กระแสความคิด

กระแสความคิด


ไม่มีใครตีกรอบครอบงำความคิดได้ก็จริง แต่เราก็สามารถควบคุมความคิดได้ด้วยสติ มิให้เตลิดแล่นหลงไป ระลึกรู้และยับยั้งไว้ไม่ให้กระแสความคิดแล่นไหลไปเรื่อย


กระแสความคิด


ความคิดของคนเรามักแล่นไปบนฐานข้อมูลที่มีอยู่


ใครมีข้อมูลไหนหรือเก็บข้อมูลใดบรรจุไว้ในสมอง เมื่อคิดหรือพูดก็มักจะคิดพูดออกมาตามข้อมูลนั้น เช่น นักศาสนาก็คิดพูดอย่างศาสนามุ่งไปทางศรัทธาความเลื่อมใส ประพฤติปฏิบัติ นักปรัชญาก็พูดอย่างปรัชญามุ่งไปทางเหตุผลทฤษฎี ความรู้ นักวิทยาศาสตร์ก็คิดพูดอย่างวิทยาศาสตร์มุ่งไปทางพิสูขน์ทดลองสรุปผลด้วยประสาทสัมผัส ดังนั้น อย่าเพิ่งโทษตัวบุคคล ว่าทำไมเขาพูดทำอย่างนั้น ควรมองว่าเขามีข้อมูลอะไร รับข้อมูลใดมา สุดท้ายจึงค่อยสรุปที่ตัวบุคคลนั้นว่าเขาแปรข้อมูลเป็นหรือเปล่า ใช้หูหรือว่าใช้หัว

ในที่นี้ข้าพเจ้าขอพูดถึงกระแสความคิดที่มักไหลไปบนฐานของกิเลส คือ โลภ โกรธ หลง

ในภาวะของปุถุชนคนหนาด้วยกิเลส ไม่มีอิสระปลอดโปร่ง ก็เป็นธรรมดาที่กระแสความคิดจะถูกกิเลสปรุงแต่งให้คิดไปต่างๆ นานาตามอำนาจของมัน คนมากไปด้วยเรื่องโลภะก็คิดแต่เรื่องอยากได้อยากมีอยากเป็น คนมากไปด้วยโทสะก็คิดแต่เรื่องขุ่นเคืองแก้แค้น คนมากไปด้วยโมหะก็คิดหาแต่เรื่องลุ่มหลงมัวเมา



กระแสความคิด


เหล่านี้เป็นเรื่องอันตราย


ก่อนที่จะพูดหรือตัดสินใจทำอะไรลงไป กรุณาดูกระแสความคิดให้ดีว่ากำลังครุ่นคิดอยู่บนฐานของกิเลสหรือเปล่า หากรู้ว่าคิดอยู่บนฐานของกิเลสไม่ว่าโลภหรือโกรธ โปรดรับรู้ไว้ว่า ความเป็นกลาง ความถูกต้องยุติธรรม ยังไม่เกิดขึ้นเต็มร้อย เพราะโลภะจะเยื้องไปด้านซ้ายกลายเป็นฉันทาคติ โทสะจะย้ายไปด้านขวากลายเป็นโทสาคติ ยิ่งมีโมหะเพิ่มเข้ามาก็หมดกัน กำหนดทิศทางที่แท้จริงไม่ได้

ขอให้รู้ว่าขณะที่ตนครุ่นคิดอยู่นั้น กำลังคิดอยู่บนฐานอะไร หากรู้ว่าอยู่บนฐานของความโลภหรือความโกรธ ก่อนที่จะพูดทำอะไรลงไป อย่างน้อยที่สุดขอให้ความโลภความโกรธนั้นมันบางเบาลงก่อน มิฉะนั้นจะเกิดความผิดพลาด รู้ตัวในภายหลังก็นั่งเศร้าโศกเสียใจ ว่าก่อนจะทำอะไรทำไมไม่คิดให้รอบคอบ




สนับสนุนข้อคิดนานาสาระจาก :
หนังสือ พัฒนาชีวิตด้วยข้อคิดจากชีวิตจริง
โดย พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์