้เลือกมากขึ้นเยอะเลย เราอาจจะลองถามช่าง จัดดอกไม้ ดูก็ได้ค่ะ ว่าช่วงที่เราจะแต่งนั้น ดอกไม้ อะไรจะราคาไม่แพงจนเกินไป  

             ขอแนะนำว่า  ถ้า เจ้าสาว ไม่ซีเรียสกับชนิดของ ดอกไม้ มาก ก็ให้บอกเป็นโทนสี ก็จะง่ายต่อการเลือกชนิดของ ดอกไม้ และสามารถคุม งบประมาณได้   ซึ่งในกรณีนี้ก็อยากให้ เจ้าสาว บอกไปด้วยว่าไม่อยากได้หรือไม่ชอบ ดอกไม้ ชนิดไหน เพราะช่างจะได้เลี่ยงให้ได้ค่ะ  แต่ทั้งนี้ถ้ามีการตกลงเรื่องราคากับชนิด ดอกไม้ คร่าวๆก่อนได้ก็จะเป็นการดี 
 
             อย่าลืมนะคะ เราไม่ได้แนะนำว่าให้เลือกเฉพาะ ดอกไม้ไทย เท่านั้น แต่ให้เลือกใช้ ดอกไม้ ที่ปลูกได้ ในประเทศ ของเรา ซึ่งอาจจะเป็น ดอกไม้พันธุ์ของ ต่างประเทศ ก็ได้ค่ะ เช่น ดอกลิลลี่ หรือ ดอกกุหลาบ เกรดดีๆ เป็นต้น

ข้อที่สาม  เลือกใช้ อุปกรณ์เสริม ที่ราคาไม่แพง 
 
           ถ้าเราเลือกใช้ ดอกไม้ เพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้งานดูโล่งเกินไป หรือถ้าจะให้แน่นๆก็ต้องใช้งบประมาณที่สูงเหมือนกัน  ดังนั้นจึงอยากจะให้ลองเลือกใช้อุปกรณ์เสริมที่ทาง โรงแรม มีอยู่แล้ว หรืออุปกรณ์ที่เราสามารถนำมาใช้ให้ประโยชน์ในโอกาสอื่นๆได้อีก หรืออุปกรณ์เสริมที่ราคาไม่แพงนัก  อุปกรณ์ที่ว่าก็เช่น ผ้าโปร่ง, ริบบิ้น, กิ่งไม้, เทียน, เชิงเทียน ดอกไม้, น้ำพุ หรือ สวนหย่อม เล็กๆ, ร่มสีขาว, ขวดโหล หรือ ถ้วยแก้วเล็กๆ ใส่ เทียน เป็นต้น 

            ขอแนะนำว่า  เจ้าบ่าว เจ้าสาว คงต้องมี ภาพ ของงานตัวเองแบบคร่าวๆในใจก่อน แล้วค่อยไปคุยเรื่องรายละเอียด เหล่านี้กับทาง โรงแรม อีกที ว่ามีอุปกรณ์อย่างที่เราต้องการหรือไม่ แล้วก็ต้องให้ทาง เจ้าหน้าที่ หรือคนเตรียมงาน จด โน้ต เอาไว้ให้ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่ง ช่วงเวลา ที่เหมาะสมก็น่าจะเป็นประมาณ 6-8 สัปดาห์ ก่อน วันงาน เพราะเป็นเรื่องที่สามารถเตรียมกันได้ ถ้าไม่สะดวกทั้ง 2 ฝ่ายก็คงต้องตัดออกไปบ้างค่ะ เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเรื่องที่สิ้นเปลือง แล้วก็จะกลายเป็น เรื่อง ที่ไม่น่า สนุก ไปเลยก็ได้