ข้อคิดของคนทำงาน

ข้อคิดของคนทำงาน



คนทำงานจำนวนไม่น้อยพบว่า...

ตนเองไม่มีความสุขกับงานที่ทำอยู่ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ กัน แต่พวกเขาก็ยังคงทำงานที่ไม่ชอบอยู่ต่อไป ไม่ได้ขยับขยายไปหางานใหม่ที่คิดว่าตนชอบแต่อย่างใด หากคนเราไม่มีความสุข ไม่ชอบลักษณะงานที่ทำอยู่ จะทำงานนั้นให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร เมื่อผลงานออกมาไม่ได้ โอกาสที่จะก้าวหน้าในงานหรือได้เลื่อนตำแหน่งย่อมเป็นเรื่องยาก ที่จะเป็นไปได้ เพราะความไม่ชอบลักษณะงาน ขาดความสุขในการทำงาน ไม่คิดพัฒนาตนเอง หรือพัฒนาทักษะในงานแต่อย่างใด

ผู้เขียนจึงเห็นว่าหากคนทำงานเกิดความรู้สึกไม่ชอบ/ ไม่พอใจลักษณะงาน พวกเขาควรตั้งความคิดอย่างไร เพื่อเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ ซึ่งจะทำให้เขาไม่คิดในเชิงลบกับงานที่ กำลังรับผิดชอบอยู่ดังนี้ :-


► งานทุกงานให้ประสบการณ์กับบุคคลเพิ่มพูนขึ้นเสมอ

ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบงานใด ๆ ที่ต้องรับผิดชอบอยู่ ขอให้คิดว่าเมื่อเราทำงานนั้น เราย่อมมีทักษะหรือประสบการณ์เพิ่งขึ้น เสมอ และเมื่อเราคิดว่าจะเปลี่ยนงาน หรือเปลี่ยนหน้าที่ เราก็จะมีต้นทุนในทักษะของงาน หรือประสบการณ์มากกว่า/ เหนือกว่าคนที่ไม่เคยทำงานนั้น ๆ จึงเป็นข้อได้เปรียบของตนอย่างหนึ่ง



► งานนั้นไม่ได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมา

หลายคนเมื่อจบการศึกษาและได้งานทำ มีความรู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นไม่ได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมา อย่างเต็มที่ กลับต้องมาทำงานด้วยการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับงาน นั้นเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดี จึงอยากหางานที่สามารถนำวิชาความรู้ที่ได้ศึกษามาไปใช้ได้อย่าง ตรง ๆ

มีงานน้อยประเภทที่สามารถใช้ความรู้ที่ศึกษาจบจากสถาบันการ ศึกษามาอย่างตรง ๆ อย่างเช่น บัญชี แพทย์ เภสัชกร วิศวกร ฯลฯ แต่ความรู้จากการศึกษาหลายอย่างก็อาจใช้ได้ด้วยการประยุกต์ มิใช่ใช้ได้ตรง ๆ อย่างเช่น รัฐศาสตร์ นิเทศศาสตร์ ฯลฯ

คนทำงานจึงต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า มีงานน้อยมากที่ใช้ความรู้ที่ศึกษามาอย่างตรง ๆ ส่วนใหญ่แล้วความรู้ที่ศึกษามาจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เป็นความรู้พื้นฐานกว้าง ๆ เมื่อเข้าทำงานจึงต้องปรับปรุงความ รู้-ทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานนั้นเพิ่มขึ้น เพื่อจะทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบุคลากรที่องค์กร จัดให้ หรือการพัฒนาตนเองก็ตาม เช่นหลายวิชาชีพ ไม่เคยศึกษาเรื่องการขายมาก่อนเลย แต่เมื่อได้งานเป็นพนักงานขาย พวกเขาไม่สามารถใช้วิชาชีพที่ศึกษามาได้ อย่างเต็มที่ พวกเขาจึงต้องศึกษาเรียนรู้และเพิ่มพูนทักษะด้านงานขาย ซึ่งก็พบว่าหลายคนก็เจริญก้าวหน้าในงานขายได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว


► งานหนักเกินไป
หลายคนที่ได้งานทำใหม่ หรือกำลังทำงานอยู่แล้ว มักจะบ่นทำนองว่างานที่ทำอยู่นั้นหนักเกินไปวันหนึ่ง ๆ แทบไม่มีเวลาเป็นตัวของตัวเอง ทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น แถมวันเสาร์ยังต้องทำงานอีกครึ่งวัน ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกแค่ไหน

โปรดตระหนักว่า งานหนักไม่เคยทำให้ใครถึงกับสิ้นชีวิต งานหนักทำให้คนเก่งขึ้น แกรงขึ้นเสมอ มีทักษะเพิ่มขึ้นวันแล้ววันเล่า จงภูมิใจในงานหนักนั้น เพราะแสดงว่าเรามีคุณค่า มีฝีมือ จึงได้รับมอบหมายงานนั้น ๆ ตรงกันข้าม ถ้าทำงานเบา หรือไม่มีงานทำ ชีวิตแบบไหนจะมีคุณค่ากว่ากัน

► ไม่ชอบเจ้านาย ไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน
ความคิดแบบนี้จะทำให้การทำงานไม่มีความสุข เพราะต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่คนไม่ชอบ จงตระหนักว่าคนเราย่อมมีความ แตกต่างกัน ทั้งในความรู้ ทักษะ นิสัยใจคอ กิริยามารยาท ฯลฯ แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องทำงานร่วมกัน การปรับตัวปรับใจให้อยู่ร่วมกับผู้ อื่นได้อย่างราบรื่น จึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำ ดังที่เคยมีผู้กล่าวว่า  ส่วนผสมสำคัญที่สุดของสูตรแห่งความสำเร็จก็คือ ความสามารถในการทำตัวให้กลมกลืนกับผู้อื่น

เพราะฉะนั้น การมองแง่ดีของผู้อื่นย่อมดีกว่าการมองในแง่ลบ เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกัน คนทำงานจึงต้องตั้งความคิดให้ถูกต้องในการทำงาน เพื่อจะได้ทำงานอย่างมีความสุข และมีประสิทธิภาพในงานนั้น ๆ ไม่ว่าจะทำงานใด หรือมีเพื่อนร่วมงานแบบไหน  ♦


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี ดาราเดลี่


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์