คำเตือน !! ข้าวมันไก่

คำเตือน !! ข้าวมันไก่


ตรวจพบเชื้อแบคทีเรียในปริมาณที่เกินมาตรฐาน


บัณฑิตวิทยาศาสตร์การอาหารตรวจพบเชื้อแบคทีเรียในปริมาณที่เกินมาตรฐานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในจานข้าวมันไก่ที่วางรอขายนานเกิน 4ชั่วโมงเตือนผู้ซื้อควรร้องขอให้ผู้ขายลวกเนื้อไก่ซ้ำก่อนซื้อหรือกินเพื่อป้องกันและควบคุมอันตรายจากโรคทางเดินอาหาร

จากการสุ่มตรวจข้าวมันไก่ซึ่งนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายและมีขายอยู่มากตามริมบาทวิถี ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดโดยนางสาวปรารถนา เกิดบัว บัณฑิตวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การอาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าข้าวมันไก่เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่มีการปนเปื้อนจากเชื้อจุลินทรีย์สูงแม้ว่าจะผ่าน การปรุงสุกแล้วก็ตามโดยไก่ต้มตัวสุดท้ายถูกแขวนไว้รอขายนาน 8-9 ชั่วโมงจนกว่าจะปิดร้านขณะที่ FAD Food Code แนะนำเวลาในการรอเสิร์ฟไม่ควรเกิน 4 ชั่วโมง นับตั้งแต่การปรุงสุก




สำหรับแบคทีเรียที่ตรวจพบในข้าวมันไก่ คือ S.aureus, C.perfringens,Salmonella


โดยเฉพาะเนื้อไก่ที่ปรุงทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกิน 5ชั่วโมง เชื้อจะเจริเติบโตเพิ่มจำนวนขึ้นมาก และ พบเชื้อ E.coliในแตงกวาปอกเปลือกทุกชิ้นที่เป็นเครื่องเคียงกินกับข้าวมันไก่คาดว่าติดมากับใบมีด เขียง และมือที่ไม่สะอาดโดยจุลินทรีย์ที่พบสามารถก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้อง มีไข้หนาวสั่นและอ่อนเพลียแต่ความ รุนแรงของอาการ ที่เกิดขึ้นจะแตกต่างไปตามปริมาณและชนิดของเชื้อที่บริโภค


ควรจำกัดเวลาขายไม่เกิน 4 ชั่วโมงโดยนับเวลาตั้งแต่ต้มไก่สุกจนกระทั่งขาย


ผู้วิจัยเสนอแนะว่ามาตรการควบคุมจำนวนจุลินทรีย์ทั้งหมด ให้อยู่ในเกณฑ์คุณภาพคือ ควรจำกัดเวลาขายไม่เกิน 4 ชั่วโมงโดยนับเวลาตั้งแต่ต้มไก่สุกจนกระทั่งขาย หากเกินเวลาควรมีการอุ่นอาหารก่อนรับประทานซึ่งจะเป็นทางเลือกทำให้เกิดความปลอดภัยต่อการบริโภคมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้ขายควร ระมัดระวังการสัมผัสอาหาร ที่ปรุงสุกแล้วด้วยมือหรืออุปกรณ์ และภาชนะที่ไม่สะอาดเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค

สำหรับจุลินทรีย์ในน้ำจิ้มข้าวมันไก่มีค่าสูงเกินเกณฑ์คุณภาพทางจุลชีววิทยาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อาจเกิดจากการปนเปื้อนมาจากวัตถุดิบไม่สะอาดแต่เนื่องจากระดับ pH ของน้ำจิ้มข้าวมันไก่วัดได้ 4.22 ขณะที่เชื้อแบคทีเรียจะเจริได้ดีในอาหารที่มี pH 5.5-7.0ดังนั้น สภาวะในน้ำจิ้มจึงไม่เหมาะ ต่อการเจริของแบคทีเรียอย่างไรก็ตาม ร้านค้าควรเปลี่ยนน้ำจิ้มใหม่ทุกวัน



ที่มา : หนังสือพืมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์