ความรู้จากแพทย์จีน



1. หวีผมบ่อย ๆ
หวีผมเบา ๆ บ่อยหน่อยช่วยให้ตาสว่าง และรากผมแข็งแรง
(ใช้หวีซี่ห่างหน่อย แปรงเบา ๆ หน่อย เพื่อกันผมหลุด)

2. ถูใบหน้าบ่อย ๆ
ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นใช้ฝ่ามือ 2 ข้าง
ถูหน้าเบา ๆ บ่อย ๆ เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ใบหน้าเปล่งปลั่ง

3. เคลื่อนไหวดวงตาบ่อย ๆ
ให้มองไกล - มองใกล้ มองข้างนอก - ข้างใน มองบน - มองล่าง หลีกเลี่ยงการมอง
หรือจ้องอะไรนาน ๆ โดยเฉพาะคนที่ทำงานคอมพิวเตอร์ควรพักสายตาด้วยการมองไกล
อย่างน้อยทุกชั่วโมง

4. กระตุ้นใบหูบ่อย ๆ
การดึงหู ดีดหู บีบหู ถูใบหูเบา ๆ บ่อยหน่อย ช่วยบำรุงตานเถียน (จุดฝังเข็ม)
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เก็บพลังงานของร่างกาย (ใต้สะดือ) สัมพันธ์กับไต ซึ่งเปิดทวารที่หู
ทำให้แรงดี ป้องกันเสียงดังในหู หูตึง และอาการเวียนหัว

5. ขบฟันบ่อย ๆ
ขบฟันเบาๆ บ่อยหน่อย (ไม่ใช่ขบแรงดังกรอด ๆ) ช่วยให้ฟันแข็งแรง และกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย

6.ใช้ลิ้นดุนเพดานปากบ่อย ๆ
การใช้ปลายลิ้น กระตุ้นเพดานบนด้านหน้าเป็นการกระตุ้นจุดฝังเข็ม เพื่อเชื่อมพลัง
ลมปราณตู๋และเยิ่น ซึ่งเป็นเส้นควบคุมแนวกลางลำตัวส่วนหลัง และส่วนหน้าร่างกาย
ทำให้เกิดการกระตุ้นการหลั่งสารน้ำ และน้ำลาย

7. กลืนน้ำลายบ่อย ๆ
การกลืนน้ำลายบ่อย ๆ ช่วยกระตุ้นพลังบริเวณคอหอย และกระตุ้นการย่อยอาหาร

8.หมั่นขับของเสีย
หมั่นขับของเสีย โดยเฉพาะดื่มน้ำให้พอ กินอาหารที่มีเส้นใย ออกกำลัง
เพื่อป้องกันท้องผูก เมื่อปวดปัสสาวะหรืออุจจาระให้ถ่ายทันที อย่ารอโดยไม่จำเป็น
การทิ้งของเสียไว้ในร่างกายนานเกิน ทำให้เกิดสารพิษ และการดูดซึมสารพิษ
(กลับเข้าสู่ร่างกาย) มากขึ้น ทำให้ป่วยง่าย

9. ถูหรือนวดท้องบ่อย ๆ
ให้นวดท้องตามเข็มนาฬิกาเบา ๆ เพื่อช่วยให้การขับถ่ายของเสียดีขึ้น

10. ขมิบก้นบ่อย ๆ
การขมิบก้นบ่อยๆ ช่วยป้องกันริดสีดวงทวาร และท้องผูก

11. เคลื่อนไหวทุกข้อ
การอยู่นิ่ง ๆ หรืออยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป ทำให้เกิดโรคได้ง่าย ควรเคลื่อน
ไหวข้อต่าง ๆ ให้ครบทุกข้อทุกวัน ฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อและข้อให้สมดุล เช่น
การฝึกชี่กง ไท้เก้ก โยคะ ฯลฯ

12. ถูผิวหนังบ่อย ๆ

ใช้ฝ่ามือถูตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คล้ายกับการถูตัวเวลาอาบน้ำ มีส่วนช่วย
ให้เลือดและพลังไหลเวียนดี เรียนเชิญท่านผู้อ่านลองนำไปปฏิบัติดู เพื่อสุขภาพ
พลัง และลมปราณที่ดีไปนานๆ


ท่านอาจารย์นายแพทย์ภาสกิจ (วิทวัส) วัณนาวิบูล อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
แพทย์แผนจีนแนะนำเคล็ดลับการดูแลสุขภาพตามศาสตร์แพทย์แผนจีนว่า อาหาร 10 อย่าง
ที่ไม่ควรกินมากเกิน นำแนวคิดศาสตร์แพทย์แผนจีนมาวิเคราะห์โดยใช้หลักแพทย์แผนปัจจุบัน
ประกอบ . . .

อาหารที่ไม่ควรกินมากเกิน หรือบ่อยเกิน ได้แก่ . . .

1. ไข่เยี่ยวม้า : ไข่เยี่ยวม้ามีตะกั่วค่อนข้างสูง ตะกั่วทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลงกินบ่อย ๆ
จะเสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง และอาจได้รับพิษตะกั่วเช่น สมองเสื่อม เป็นหมัน ฯลฯ

2. ปาท่องโก๋ : กระบวนการทำปาท่องโก๋มีการใช้สารส้ม ซึ่งมีตะกั่วปนเปื้อน
ตะกั่วทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารนี้ออกไป นอกจากนั้นยังทำให้คอแห้ง เจ็บคอง่าย
โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคร้อนในได้ง่าย

3. เนื้อย่าง : กระบวนการรมไฟ ย่างไฟ ทำให้เกิดสารเบนโซไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

4. ผักดอง : ผักดองและของหมักเกลือทำให้ร่างกายได้รับเกลือโซเดียมสูง ถ้ากินบ่อยเกิน
หรือมากเกิน จะทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดความดันเลือดสูงและโรคหัวใจได้ง่าย
นอกจากนั้นกระบวนการหมักดองยังทำให้เกิดสารแอมโมเนียมไนไตรด์ ซึ่งเป็นสาร ก่อมะเร็ง

5. ตับหมู : ตับหมูมีโคเลสเตอรอลสูง การกินตับหมูบ่อยเกิน หรือมากเกิน ทำให้เสี่ยงต่อ
โรคหัวใจ เส้นเลือดสมอง (อัมพฤกษ์-อัมพาต) และโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น

6. ผัก ขม ปวยเล้ง : ผักขมและปวยเล้งมีสารอาหารสูง ทว่า ... มีกรดออกซาเลตมาก
ทำให้เกิดการขับสังกะสีและแคลเซียมออกจากร่างกายมาก การกินบ่อยเกิน หรือมากเกิน
อาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลเซียม หรือสังกะสีได้

7. บะหมี่ สำเร็จรูป : บะหมี่สำเร็จรูปมีสารกัดบูด สารแต่งรสค่อนข้างสูง
และมีคุณค่าทางอาหารต่ำ การกินบะหมี่สำเร็จรูปมากเกิน หรือบ่อยเกินอาจทำให้เสี่ยงต่อ
โรคขาดอาหาร และการสะสมสารพิษได้

8. เมล็ดทานตะวัน : เมล็ดทานตะวันมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ทว่า... การกินมากเกิน
หรือบ่อยเกินอาจทำให้กระบวนการเคมี (metabolism) ในร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิด
การสะสมไขมันในตับภาวะไขมันในตับสูง อาจทำให้เสี่ยงต่อโรคตับ เช่น ตับแข็ง ฯลฯ เพิ่มขึ้น

9. เต้าหู้ หมัก เต้าหู้ยี้ : กระบวนการหมักเต้าหู้อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่าย ...
ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคนสูงอายุ หรือเด็กเล็กได้ นอกจากนี้กระบวนการผลิตยังทำให้เกิด
ไฮโดรเจนซัลไฟด์ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย

10. ผงชูรส : คนเราไม่ควรกินผงชูรสเกินวันละ 6 กรัม หรือประมาณ 1 ช้อนชา...
การกินผงชูรสมากเกิน หรือบ่อยเกินทำให้เกิดภาวะกรดกลูตามิกในเลือดสูง อาจทำให้ปวด
หัวใจสั่น คลื่นไส้ และมีผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์ ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีอาหารปลอดภัย
และมีสุขภาพดีไปนาน ๆ


ขอบคุณเนื้อหาจาก : FW Mail


ความรู้จากแพทย์จีน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์