บริโภคผักผลไม้ให้มากช่วยชะลอวัย

หากมีใครสักคนมาทักคุณว่า


ดูสาวขึ้นหรือหนุ่มขึ้น วันนั้นคุณคงปลื้มไปทั้งวัน และคงจะมีความรู้สึกกระชุ่มกระชวยทั้งวันตามคำชม การชะลอวัยนั้นไม่ได้เกินความสามารถที่คนเราจะควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่อนหรือโรคที่มากับวัย เช่น โรคความจำเสื่อม โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคกระดูกพรุน ซึ่งคนเรามักจะคิดว่าเป็นผลพวงที่เกิดจากความแก่ แต่ความจริงที่มักถูกมองข้ามคือ สิ่งเหล่านั้นเป็นผลจากวิถีการดำเนินชีวิตมากกว่าจากความแก่ที่เกิดตามธรรมชาติ

อาหารที่เราเลือกบริโภคในชีวิตประจำวัน


จึงมีความสำคัญเท่าๆ กับการออกกำลังกาย ครีมกันแดดที่เราเลือกเพื่อป้องกันความเสื่อมของผิว และวิธีการป้องกันอื่นๆ ที่จะช่วยชะลอวัย

บริโภคผักผลไม้ให้มากช่วยชะลอวัย


ผู้ที่บริโภคผักผลไม้มากนอกจากจะแก่ช้าแล้ว


ยังมีปัญหาโรคที่กล่าวข้างต้นน้อยกว่าผู้ที่บริโภคเนื้อสัตว์และไขมันมาก ซึ่งนักวิจัยยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีใครเถียงได้ มีอะไรดีในผักผลไม้

ผักผลไม้ส่วนใหญ่


ยกเว้นมะพร้าว มะกอก และผลอะโวคาโด ไม่มีไขมัน ไม่มีคอเลสเตอรอล และมีโซเดียมน้อย ยกเว้นของหมักดอง โซเดียมเป็นองค์ประกอบของเกลือ ถ้าบริโภคมากอาจเพิ่มความเสี่ยงความดันโลหิตสูงและโรคมะเร็ง

ผักผลไม้มีกากใยอาหารสูง


ช่วยลดความเสี่ยงโรคที่มากับวัย เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ผักผลไม้ยังมีพลังงานต่ำทำให้อิ่มง่าย จึงลดปริมาณอาหารที่จะกินให้น้อยลง ร่างกายคนเราต้องการกากใยอาหารในการช่วยรักษาสุขภาพวันละ 25 30 กรัม ซึ่งทำได้ไม่ยาก ถ้าคุณเลือกบริโภคผักผลไม้วันละ 3 4 อย่าง อย่างละขนาดเท่าลูกเทนนิส และบริโภคผักสดขนาดเท่ากับ 4 ถ้วย (ข้าวต้ม) หรือผักสุก 4 ทัพพี หรือจะผสมกันอย่างละครึ่งก็ยิ่งดี

ผักผลไม้มีสารอาหารมากมายที่ช่วยชะลอความแก่


เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีนหรือแคโรทีนอยด์ อนุมูลอิสระเป็นสารที่เร่งความเสื่อมของวัย สารอาหารดังกล่าวจะช่วยลดฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ

ผักผลไม้อุดมไปด้วยแคลเซียม


ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม กรดโฟลิก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แคลเซียมและแมกนีเซียมช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ธาตุเหล็กและกรดโฟลิกช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ป้องกันโลหิตจาง นอกจากนี้ กรดโฟลิกยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและป้องกันโรคสมองเสื่อม

ผักและผลไม้ให้พลังงานต่ำ


โดยเฉพาะผัก ผักสลัดหนึ่งชามพูนให้พลังงานเพียง 30 กิโลแคลอรี่ แต่ต้องระวังน้ำสลัดซึ่งให้พลังงานสูง น้ำสลัดข้นเพียง 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 75 100 กิโลแคลอรี่

ผักผลไม้มีสารต้านมะเร็งเฉพาะตัวที่เรียกว่า


สารพฤกษเคมี (phytochemical) ผักผลไม้ต่างชนิดกันก็มีสารพฤกษเคมีแตกต่างกันไปหลายพันชนิด การบริโภคผักและผลไม้ให้หลากหลายจะช่วยให้ได้สารพฤกษเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

แหล่งที่มา: บอร์ดรวมเรื่องน่าอ่าน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์