คำถามคาใจ มนุษย์เงินเดือน

คำถามคาใจ มนุษย์เงินเดือน

คำถามคาใจ มนุษย์เงินเดือน


  1. ทำไมถึงเปิดเผยตัวเลขเงินเดือนไม่ได้ ทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาก เพราะเรื่องเงินเดือนเป็นข้อมูลเฉพาะตัวและขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้านาย เป็นสำคัญ ลองนึกง่ายๆ คุณจะยอมรับความจริงและทำงานต่อไปแบบไม่รู้สึกอะไรเลยได้หรือไม่ หากทราบว่าเจ้านายประเมินศักยภาพในการทำงานของเพื่อนรัก (ซึ่งคุณคิดมาตลอดว่าเก่งน้อยกว่าคุณนิดเดียว) สูงกว่าคุณมาก ที่สำคัญ ขอบอกเลยว่าหลายบริษัทได้ตั้งกฎห้ามเผยแพร่ตัวเลขเงินเดือน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นเพื่อนสนิทของคุณหรือไม่ก็ตาม บางแห่งหากมีการละเมิดกฎข้อนี้ อาจถูกลงโทษทางวินัยได้
  2. ถ้าเราไม่ใช้วันพักร้อน ทางบริษัทจะต้องจ่ายคืนเป็นเงินแก่พนักงานหรือไม่ โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะต้องจ่ายคืนเป็นเงินแก่พนักงานคนนั้นๆ แต่กรณีที่บางบริษัทไม่จ่ายเป็นเงิน ก็อาจสมทบวันพักร้อนที่ไม่ได้ใช้รวมเข้ากับวันพักร้อนของปีถัดไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระเบียบของแต่ละบริษัท
  3. ได้งานตำแหน่งพนักงานขาย และบริษัทต้องการให้เราจ่ายเงินสดจำนวนหนึ่งเป็นเงินค้ำประกัน กลัวถูกหลอกค่ะ โดยทั่วไปบริษัทมักจะให้เราหาคนมาค้ำประกัน ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้ว แต่หากคุณประเมินในเบื้องต้นด้วยตัวเองแล้วรู้สึกว่าบริษัทมีชื่อเสียงและ คุณเองก็อยากร่วมงานด้วยจริงๆ ก็ควรเจรจาต่อรองกับนายจ้าง เช่น ให้บริษัทหักจากเงินเดือนของเรา ซึ่งจะเป็นเดือนละเท่าไรก็ว่าไป
  4. หลายบริษัทเกิดเรียกตัวให้ไปทำงานในเวลาไล่เลี่ยกันตัดสินใจไม่ถูกเลย ควรจัดอันดับก่อนเลยว่าคุณอยากจะทำงานกับบริษัทไหนมากที่สุด จากนั้นค่อยมองดูปัจจัยอื่นๆ ตามมา ได้แก่ การเดินทาง, ฐานเงินเดือน โอกาสก้าวหน้าในการทำงาน ฯลฯ สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะตอบปฏิเสธบริษัทไหน ควรปฏิเสธแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น พร้อมขอบคุณที่เขาพิจารณาเลือกคุณด้วยเป็นดีที่สุด
  5. สัญญาการจ้างงานแบบปีต่อปีใกล้จะหมดอายุ หากบริษัทไม่ต่อสัญญา เราจะได้เงินค่าชดเชยหรือไม่ กรณีลูกจ้างตามสัญญาจ้าง เมื่อไม่มีการต่อสัญญา นายจ้างไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชย เพราะตามสัญญาก็มีการระบุชัดเจนอยู่แล้วว่า บริษัทตกลงจะจ้างคุณทำงานตั้งแต่เมื่อไร สิ้นสุดเมื่อไร ซึ่งถือเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างเอง
  6. สนใจเรียนปริญญาโท เท่าที่ฟังๆ สาขาที่รุ่งก็มีด้านไอทีกับการตลาด ไม่ทราบว่าจะเลือกเรียนด้านไหนดี การเลือกสาขาสำคัญก็จริง แต่คุณควรรู้จักตนเองเป็นอันดับแรก เช่น หากประเมินตัวเองว่าชอบทำงานเป็นระบบมากกว่าการใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือชอบทำงานกับตัวเองมากกว่าพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา ก็ควรเลือกเรียนไอที เป็นต้น ต่อจากนั้นค่อยเลือกสาขา โดยมองเป้าหมายว่า ต้องการเรียนเพื่อรู้หรือเพื่อนำไปต่อยอดทำมาหากินในอนาคต ซึ่งถ้าเป็นข้อหลัง คุณก็ต้องเลือกสาขาที่นำมาปรับใช้กับงานที่ทำอยู่จึงจะดีที่สุด
  7. อายุ งานยังน้อย แต่ได้รับการโปรโมท พอเพื่อนร่วมงานรู้ก็เริ่มตีตัวออกห่างและพูดจาเสียดสี ทนรับความกดดันไม่ไหวจึงลาออก แต่มาเจอเหตุการณ์เดียวกันในที่ทำงานใหม่อีก การเป็นน้องใหม่หรืออายุงานน้อยแต่ได้เลื่อนขั้น เป็นไปได้ที่จะสร้างความอิจฉา เพราะคงมีบางคนที่เฝ้ารอตำแหน่งที่คุณได้รับอยู่เช่นกัน แต่ใช่ว่าคุณจะต้องลดคุณภาพงานของตัวเองหรือย่ำอยู่กับที่เพื่อความสบายใจ ควรพัฒนาตัวเองต่อไปดีกว่ามัวแก้ไขความคิดของคนอื่น

ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด แล้วสิ่งดีๆก็จะตามมาเอง ^-^ จริงไหมคะ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์