ตำนานโดเรม่อน

 


ตำนานโดเรม่อน



 



 

ศาสนาโดเรม่อนแต่เดิมเชื่อว่าเป็นศาสนาประจำชาติของประเทศยุ่นปี่ ซึ่งหลังจากได้กำเนิดขึ้นศาสนานี้ก็ได้ครองใจเด็กๆในประเทศและทั่วโลกตลอดมา โดยที่จริงแล้วศาสนาโดเรม่อนมีชื่อในถิ่นกำเนิดว่า โดราเอมอน แต่ด้วยการที่อ่านผิดจากโงกุนเป็นหงอคง ของผู้อิมพอร์ทศาสนานี้บางคน จึงทำให้ชื่อนี้เป็นชื่อที่ติดหูมาตลอด








เนื้อหา





  •  
  •  



ศาสนาโดเรม่อน


ศาสนาโดเรมอน เป็นศาสนาแบบแมวนิยม(Nekoism) ชนิดมีเมพหลายองค์ โดยมีองค์เมพสูงสุดคือ มหาเมพโดเรม่อน และมีเมพีโดเรมี่เป็นเมพีสูงสุด ต้นกำเนิดของศาสนายังไม่ปรากฎหลักฐานแน่ชัดว่ามาจากที่ใด แต่จากการศึกษาย้อนตำนานไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วซึ่งเป็นยุคที่ศาสนาถือกำเนิดขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่าศาสนาโดเรม่อนมีต้นกำเนิดในประเทศยี่หุ่น โดยในบันทึกฉบับเก่าแก่กล่าวถึงองก์บร๊ะศาสดาผู้ก่อตั้งศาสนาที่มีพระนามว่า ท่าน Noobita


มหาเมพโดเรม่อน



มหาเมพโดเรม่อน

มหาเมพโดเรม่อน


มหาเมพสำแดงอิทธิฤทธิ์ แก่บร๊ะศาสดา

มหาเมพสำแดงอิทธิฤทธิ์ แก่บร๊ะศาสดา

มหาเมพโดเรม่อน ได้ถูกยกย่องเป็นเมพสูงสุดในศาสนา พระองก์ทรงมีพระวรกายละม้ายคล้ายแมวตัวสีน้ำเงินที่ไม่มีหูและไม่มีนิ้ว บางนิกายว่าท่านเป็นตัวทานูกิหรือหมาแร็คคูน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว มหาเมพโดเรม่อนในร่างแมวไม่มีหูเป็นที่ยอมรับกันมากที่สุด ท่านแสดงปาฏิหาริย์เป็นครั้งแรกด้วยการปรากฏตัวออกมาจากลิ้นชักในห้องขององค์บร๊ะศาสดาโนบิตะ แม้ท่านมหาเมพโดเรม่อนจะปราศจากหูและนิ้วแต่ด้วยทิพยอำนาจของท่านแล้วความพิกลพิการนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกิจของท่านแต่อย่างใด ดังจะเห็นได้ในตอนหนึ่งของคัมภีร์ ที่ท่านบร๊ะศาสดากล่าวสรรเสริญอิทธิฤทธิ์ของมหาเมพด้วยความอัศจรรย์ใจว่า "ไม่มีนิ้วแล้วยังหมุนโทรศัพท์ได้อีก" ซึ่งท่านมหาเมพก็ได้ตอบท่านศาสดาไปว่า "หุบปาก!!!"


ตำนานการก่อกำเนิดมหาเมพนั้นยังเป็นที่คลุมเครือ บางตำรากล่าวว่า ยังมีองก์บร๊ะผู้สร้างอีก 1 องก์ สร้างมหาเมพโดเรม่อนและส่งท่านลงมาโปรดมวลมนุษย์ผ่านทางลิ้นชักศักดิ์สิทธิ์ บางตำรากล่าวว่า มหาเมพกำเนิดขึ้นมาเองจากความว่างเปล่า แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายยอมรับแน่ๆคือ ท่านมาจากสวรรค์ที่ชื่อว่า "ศตวรรษที่ 22" ซึ่งตำรานี้ระบุไว้ว่ามหาเมพโดเรม่อนนั้นพระองค์กำเนิดจากบริษัทและที่แน่นอนอีกอย่างคือเหลนของบร๊ะศาสดาโนบิตะส่งมาอบรมท่าน มหาเมพโดเรม่อนทรงโปรดปรานแป้งทอดโดรายากิเป็นพิเศษ จึงเป็นหนึ่งในเครื่องเซ่นสำคัญที่ขาดไม่ได้ในพิธีกรรมบวงสรวงองก์เมพ หากขาดซึ่งโดรายากิในสำรับแล้ว สาวกอาจเสี่ยงที่จะจุกท้องเนื่องจากถูกลงทัณฑ์ด้วยพลังปืนบาซูก้าอัดลมขององก์เมพได้


แม้องก์มหาเมพจะเป็นแมว แต่พระองก์ก็ยังทรงมีสายเลือดของจิงโจ้อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากกระเป๋าหน้าท้องของพระองก์ซึ่งเป็นสิ่งที่หลงเหลือจากกระบวนการวิวัฒนาการ(Evolution)นั่นเอง กระเป๋าหน้าท้องนี้ถูกเรียกด้วยความเคารพว่า "กระเป๋า 4 มิติ" ซึ่งเป็นแหล่งอำนาจสำคัญที่สุดขององก์เมพ กระเป๋าใบนี้สามารถบรรจุสิ่งของวิเศษได้มากมายเหลือคณานับทั้งใหญ่และเล็ก ทั้งไร้สาระและมีสาระ


องก์บร๊ะศาสดาโนบิตะ



องก์บร๊ะศาสดาโนบิตะ

องก์บร๊ะศาสดาโนบิตะ

องก์บร๊ะศาสดาโนบิตะชื่อเดิมชื่อ โช ซง ฮุย(ได้กระทำการฮาราขี้รีตอนเรียนป.ตรี ที่ มหาลัยเวอจีเนียเทคพร้อมเพื่อนๆอีก32คน) เป็นผู้ริเริ่มศาสนาโดเรม่อนในยี่หุ่น ท่านเริ่มเผยแพร่ศาสนาตั้งแต่ท่านยังเป็นนักเรียนชั้นประถม ภายหลังที่ท่านมหาเมพมาสถิตในบ้านขององก์ศาสดาแล้ว องก์ศาสดาก็เริ่มสำแดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้เป็นที่ประจักษ์ เช่น การทำข้อสอบได้คะแนนเต็ม การล่องหนเข้าไปดูเพื่อนสาวอาบน้ำ การว่ายน้ำเก่งแบบผิดธรรมชาติ การเอาชนะจอมมารทาเกชิ การมีของเล่นมหัศจรรย์ยิ่งกว่าคู่แข่งคนสำคัญซูเนโอะ การเอาชนะศึกระหว่างท่านกับสุนัขคู่อริ การแกล้งบร๊ะมารดา เป็นต้น ภายหลังขึ้นมหาลัยได้กระทำการสอบเข้า มหาลัยเวอจีเนียเทคที่ประเทศสหรัฐอเมริกาสำเร็จ(เพราะได้ของวิเศษของมหาเมพโดเรม่อนจึงทำข้อสอบได้) และได้สัญญาว่าจะกระทำการฮาราขี้รีตัวเอง พร้อมเพื่อนๆอีกทั้งมหาลัยไปเฝ้ามหาเมพ แต่ทว่าเมื่อถึงเพลาที่เหมาะสมกลับส่งคนไปเยี่มมหาเมพได้แค่ 33 คน(ได้กระทำการเผยแพร่บร๊ะศาสนาได้สำเร็จแค่ 33 คน) ด้วยดุ้นปืน 2 กระบอกพร้อมดุ้นกระสุน 4 แม๊กเต็มลูกขนาด 9มม.ท่านได้กระทำการเสียสละอย่างใหญ่หลวงเราขอมอบพระนามให้ท่านว่า "สมเด็จพระเดจพระคุณนายพลฯม.ร.ว. ร.ป.ภ น.พ.ศ.จ.บร๊ะเจ้าโนบิฮุย โดเรโซ ซุง ณ.เวอจีเนียเทค"


บร๊ะคัมปี



"บร๊ะคัมปีเล่มแรกฉบับแปลเทย"

"บร๊ะคัมปีเล่มแรกฉบับแปลเทย"

บร๊ะคัมปีหรือบันทึกคำสอนของศาสนานั้น มีผู้เขียนไว้เป็นจำนวนมาก แต่ที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วกันว่าเป็นของแท้และไม่มีย้อมหนูแน่นอน
(ไม่ใช้คำว่าย้อมแมวเนื่องจากเป็นการหมิ่นองก์มหาเมพ)ก็คือบร๊ะคำปีที่เขียนโดย อาจารย์ ฟูจิโอะ เอฟ. ยู. ซี. เค. ฟูจิโกะ ริงโกะ ในคำปีนั้นแบ่งเป็นหลายเล่มและหลายหมวดหมู่ เคยได้รับการสังคายนาโดยสำนักพิมพ์ต่างๆ มาแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน สำหรับการสังคายนาครั้งล่าสุดนั้นเรียกว่า "ลิขสิทธิ์ถูกต้อง" นอกจากการบันทึกคำสอนในคำปีในรูปแบบตัวอักษรแล้ว ยังมีการบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหวสำหรับออกอากาศทางโทรทัศน์และจำหน่ายในรูปวีซีดีอีกด้วย แต่เนื้อหาในสื่อบางประเภทโดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหวอาจทำให้ผู้ศึกษาคำปีไม่ได้รับแก่นแท้แห่งคำสอนเท่าที่ควร เนื่องจากในบางประเทศมีการเซนเซอร์บั้นท้ายและอวัยวะเพศขององก์บร๊ะศาสดาโนบิตะ ซึ่งนับว่าน่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับศาสนิกชนในประเทศดังกล่าวที่พลาดโอกาสจะได้ยลโฉมพระวรกายขององก์ศาสดาเป็นบุญตา


สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนา



"องก์มหาเมพจุติ" ภาพศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของศาสนิกชน

"องก์มหาเมพจุติ" ภาพศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของศาสนิกชน


"องก์มหาเมพจุติ" ปางที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนา "ฅนเหล็กน้อยหัวใจเพชร"

"องก์มหาเมพจุติ" ปางที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนา "ฅนเหล็กน้อยหัวใจเพชร"


"องก์มหาเมพจุติ" ปางพิโรธ

"องก์มหาเมพจุติ" ปางพิโรธ


"องก์มหาเมพจุติ" ปางเทพธิดา

"องก์มหาเมพจุติ" ปางเทพธิดา


องก์มหาเมพจุติ" ปางบร๊ะเจ้าจอร์ช

องก์มหาเมพจุติ" ปางบร๊ะเจ้าจอร์ช


  1. ลิ้นชัก เป็นประตูวิเศษที่องก์เมพใช้เสด็จผ่านระหว่างโลกนี้และโลกหน้า โดเรม่อนศาสนิกชนจะใช้ลิ้นชักเป็นที่เก็บอัฐิของคนตายเพราะเชื่อว่า ลิ้นชักจะเป็นประตูที่จะนำผู้ตายไปอยู่รับใช้องก์มหาเมพ
  2. โดรายากิ เป็นอาหารที่สงวนไว้สำหรับองก์มหาเมพเท่านั้น ชาวโดเรม่อนศาสนิกชนจะไม่กินโดรายากิไม่ว่ากรณีใดๆ แต่อาจจะมียกเว้นในกรณีที่ไม่มีอย่างอื่นให้กิน
  3. แมวตัวเมีย ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า นอกจากแมวตัวเมียเป็นตัวแทนของมหาเมพีโดเรมี่แล้ว ยังเป็นตัวแทนถึงรักแรกขององก์มหาเมพโดเรม่อนอีกด้วย ดังนั้น ในครอบครัวของโดเรม่อนศาสนิกชนจะเลี้ยงแมวตัวเมียไว้อย่างน้อย 1 ตัวเพื่อเป็นการแสดงถึงความรักระหว่างคู่ภรรยาและสามี แมวตัวนี้จะต้องถูกดูแลประคบประหงมอย่างดี ดังนั้นบางประเทศที่นิยมนำแมวตัวเมียไปแห่ขอฝนจึงนับเป็นศัตรูกับโดเรม่อนศาสนิกชนอย่างเลี่ยงไม่ได้
  4. จิงโจ้ เนื่องจากจิงโจ้เป็นบรรพบุรุษของมหาเมพ จิงโจ้จึงนับเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย โดเรม่อนศาสนิกชนที่พอมีฐานะจึงนิยมเดินทางไปออสเตรเลียเพื่อสักการะจิงโจ้เป็นประจำทุกปี
  5. หมีโคอาล่า เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากสนิทกันกับจิงโจ้นั่นเอง
  6. เลขศูนย์ (0) เลขศูนย์เป็นเลขอาถรรพณ์ในศาสนาโดเรม่อน เป็นจุดกำเนิดของทุกตัวเลขเนื่องจากศูนย์บวกเลขอะไรก็ได้เลขนั้น และยังเป็นตัวเลขที่เกี่ยวโยงกับชีวิตขององก์บร๊ะศาสดาโนบิตะอย่างแยกไม่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาประกาศผลสอบ
  7. ประเทศยุ่นปี่เป็นประเทศศักสิทธิ์เพราะฉนั้นทุกท่านที่เข้าร่วมศาสนาแล้วควรไปอย่างน้อย5ครั้งในชีวิต
  8. บร๊ะคัมภีร์ในปัจจุบันได้เผยแพร่ไปทั่วโลกสามารถหาอ่านได้ตามร้านหนังสือเช่าทั่วไปหรือสามารถชื้อบร๊ะคัมภีร์ได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำ(หมวดการ์ตูน)ทั่วไป บร๊ะคัมภีร์ได้ถูกตีแผ่เป็นหลายภาษา ทุกคนสามารถหาอ่านได้ในราคาถูก

กฎ/ข้อห้ามในศาสนา



  1. ศาสนิกชนห้ามแต่งตัวเลียนแบบองก์มหาเมพหรือบร๊ะศาสดาเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจจะต้องตกนรกที่เต็มไปด้วยหนูไปชั่วกัปชั่วกัลป์
  2. การใส่ที่คาดผมหูแมว หรือการติดอะไรก็ตามที่มีลักษณะเหมือนหูแมวไว้บนหัว ถือเป็นการลบหลู่องก์เมพอย่างให้อภัยไม่ได้ เพราะเป็นอดีตอันเลวร้ายที่มิอาจลืมได้ขององก์เมพ (หากเป็นศาสนิกชนหญิงอาจได้รับการยกเว้นหากใส่แล้วแลดู "โมเอะ" แต่หากเป็นศาสนิกชนชายต้องห้ามเด็ดขาดไม่ว่าในกรณีใดๆโดยเฉพาะศาสนิกชนชายที่มีกล้ามมากๆ)
  3. ห้ามถกเถียงกันในหมู่ผู้นับถือว่าองก์เมพเป็นแมวหรือทานูกิกันแน่ ว่าอย่างไรก็ตามนั้น เพราะองก์เมพอาจทรงพิโรธได้โดยเฉพาะคนที่กล่าวว่าองก์เมพเป็นตัวทานูกิ
  4. ห้ามศาสนิกชนหลงรักแมวตัวเมียเด็ดขาด แมวตัวเมียจะสงวนไว้ให้มหาเมพเท่านั้น แต่การหลงรักสุนัขตัวเมียเป็นที่ยอมรับได้
  5. ศาสนิกชนใดที่มีชื่อว่า "ทาเกชิ" หรือ "ไจแอนท์" ห้ามร้องเพลงด้วยประการทั้งปวง เพราะถือว่า บุคคลชื่อดังกล่าวไม่ได้เกิดมาเพื่อร้องเพลง
  6. หนูเป็นศัตรูขององก์มหาเมพ หากพบเจอหนูที่ใดให้กำจัดเสียให้สิ้น ทั้งนี้ไม่รวมถึงอีหนู การบูชายัญด้วยหนูไม่ทำให้เป็นที่พอพระทัย ควรใช้โดรายากิแทน
  7. ศาสนิกชนใดสามารถทำคะแนนสอบได้เข้าใกล้ศูนย์มากที่สุด ย่อมเป็นการแสดงถึงศรัทธาและความจงรักภักดีต่อองก์บร๊ะศาสดามากเท่านั้น
  8. ห้ามเลี้ยงแมวที่หูไม่กุดเพราะมหาเมพโดเรม่อนก็หูกุดเหมือนกันแล้วถ้าไม่ตัดก็เท่ากับดูหมิ่น หากเลี้ยงแล้วต้องตัดหูทิ้งหากไม่ตัดศาสนิกชนต้องถูกตัดจู๋(ส่วนของผู้ชาย)หากเป็นหญิงจะต้องโดนตัดนม-หัวนม เจ็ดชั่วโคตร
  9. ควรไปยุ่นปี่สัก5ครั้งในชีวิตเพราะจะได้บุญมหาศาล(บุญตา)และผู้ที่เข้าศาสนาจะต้องทำการซื้อหนังสือ...มาไว้ที่ศาลของบร๊ะศาสดาทั้ง2พระองค์จะได้บุญและช่วงสุดท้ายในชีวิตจะได้ไปเฝ้ามหาเมพและองค์บร๊ะศาสดาถึงสววรค์

นักบวชในศาสนาโดเรม่อน







โดราต๊อง และโนบิแต๋ว คือนักบวชในศาสนาโดเรม่อน มีจุดประสงค์เพื่อสร้างไทม์แมชชีนเพื่อจะได้ข้ามเวลาำไปพบกับองค์ศาสดา มีวิธีการบวชดังนี้



  1. ใส่ชุดดังรูป
  2. เดินเข้าไปในร้านเช่าการ์ตูน เลือกร้านที่คนเยอะๆ และเช่าการ์ตูนโดเรม่อนทั้งชุด
  3. ชูนิ้วกลางใส่เจ้าของร้าน พร้อมกล่าวว่า "พ่อมึงสิสรัส" 5 ครั้ง จากนั้นตะโกนดังๆ ว่า "เก๋าเจอได้"
  4. ผู้คนในร้านก็จะไล่กระทืบคุณ ให้คุณวิ่งเข้าไปซ่อนในถังขยะ
  5. เมื่อส้นตีนของผู้คนทะลุฝาถังขยะเข้าสู่หน้าคุณ เป็นอันจบพิธี


ตัวทานูกิที่มักถูกสับสนว่าเป็นองก์เมพ

ตัวทานูกิที่มักถูกสับสนว่าเป็นองก์เมพ

ปัจจุบันนักบวชศาสนาโดเรม่อนมีสำนักปฎิบัติอยุ่ที่โรงพยาบาลศรีทันย่า และตามสถานกักกันต่างๆ นักบวชเหล่านี้จะกินตัวทานูกิเป็นอาหาร เพราะเข้าใจว่ากินแล้วจะมีพลังเหมือนองค์เมพ




เนื้อเรื่องสุดคลาสลิกของ บร๊ะมหาเมพ



ตัวอย่างแอนนิเมชั่น

ตัวอย่างแอนนิเมชั่น







สงคราม โดเรม่อน เวอร์ชั่น แปลไทย






ภาพเหตุการณ์สำคัญทางศาสนาและเมพองก์อื่นๆ