9 วิธีหนีน้ำมันแพง ใช้รถแบบคนฉลาด

9 วิธีหนีน้ำมันแพง ใช้รถแบบคนฉลาด

          น้ำมันลิตรละ 10 กว่าบาท คงเป็นแค่เพียงเรื่องเล่าในอดีตที่ไม่อาจหวนกลับมาสู่โลกปัจจุบันได้อีกแล้ว หลายคนถึงกับเลิกใช้รถยนต์ส่วนตัว หันไปปั่นจักรยาน หรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ หลายคนยังต้องกัดฟันสู้กับราคาน้ำมันที่แทบจะขึ้นพรวด ๆ แบบ 2-3 วันขึ้นที 


          ถ้าวันนี้เรามีทางเลือกไม่มากนัก ลองหันมาทำความรู้จักกับ เทคนิคขับรถแบบประหยัดน้ำมัน กันอย่างจริงจังซักทีจะดีมั้ย 


          1. เลือกใช้รถให้เหมากับสภาพการใช้งาน อันนี้ในกรณีที่ ถ้าที่บ้านของคุณมีรถยนต์ให้เลือกใช้มากกว่า 1 คัน 

          2. อย่าได้พยายามคิดประหยัด โดยใช้วิธีเข้าไปนั่งเบียดเสียด แบบจับคนทั้งบ้านยัดเข้าไปเหมือนอัดปลากระป๋อง เพราะการทำเช่นนั้น นอกจากจะทำให้รถคันดังกล่าวต้องแบกรับน้ำหนักเกินภาระของเครื่องยนต์แล้ว ยังทำให้สิ้นเปลืองการใช้เชื้อเพลิงมากกว่าปกติ และเกิดการสึกหรอเร็วกว่าเดิมอีกด้วย

          3. ควรเติมน้ำมันตามชนิดที่คุ่มือการใช้รถแนะนำ 

          4. ในกรณีที่รถยนต์มีระบบครูซ คอนโทรล (Cruise control) หรือวิ่งด้วยอัตราความเร็วที่ประหยัดน้ำมัน กรณีใช้ขับขี่บนทางราบทั่วไป ในสภาพที่การจราจรไม่ติดขัด เช่น วิ่งทางตรง ระยะไกลในต่างจังหวัด การใช้ระบบครูซ คอนโทรล นอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่เปลี่ยนแปลงความเร็วโดยไม่จำเป็น ยังช่วยให้ประหยัดน้ำมันด้วย

          5. เป็นไปได้ควรขับช้า ๆ และวิ่งชิดเลนซ้าย รวมทั้งใช้ความเร็วคงที่สม่ำเสมอ เช่นขับที่ประมาณความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. จะช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ประมาณ 15-20% เลยทีเดียว

          6. เลี่ยงการแตะเบรกอย่างรุนแรง การเหยียบเบรกแต่ละครั้งควรทำด้วยสัมผัสที่นิ่มนวล เพราะการขับรถอย่างกระโชกโฮกฮากมักทำให้ต้องแตะเบรกอย่างรุนแรงตามมา นอกจากเสี่ยงอันตราย ยังทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นอีกถึง 25%

          7. รถที่มีแอร์ควรเปิดแอร์ เชื่อหรือไม่ว่าการปิดแอร์แล้วขับรถไม่ได้มีผลต่อการประหยัดน้ำมันแต่อย่างใด เพราะการจะสิ้นเปลืองน้ำมันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ประเภทของรถ และการใช้ความเร็วต่างหาก (แต่มียกเว้นไว้นิดนึงว่า ที่ความเร็วไม่เกินประมาณ 65 ไมล์/ชั่วโมง) 

          8. หลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด อันนี้เป็นการรู้จักวางแผนที่ดีก่อนการออกเดินทางด้วย

          9. เวลาเติมน้ำมัน ไม่ควรบอกเด็กปั๊มว่า เต็มถัง แต่ควรจะประมาณเป็นจำนวนเงินที่เกือบจะเต็มถังจะดีกว่า เนื่องจากทุกครั้งที่เติมน้ำมันเต็มถัง นอกจากลิ้นหัวจ่ายน้ำมันจะถูกตัวเซ็นเซอร์สั่งปิดโดยอัตโนมัติ ยังมีการส่งน้ำมันที่ค้างในหัวจ่ายส่วนหนึ่ง ซึ่งผ่านการคิดเงินจากมิเตอร์แล้ว ย้อนกลับไปยังตัวปั๊มจ่าย ดังนั้นส่วนที่ค้างอยู่ในท่อจ่าย และถูกคิดเงินแล้ว จะถูกส่งคืนให้แก่ผู้ขาย


          เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย หากเราทำได้ซัก 3 4 ข้อนอกจากจะสบายใจเรื่องมีส่วนช่วยประหยัดน้ำมันรถของเราแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกนะคะ..


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์