ความคลั่งไคล้ iPad ส่งผลต่อโลกอย่างไร

ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ตภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต

มนุษย์ได้พัฒนาความสัมพันธ์แย่ๆ กับผลิตภัณฑ์จากบริษัทแอปเปิล วัยรุ่นหลายคนสุรุ่ยสุร่ายไปกับค่าใช้จ่ายใช่เรื่อง เพื่อที่จะได้มาซึ่งอุปกรณ์ใหม่ๆ เป็นคนเขลาทำตัวราวกับว่าชีวิตถึงคราวอวสาน หากต้องส่งอีเมล์ทางคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ขอเลี่ยงที่จะ...

คุณทราบหรือไม่ว่า บริษัทแอปเปิลได้จำหน่าย iPad จำนวน 55 ล้านเครื่องตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีพ.ศ. 2553 อาจจะจริงที่กระดานชนวนยุคไฮเทค ( iPad) สามารถช่วยให้คุณจัดการกับชีวิต แต่อะไรล่ะที่เครื่องมือชนิดนี้ทำกับโลก แม้กระดานชนวนยุคไฮเทคมีข้อดีตรงที่มีหน้าจอ LCD ซึ่งปราศจากสารหนูและสารปรอท ตัวเครื่องผลิตจากอลูมิเนียมและแก้วซึ่งสามารถนำมารีไซเคิลได้ แต่เมื่อทราบถึงข้อดีของกระดานชนวนยุคไฮเทคแล้ว จะไม่อธิบายข้อเสียก็กระไรอยู่

iPad ใช้ไฟฟ้าหล่อเลี้ยงการทำงาน 2.5 วัตต์หรือเทียบเท่าปริมาณไฟฟ้า 1 ใน 5 ที่ใช้หล่อเลี้ยงหลอดฟลูออเรสเซนต์ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระบวนการผลิตกระดานชนวนตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ iPad หนึ่งเครื่องปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 180 กิโลกรัม ซึ่งมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ดังนี้

- 67 เปอร์เซ็นต์มาจากกระบวนการผลิต
- 25 เปอร์เซ็นต์มาจากการใช้งาน
- 6 เปอร์เซ็นต์มาจากการขนส่ง
- และ2 เปอร์เซ็นต์จากการบวนการรีไซเคิล

ทั้งนี้ iPad เพียงหนึ่งเครื่องมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์เทียบเท่ากับการขับรถยนต์ในระยะทางประมาณ 828 กิโลเมตร การผลิตหนังสือจำนวน 24 เล่ม และเท่ากับกองหนังสือพิมพ์รายวัน 3 ปี โดย iPad แต่ละรุ่นมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แตกต่างกัน iPad ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 130 กิโลกรัม iPad 2 ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า iPad รุ่นอื่นๆ แต่ก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึงถึง 105 กิโลกรัม ส่วน New iPad ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดสูงสุดถึง 180 กิโลกรัม โดยเฉลี่ยแล้ว iPad ทั้งสามรุ่นปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 7,590,000 เมตริกตัน หรือเทียบเท่าปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากท่อไอเสียรถยนต์ 1,265,000 คันในหนึ่งปี

พออ่านข้อเสียของกระดานชนวนยุคไฮเทคจบ หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วบริษัทแอปเปิล...ซึ่งไม่ได้ผลิตแค่กระดานชนวนไฮเทคเพียงอย่างเดียว...จะใช้ต้นทุนทางพลังงานในการผลิตเยอะไหมหรือจะก่อมลพิษเยอะไหม แต่มาดูเฉลยพร้อมกันเลยดีกว่า

iTunes และ iCloud ต้องการกระแสไฟฟ้าจำนวนมหาศาลเพื่อหล่อเลี้ยงเครื่องเซิร์ฟเวอร์และระบบทำความเย็น ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงถึง 100 เมกะวัตต์ต่อปีหรือเทียบเท่ากับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านเรือนจำนวน 80,000 หลัง ซึ่งในปัจจุบันบริษัทแอปเปิลกำลังดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ใน iDataCenter ทั้งนี้ ไฟฟ้ามีที่มาจากแหล่งกำเนิดต่างๆ อันได้แก่

- พลังงานเชื้อเพลิง 5 เปอร์เซ็นต์
- พลังงานถ่านหิน 46 เปอร์เซ็นต์
- พลังงานนิวเคลียร์ 23 เปอร์เซ็นต์
- พลังงานแสงอาทิตย์ 20 เปอร์เซ็นต์
- และพลังงานแหล่งอื่นๆ 6 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ โรงงานหลายโรงของบริษัทแอปเปิลระบายน้ำเสียลงสู่ท่อระบายน้ำโดยไม่ผ่านการบำบัดเสียก่อน โดยโรงงานโรงหนึ่งปล่อยน้ำเสียลงสู่ไร่นา นอกจากนี้ยังพบปริมาณการปนเปื้อนของโลหะหนักสูงถึง 56 เท่าจากระดับปกติบริเวณทะเลสาบแห่งหนึ่ง ส่วนโรงงานจำนวน 72 โรงจัดเก็บสารเคมีผิดวิธี ทั้งนี้ คนงานจำนวน 137 คนได้รับบาดเจ็บหลังจากทำความสะอาดหน้าจอ iPhone ด้วยสารเฮกเซน ส่วนคนงาน 4 คนเสียชีวิตจากเหตุระเบิดโรงงานผลิต iPad

แต่ทั้งนี้ บางคนอาจจะแคลงใจว่าตั้งแต่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทแอปเปิลได้จำหน่าย iPad ไปแล้ว 55 ล้านเครื่อง แล้วบริษัทแอปเปิลจะคำนึกถึงขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทไหม บริษัทแอปเปิลทำการการรีไซเคิลขยะ

อิเล็กทรอนิกส์จากผลิตภัณฑ์ iPad 13.16 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ จำนวนประเทศที่จำหน่ายสินค้าของบริษัทแอปเปิลร้อยละ 95 รีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตจากบริษัทแอปเปิล นอกจากนี้ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2537 บริษัทแอปเปิลได้ทำการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 115, 504 เมตริกตัน ซึ่งหนักกว่าน้ำหนักของเรือบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์