งานหนัก เงินเดือนน้อย

เป็นธรรมดาของโลกทุนนิยมเมื่อคุณทำงานคุณก็จะได้ค่าตอบแทน แต่งานบางอย่างสำหรับโลกทุนนิยมนั้นค่าแรงไม่เท่ากัน งานที่ต้องใช้แรงงานค่าแรงน้อย แต่งานที่ใช้สมองค่าแรงจะเยอะกว่า แล้วถ้าคุณต้องใช้ทั้งแรงกาย และสมองในการทำงานแต่ยังได้เงินน้อยบ้างล่ะ

รู้สึกว่าปัจจุบันนี้เรื่องนี้ดูจะเป็นเรื่องสำคัญมากเป็นอันดับต้น ๆ ที่ทำให้คนเปลี่ยนงานกันบ่อย บ้างก็ว่าเงินเดือนน้อยไม่พอใช้ บ้างก็ว่าเงินเดือนที่ได้ไม่คุ้มกับแรงกายที่ทุ่มเทไป หลากหลายเหตุผลมากมายที่คนเราจะปฏิเสธงาน

แถมยิ่งคุณมัวแต่คิดว่างานที่ทำอยู่นั้นได้เงินน้อยไม่คุ้มกับค่าแรง หรือเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่เงินเดือนมากกว่า มันก็ยิ่งจะทำให้คุณสุขภาพจิตเสียเปล่า ๆ ยิ่งคิดจิตใจก็ยิ่งไม่เบิกบาน

ทางที่ดีคือลองเปลี่ยนมุมความคิดของคุณเสียใหม่จะดีกว่า ลองคิดใหม่เสียว่า งานที่คุณทำอยู่นั้นสอนอะไรคุณได้บ้าง งานที่ทำอยู่นั้นทำให้คุณเกิดความชำนาญด้านไหนเพิ่มขึ้น งานที่คุณทำทำให้รู้จักคนเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน

อย่าเพียงแต่คิดว่าเงินนั้นจะต้องเป็นคำตอบของทุกสิ่ง เพราะในโลกทุนนิยมนั้น เงินไม่ใช่คำตอบของคำว่าอิ่ม แต่เงินเป็นตัวแปรที่ทำให้เราอิ่มได้ในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น

หลาย ๆ คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ต่างก็เริ่มต้นมาจากความเหนื่อยยาก การทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานที่เค้ารักมาก่อนแทบทั้งนั้น แม้ว่าในช่วงแรก ๆ สิ่งตอบแทนที่พวกเขาได้นั้นมันจะน้อยนิด แต่เพราะใจที่รักงานของเขา จึงทำให้ผลงานออกมาดี เมื่องานออกมาดี งานก็จะเอาความชื่นชม ความสำเร็จมาสู่พวกเขาในภายหลัง

อย่าลืมนะคะ ตราบใดที่คุณไม่รักงานที่คุณทำ คุณก็ย่อมไม่มีความสุข เมื่อคุณไม่มีความสุข ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับงาน มันก็ไม่ดีทั้งนั้นในสายตาของคุณ แถมยังทำให้สภาพจิตใจเสียไปเปล่า ๆ ด้วยค่ะ