การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร


การเลือกใช้ "น้ำมันปรุงอาหาร" 

การเลือกใช้น้ำมันในการประกอบอาหาร 

น้ำมันถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในหการประกอบอาหาร ซึ่งจัดอยู่ในหมวดของไขมันที่เป็นแหล่งพลังงานและยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ถืงแม้ว่าน้ำมันจะมีความสำคัญต่อร่างกายแต่การรับประทานมากจนเกินไป หรือเลือกใช้ไม่ถูกวิธีการอาจก่อให้เกิดผลเสียให้และก่อให้เกิดโรคกับร่างกายได้เช่นกัน ปัจจุบันมีน้ำมันหลากหลายประเภทให้เลือกบริโภค ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบเและเลือกชนิดน้ำมันเพื่อนำมาปรุงอาหารได้อย่างถูกต้อง



การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร


น้ำมันมะพร้าว

เป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวมาก และเป็นไขได้ง่ายเมื่อมีอุณหภูมิต่ำ จึงไม่ค่อยนิยมนำมาปรุงอาหาร แต่จะใช้เพื่อผลิตมาการีนและสบู่

ข้อดี
- ช่วยล้างพิษ ขับพิษของเสียออกจากร่างกาย
- ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจมีสุขภาพดีและแข็งแรง

ข้อเสีย
- หาซื้อยาก
- ราคาสูง

การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร


น้ำมันมะกอก

เป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากที่สุด ซึ่งจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในร่างกาย อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ที่จะช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ลดรอยเหี่ยวย่นได้ น้ำมันมะกอกมีจุดเกิดควันต่ำ (หมายถึง เกิดควันได้ง่าย) จึงไม่เหมาะกับการปรุงอาหารที่ต้องใช้ความร้อน นิยมนำมาทำเป็นน้ำสลัด หรือเป็นส่วนประกอบของน้ำสลัด 

ข้อดี
- ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว หัวใจวาย ไตวาย และเส้นเลือดในสมองแตก
- ใช้บำรุงผิวได้ด้วย

ข้อเสีย 
- ราคาแพงมากและมีกลิ่นค่อนข้างฉุน



การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร


น้ำมันหมู

มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันอิ่มตัวซึ่งมีคุณสมบัติเป็นไขได้ง่ายเมื่ออากาศเย็น ไขมันสัตว์มีกลิ่นเหม็นหืนได้ง่ายเมื่อทิ้งไว้ที่อุณหภูมิธรรมดา ไขมันจากสัตว์นอกจากมีไขมันอิ่มตัวแล้วยังมีโคเลสเตอรอลอีกด้วย การกินไขมันสัตว์มากอาจจะทำให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันมะพร้าว เนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวในปริมาณมากเช่นกัน

ข้อดี
- ทำให้สารอาหารสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่า

ข้อเสีย
- มีคอเลสเตอรอลสูง
- มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง
- เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ

การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร


น้ำมันถั่วเหลือง

มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในระดับปานกลาง ไม่เป็นไขที่อุณหภูมิต่ำ แต่ถ้าผ่านความร้อนอุณหภูมิสูงมากจะเกิดอนุมูลอิสระได้ง่าย จึงเหมาะกับการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนปานกลาง เช่น การผัด หรืออาจนำมาทำน้ำสลัด และมาการีน

ข้อดี
- ไขมันอิ่มตัวต่ำ
- ราคาปานกลาง
- หาซื้อง่าย

ข้อเสีย
- เสี่ยงต่อไขมันในเส้นเลือด
- เสี่ยงต่อโรคหัวใจ
- เสี่ยงต่อโรคไต
- เสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้

การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร


น้ำมันรำข้าว

น้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันพืชชนิดหนึ่ง ผลิตจากรำข้าว มีโอริซานอล ซึ่งสารตัวนี้มีแต่ในรำข้าว สารตัวนี้จะช่วยต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นได้สูง ทำให้ไม่ต้องใส่สารกันหืนในน้ำมันรำข้าว คุณภาพทางโภชนาการของน้ำมันรำข้าวก็ไม่แตกต่างจากน้ำมันถั่วเหลืองนัก

ข้อดี
- ช่วยปรับสมดุลของระบบฮอร์โมนในสตรีวัยทอง
- สร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- ช่วยการทำงานของระบบประสาท
- ลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ
- เสี่ยงโรคหัวใจน้อยกว่าน้ำชนิดอื่น
- ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ

ข้อเสีย
- ราคาสูงมีหลายเกรด

การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร


น้ำมันปาล์ม

เป็นน้ำมันพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีบทบาทใน วงการอาหารบ้านเรามากขึ้น จุดขายที่ใช้ในการโฆษณาคือไม่มีกลิ่นหืนและทอดได้กรอบ เนื่องจากมีกรดไขมันที่มีความอิ่มตัวมากกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นที่กล่าวมา แล้วทำให้น้ำมันปาล์มมีกลิ่นหืนยากกว่า และยังไม่เกิดควันเมื่อผัด หรือทอดอาหารที่อุณหภูมิสูง มีราคาถูกจึงเป็นที่นิยมใช้ในธุรกิจอาหาร แต่ด้วยความที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง และมีกรดไลโนอีกต่ำกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นๆจึงทำให้คอเลสเตอรอลสูงได้

ข้อดี
- ทอดอาหารกรอบ
- ราคาไม่แพง

ข้อเสีย
- ไขมันอิ่มตัวสูง
- มีคลอเลสเตอรอลสูง
- เสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง
- เสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- เสี่ยงไขมันอุดตันเส้นเลือด
- เสี่ยงภาวะตับผิดปกติ
- เสี่ยงโรคเบาหวาน
- เสี่ยงโรคอ้วน
- เสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือด

การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร


น้ำมันดอกทานตะวัน 

เป็นน้ำมันไม่ระเหยที่สกัดจากเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันดอกทานตะวันเป็นที่นิยมใช้ในอาหารอย่างน้ำมันทอด และในสูตรเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวนวล

ข้อดี
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง
- ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
- บำรุงสายตา
- ลดความเสี่ยงการเป็นหมัน

ข้อเสีย
- ราคาสูงมีหลายเกรด

การเลือกใช้ น้ำมันปรุงอาหาร


วิธีเลือกใช้น้ำมันในการปรุงอาหาร

การใช้น้ำมันปรุงอาหารจะต้องคำนึงถึงความร้อนที่ใช้ประกอบอาหารเป็นหลัก เพราะนอกจากจะทำให้อาหารเหล่านั้นมีรสชาติที่เท่ากันแล้ว การเลือกใช้น้ำมันให้เหมาะสมกับชนิดและประเภทของการปรุงอาหารจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น การผัด ซึ่งใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยหรือขลุกขลิกจะใช้น้ำมันชนิดใดก็ได้ เช่นน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดฝ้าย น้ำมันมะกอก

การทอดอาหารที่ใช้น้ำมันมากและใช้ความร้อนสูงในการประกอบอาหาร เช่น ทอดไก่ ทอดปลา ทอดกล้วยแขก ทอดปาท่องโก๋ หรือทอดโดนัท ไม่ควรใช้น้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เพราะจะทำให้เกิดควันได้ง่าย น้ำมันเหม็นหืน และทำให้เกิดความหนืด เนื่องจากมีสาร “โพลีเมอร์” เกิดขึ้น น้ำมันที่เหมาะสำหรับการทอดอาหารในลักษณะนี้ คือน้ำมันชนิดที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันปาล์มหรือน้ำมันหมู เพราะนอกจากจะปลอดภัยจากสารพิษที่จะเกิดขึ้นจากการใช้น้ำมันผิดประเภทแล้ว ก็ยังได้อาหารที่มีรสชาติดี กรอบ อร่อย

ทำน้ำสลัด การทำน้ำสลัดประเภทต่างๆต้องใช้น้ำมันพืชที่ไม่แข็งตัวในอุณหภูมิต่ำ เป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก ข้อแนะนำเกี่ยวกับการใช้น้ำมันปรุงอาหาร



Credit: หมอชาวบ้าน, manager.co.th, health.kapook.com, กองโภชนาการ กรมอนามัย
,WORKPOINT ENTERTAINMENT


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์