มามะไปเที่ยวกันตอน บุกบ้านจิม ทอมป์สัน

เอ่ยชื่อจิม ทอมป์สัน คิดว่าเพื่อน ๆ ที่นี่หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินชื่อของเขานะคะ เพราะว่าเขาได้ฉายาว่า ราชาไหมไทย เนื่องจากเขามีความหลงใหลในความสวยงามของการถักผืนผ้าไหมของไทยมาก ถึงขั้นขออาศัยอยู่ที่เมืองไทยด้วยซะเลย

หลังจากการหายสาบสูญไปของเขา บ้านหลังดังกล่าวจึงแปนสภาพไปเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเปิดให้คนทั่วไปที่สนใจเข้าชม พิพิธภัณฑ์จิม ทอมป์สัน นั้นตั้งอยู่ที่ซอยเกษมสันต์ ๒ ตรงข้ามกับสนามกีฬาแห่งชาติใกล้ ๆ กับมาบุญครองนี่เอง เมื่อเดินเข้าไปในซอยเกษมสันต์แล้วให้เพื่อน ๆ เดินเข้าไปจนสุดซอย พิพิธภัณฑ์จิม ทอมป์สัน จะอยู่ทางซ้ายมือ

ก่อนเข้าไปก็ต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะถามว่าต้องการไกด์ภาษาอะไร มีให้เลือกทั้งไกด์ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศสและญี่ปุ่น เรากับพลพรรคเลือกภาษาไทยจากนั้นก็นั่งรอให้ถึงรอบของตัวเองระหว่างที่นั่งรอก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นชนกลุ่มน้อยยังไงก็ไม่รู้ เพราะว่าหันไปทางไหนก็เจอแต่ชาวต่างชาติ คนไทยมีไม่ถึงสิบชีวิต (ไม่รวมพนักงานนะคะ) เมื่อถึงรอบของเรามีลูกทัวร์ทั้งหมด 4 คน (เหอ เหอ เหอ)

คุณไกด์ก็จะพาชมบ้านรอบ ๆ จากนั้นก็จะอธิบายถึงประวัติความเป็นมาของที่นี่ แล้วก็ประวัติความเป็นมาของ ของที่นำมาตกแต่งตามห้องต่าง ๆ ซึ่งที่นี่มีกฎว่าห้ามถ่ายรูปบนบ้าน ถ่ายได้เฉพาะรอบ ๆ บ้านข้างล่างเท่านั้น

ลักษณะการตกแต่งบ้านของคุณจิม นั้นมีกลิ่นอายของชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักในไทยอยู่มากทีเดียว นั่นคือมักจะตกแต่งด้วย จิตรกรรม ประติมากรรม แบบไทย ๆ

ดังนั้นเราจึงจะพบเห็นพระพุทธรูปที่นี่เยอะหน่อย ส่วนบนบ้านใหญ่นั้นก็จะมีกลิ่นอายของพม่าแฝงอยู่ด้วย เนื่องจากคุณจิม เคยไปทำงานที่พม่าอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนกลับก็ได้ของฝากเป็นหุ่นตุ๊กตาไม้แบบพม่า หรือกระเบื้อง เครื่องเคลือบอื่น ๆ ตกแต่งอยู่ด้วย

เมื่อเข้าไปที่ห้องหนึ่งเราไปสะดุดตากับบ้านเด็กเล่นหลังหนึ่ง คุณไกด์บอกว่า เป็นบ้านหนู เอาไว้ใส่หนูให้หนูวิ่งเข้าไปในบ้านตัวไหนออกมาก่อนก็ชนะ น่ารักดี อันที่จริงอยากดูห้องน้ำมาก ๆ แต่ว่าเขาไม่ได้เปิดให้เข้าชม น่าเสียดาย อยากรู้ว่าเค้าจะตกแต่งห้องน้ำอย่างไร

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ พระพุทธรูปที่อยู่ด้านล่างที่นี่ส่วนใหญ่มักจะไม่สมประกอบ เช่น ไม่มีเศียร หรือมีแขนไม่ครบ ซึ่งคุณไกด์บอกว่าเป็นเพราะว่าตอนที่มีข่าวว่าคุณจิม หายไปใหม่ ๆ มีโจรนิสัยไม่ดีแอบมาย่องเบา พยายามมาขโมยาของมีค่าที่นี่ ซึ่งบางชิ้นที่สามารถหยิบยกได้ก็หายไปเลย ส่วนชิ้นไหนที่ใหญ่หน่อยก็หายไปบางส่วนเช่น เศียรหาย แขนหาย ประมาณนั้น

ก็เลยคิดว่าน่าเสียดายมาก ๆ เพราะไม่อย่างนั้นก็คงมีพระพุทธรูปที่สมบูรณ์ให้ลูกหลานรุ่นหลัง ๆ ด้ดูแบบเต็ม ๆ ไปแล้ว เฮ้อ ...... ไม่น่าเลยเนอะ

ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่เรารู้สึกดีมาก เพราะว่าที่นี่ต้นไม้เยอะมาก บรรยากาศก็เงียบสงบดีด้วย คือมาแล้วแทบไม่รู้สึกเลยว่า ที่นี่เป็นย่านใจกลางกรุงเทพจริง ๆ คือให้อารมณ์บ้านสวนมาก ๆ ว่างั้นเถอะ

นอกจากตัวบ้านเรือนไทยที่เป็นพิพิธภัณฑ์แล้วนั้น ในบริเวณพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านอาหาร แล้วก็ร้านขายผ้าจิม ทอมป์สันอยู่ด้วยใครอยากหาอะไรทานก็ตามสบาย หรืออยากจะซื้อของฝากก็ย่อมได้ 

สำหรับการเดินทางนั้นเพื่อน ๆ สามารถนำรถส่วนตัว รถประจำทาง รถไฟฟ้า รถสามล้อ หรือรถแท็กซี่ก็ได้ทั้งนั้น

ที่นี่เปิดทุกวันตั้งแต่ 09.00 - 17.00 ค่าเข้าชมสำหรับคนไทย

ผู้ใหญ่ : 100 บาท และเด็กนักเรียน / นักศึกษา : 50 บาท

เสาร์ - อาทิตย์นี้ใครว่างจะลองไปชมดูก็ได้นะคะ เพราะว่าอยู่ย่านกลางเมืองดี เดินทางก็สะดวกค่ะ