คัน...ข้างในตา เคยเป็นกันไหม?


คันตาหรือคันนัยน์ตา เป็นอาการที่ทุกคนเคยเป็น เคยคันกันมาแล้วทั้งนั้น เมื่อคันแล้วก็อยากขยี้หัวตา เกาขอบตา อยากเอาลูกตาออกมานอกเบ้าแล้วเกาให้หายคันให้สมอยาก ให้สะใจไปเลย คันตาจะพบมากในเด็กเล็กๆ วัยรุ่น หรือวัยเรียน ผู้ใหญ่ก็เป็นได้ โดยมากมักจะคันบริเวณขอบตา เปลือกตา บางรายเป็นบ่อย เป็นแล้วเป็นอีก บางคนนานๆ เป็นครั้ง อาการคันตานั้นจะคันน้อย คันมาก แล้วแต่คน บางคนขยี้จนเยื่อตาแดง บวม

ครั้นจะยอมทนอดกลั้นไม่ขยี้ก็จะประสาทกิน เพราะมันคันยุบยิบไปหมดในลูกตา เหมือนมีตัวอะไรเข้าไปเดินไปไต่บริเวณเยื่อตา ขอบตา เปลือกตา หัวตา หรือหางตา แล้วแต่ตำแหน่ง

คัน...เป็นเพราะเหตุใด


คัน เป็นอาการแพ้ที่มีอาการแสดงออกทางเยื่อตา หรือเปลือกตา อย่างหนึ่ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายๆ อย่างดังต่อไปนี้

 1. เยื่อตาอักเสบ (acute conjunctivitis) การอักเสบเยื่อตาขาว อาจจะเป็นที่เยื่อตาขาวหุ้มลูกตาหรือเยื่อตาที่หุ้มเปลือกตาด้านในก็ได้ การอักเสบชนิดนี้ส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อไวรัส คล้ายกับเป็นหวัดซึ่งมักจะมีอาการคัดจมูก คันรูจมูก คันคอ ทำให้เกิดอาการจาม น้ำมูกไหล หรือไอ เจ็บคอ ส่วนอาการคันตาก็จะมีน้ำตาออกมาหรือน้ำตาไหล ระคายเคือง ร่วมด้วย เหมือนจะให้อาการอักเสบนั้นครื้นเครงสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

การอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียปรากฏไม่ค่อยมากนัก ส่วนใหญ่ถ้าเป็นจะมีขี้ตาออกมามากกว่าการอักเสบจากเชื้อไวรัส อาการคัน มักจะเริ่มต้นแถวบริเวณหัวตา หรือหางตา หัวตาจะพบบ่อยกว่า เมื่อขยี้สักพักเยื่อตาจะแดงและบวม ถ้าทำซ้ำกันบ่อยๆหลายๆครั้ง ตาจะแดงมากจนเห็นได้ชัด

 2. แพ้บางสิ่งบางอย่าง (allergy) ได้แก่ แพ้อะไรก็ได้ที่กระทบเยื่อตา เพราะภาวะภูมิแพ้มีกันได้ทุกคน บางคนออกมาในรูปของอาการคันตามตัว เป็นผื่นคัน ลมพิษ หรือคันจมูก ไอ จาม หอบหืด หายใจไม่สะดวก แน่นหน้าอก คันตา คันขอบตา คันหนังตา

2.1 สิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย ได้แก่ แพ้ฝุ่น ลม ละอองเกสรดอกไม้ ละอองฟางข้าว ควันไฟ กลิ่นสาบสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย แพะ แกะ สุนัข แมว นก กระต่าย หรืออาการแพ้เสื้อผ้า น้ำ อากาศ เช่น ร้อนจัด หนาวจัด ชื้นอับ ห้องปรับอากาศ
2.2 อาหารบางชนิด เช่น กุ้ง ปู ปลา หน่อไม้ เนื้อวัว เนื้อควาย เนื้อหมู ผักบางอย่าง หรือของหมักดอง เช่น มะม่วงดอง มะยมดอง ผักดอง เป็นต้น
2.3 บางคนแพ้แม้กระทั่งคน เช่น คนข้างเคียง หรือคนบางคนที่ไม่สบอารมณ์ แพ้กลิ่นคน มีผลทำให้เกิดอาการคันตาขึ้นมาทุกครั้งที่ได้พบบุคคลนั้น การแพ้ลักษณะนี้อาจเป็นเพราะภาวะจิต (psychic) ก็ได้
2.4 แพ้ฤดูกาล บางคนแพ้เมื่ออากาศร้อนอบอ้าว หรือแพ้ฤดูฝน ฤดูหนาว แล้วแต่ใครจะแพ้ฤดูไหน ที่พบบ่อยๆ คือ ฤดูร้อน อากาศแห้งแล้ง เด็กวัยรุ่นเป็นกันมาก เรียกว่า โรคตาชนิดภูมิแพ้ฤดูร้อน (summer season conjunctivitis หรือ spring catarrhal conjunctivitis) เข้าฤดูนี้ทีไร เด็กคนนี้คือ คนที่เคยแพ้จะเกิดความรู้สึกทรมาน ทุรนทุรายจากการขยี้ตา ขยี้จนเยื่อตาบวมแดง ถ้าขยี้มากเยื่อตาจะคล้ำเป็นสีน้ำตาลเรื่อๆ หรือปนดำไปก็มี (vernal conjunctivitis) พบว่า เยื่อตาจะมีลักษณะเป็นจ้ำๆ เหมือนเปลือกผลมะระหรือเมล็ดข้าวโพดที่เรียงอยู่บนฝักข้าวโพด การขยี้ตาจะทำให้ตาอักเสบมากขึ้นและอาจมีเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม ทำให้มีขี้ตาปนออกมาเมื่อตื่นนอนตอนเช้า เมื่อพ้นฤดูร้อนหรือฤดูแล้งไปแล้ว อาการของโรคนี้จะค่อยๆทุเลาลงหรือหายไป แต่จะกลับเป็นซ้ำอีกเมื่อเข้าฤดูกาลหน้า ก่อความรำคาญแก่ตัวผู้ป่วยและพ่อแม่ญาติพี่น้อง
2.5 แพ้ยาหยอดตา ยาป้ายตา พบได้บ่อยพอสมควร บางคนแพ้ยาบางชนิด พอหยอดเข้าไปครั้งเดียว ไม่ช้าก็เกิดอาการคันตา ตาแดง ขอบตาเห่อ บวมแดง เป็นผื่นคัน และแสบ ถ้าหยุดยาชนิดนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อแพ้ยาชนิดใดหรือสงสัยจะแพ้ยาตัวใดให้รีบหยุดยาแล้วปรึกษาแพทย์ทันทีว่า อาการคันตาที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการแพ้ยาที่ใช้หรือไม่
2.6 แพ้เครื่องสำอาง (cosmetic) ได้แก่ พวกสีทาขอบตา เครื่องสำอางประเทืองผิว ครีมรองพื้น แชมพู น้ำยาสระผม หรือแป้งทาหน้า มีผลทำให้คันตาได้
2.7 อื่นๆ นอกจากที่กล่าวมาแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะเป็นต้นเหตุได้ เช่น เลนส์สัมผัส (contact lens) หนังสือ กลิ่นไอธูปเทียน กลิ่นน้ำครำ น้ำเน่า สเปรย์ฉีดดับกลิ่น ยาฉีดพ่นฆ่ายุง มด ปลวก แมลง เป็นต้น

 3. เริ่มจะเป็นกุ้งยิง (hordeolum) อาการเริ่มจะเป็นฝีที่เปลือกตา หรือที่เรียกว่า กุ้งยิง เริ่มต้นจะมีอาการคันๆ ก่อน ต่อมาทั้งคันและปวดบริเวณขอบตาหรือเปลือกตาด้านเดียวกัน ต่อมาจะเจ็บอย่างเดียว และปวดเจ็บที่ตาบริเวณที่เป็นฝี มีอาการบวมแดง ปวด และเคืองตา

บางรายเป็นบ่อย เริ่มจากเป็นบริเวณเปลือกตาบน ต่อมาอีก 2 สัปดาห์เป็นที่เปลือกตาล่าง สลับตาซ้าย ตาขวา จึงทำให้เกิดอาการคันตาบ่อยๆ

คัน...ข้างในตา เคยเป็นกันไหม?

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์