ง่วงนอนตอนกลางวัน

ง่วงนอนตอนกลางวัน


             ลีซ่า ลอง นักวิเคราะห์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในเมืองพาโล ออลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย เล่าให้เราฟัง ว่า "ฉันมักจะมีอา การรง่วงนอนตลอดเวลาในตอนกลางวัน คืนวันจันท์ฉันได้นอน 6 ช.ม และคืนวันอังคาร นอน 7 ช.ม และเมื่อคืนนี้ฉันเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ฉันก็ยังยังง่วงอยู่ดี" ลีซ่า เล่าให้เราฟังพร้อมกับหาวไปด้วย "ส่วนในคืนวันศุกร์ และวันเสาร์ ฉันมักจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ทำงาน และมักจะนอนดึก แต่ฉันก็จะ ตื่นสายเช้าวันรุ่งขึ้น" ลีซ่า เล่าต่อ


การหลับ คือ การหยุดพักของร่างกายโดยการนอนราบ ตาหลับ บางคนอาจมีอาการกรน แสดงว่า "หลับแล้ว" การหลับในแต่ละคนจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากคุณนอนหลับได้ไม่เพียงพอในตอนกลางคืน การนอนตื่นสายในวันรุ่งขึ้นจะไม่สามารถชดเชยได้

การที่เรานอนหลับไม่เพียงพอก็อาจส่งผลกระทบกับการทำงานหรือกิจกรรมประจำวันได้ เช่น อาจทำให้คุณหงุดหงิดกับคนรอบข้าง เพื่อนร่วมงานอีกทั้งยังทำลายสมาธิในการปฎิบัติงานอีกด้วย

ดังนั้นการพักผ่อนนอนหลับที่พอเพียงจะช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ให้กับร่างกาย เรามีเคล็ดลับง่ายๆ มีดังนี้

1. ควรนอนในช่วงเวลาที่พอดี เช่น การนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงนั้นถือว่าเป็นเวลาที่ดีที่สุด หรือคุณอาจจะนอนมากกว่านี้ก็ได้ในบางวัน เมื่อได้นอนเต็มอิ่มแล้ว คุณจะรู้สึกแจ่มใสสดชื่น เนื่องจากร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่

2. กำหนดกติกาบนเตียงนอน เตียงนอนหรือที่นอนนั้นเป็นที่สำหรับการหลับพักผ่อน ดังนั้นการนำงานมาทำหรือเล่นเกมส์บนที่นอน ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะจะไปกระต็นให้คุณตื่นตัวส่งผลให้คุณเกิดอาการกังวลและหลับยากยิ่งขึ้น

3. สร้างนิสัยเวลาตื่นจากการนอน การเข้านอนให้เป็นเวลาทุกวัน จะช่วยปรับสภาพร่างกายให้ง่วงและชินกับเวลาในการเข้านอน และเมื่อเข้านอนเป็นเวลาแล้ว การตื่นนอนตอนเช้าก็ควรที่จะเป็นเวลาเดียวกันทุกวัน หรือที่เรียกว่า bioclock ที่ร่างกายจะเกิดการชินกับเวลาตื่นนอน

4. ค่อยๆ ปรับและจัดเวลาเข้านอนการค่อยๆ ปรับ เวลาในการเข้านอน นั้นควรค่อยปรับในแต่ละคืน เช่น คืนนี้คุณอาจกำหนดการเข้านอนตอนสามทุ่ม แต่คุณควรเข้านอนก่อนเวลาซัก 15 นาที ในการจัดระบบการนอนแบบนี้จะช่วยให้ร่างกายจดจำระบบการนอนอย่างสม่ำเสมอ

5. การรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย การออกกำลังกายนั้นสามารถช่วยผ่อนคลายความ เครียดก่อนที่จะเข้านอนได้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ คาเฟอีน หรือเครื่องดื่มชูกำลัง และควรงดการรับประทานอาหารมื้อหนักๆ ก่อนเข้านอน ควรหาน้ำสมุนไพรอุ่นๆ มา ดื่มซึ่งจะช่วยให้คุณหลับสบายขึ้น

6. ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ในกรณีที่คุณอาจมีภารกิจที่ยุ่งเหยิง แต่ก็ต้องการเข้านอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมง อาจทำให้คุณหงุดหงิดหรือเครียดได้ ดังนั้น ค่อยๆ ปรับ เวลาเข้านอนตามกิจวัฒประจำวันก้ได้ครับ เมื่อคุณสามารถบริหารกิจกรรมเพื่อให้เข้าสู่ระบบการนอนได้แล้ว อาการหงุดหงิดก็จะบรรเทาลงได้

7. เข้านอนเมื่อง่วงมากๆ คุณไม่ควรงีบระหว่างวันเพราะการงีบจะส่งผลให้คุณนอนหลับยากในตอนกลางคืน

8. หากิจกรรมที่ผ่อนคลายก่อนเข้านอน การหาวิธีผ่อนคลายก่อนเข้านอนเป็นอีกทางเลือก ที่ช่วยให้คุณหลับสบาย เช่น การนั่งสมาธิ หาอ่านหนังสือเบาๆ ฟังเพลง สวดมนต์ แช่น้ำอุ่น หรือดื่มนมอุ่นๆ ก็จะสามารถช่วยให้ร่างกายคุณได้ผ่อนคลาย ทำให้หลับง่ายขึ้น

9. เข้ารับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ หากคุณมีปัญหาในการนอนไม่หลับหรือนอนไม่พอ ซึ่งอาจเกิดจากภาวะความเครียด กังวล หรือความบอบช้ำทางจิตใจ คุณควรเข้ารับการปรึกษาจากจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การได้รับการรักษาบำบัด โดยการรับประทานยาหรือวิธีบำบัดอื่นๆ ก็จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและสามารถนอนหลับได้

การนอนไม่เพียงพอหรือนอนไม่หลับ จะส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ซึ่งร่างกายไม่สามารถกำจัดแบคทีเรียที่เข้ามาได้ อีกทั้งยังสามารถก่อให้เกิดโรคต่างๆ และส่งผลเสียต่อสภาพผิวพรรณอีกด้วย



ที่มา วิชาการดอทคอม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์