จะทำอย่างไรดีถ้าเพื่อนร่วมงานไม่มีความรับผิดชอบแล้วเราต้องทำงานต่อจากเขา

ถามตัวเองก่อนว่า เรามีศิลปะพอที่จะทำให้การงานเป็นฐานแห่งการภาวนามั้ยดูจากคำถาม คนถามกำลังเพ่งออกไปที่เพื่อนร่วมงาน แล้วตัดสินว่าเขาไม่รับผิดชอบ ถึงแม้เรื่องงานนั้นจะเป็นจริงแต่เรื่องที่จริงกว่าคือ มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้ เมื่อเราประทับตราว่าเขาไม่รับผิด-ชอบ และยังยกตัวเองขึ้นเหนือเขาอีกว่ามันเป็นปัญหา เพราะเราต้องทำงานต่อจากเขาความเห็นแก่ตัวของเราคือ เราไม่อยากรับผิดชอบงานที่คนอื่นไม่ทำแต่ถ้าเรามองว่าในความไม่รับผิดชอบของคนหนึ่งคน มันเป็นฐานแห่งการเรียนรู้ที่เราจะต้องหาศิลปะในการสื่อสาร กับคนคนนั้น และทำให้คนคนนั้นเคารพงาน เหมือนเราเคารพงานงานเป็นฐานแห่งการภาวนาใจของเราจะเปิดกว้างและวางอคติไม่มีงานของฉัน…งานของเธอเบื้องต้นเราอาจจะคิดว่าขอบคุณนะที่ทำให้เราต้องทำงานมากขึ้น แต่เราต้องใช้ศิลปะในการสื่อสารที่จะเปิดเผยว่า เราสามารถที่จะทำงานไปพร้อมกับการพัฒนาตัวเราและเพื่อนร่วมงานอย่างคนที่ไม่เกลียดกันได้เรื่องการมีวินัยในการทำงานร่วมกันจะช่วยได้วินัยคือความเคยชินที่ดีงาม

ยกตัวอย่างที่เสถียรธรรมสถานผู้ปฏิบัติธรรมบางคนถอดรองเท้าชนิดที่ข้างหนึ่งอยู่ด้านหน้า อีกข้างหนึ่งอยู่ด้านหลัง แม้ข้าพเจ้าจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ขุ่นมัว…ว่าเหตุใดจึงถอดรองเท้าในลักษณะนั้นข้าพเจ้าจับรองเท้ามาคู่กัน แล้วหันหัวรองเท้าออกเพื่อพร้อมสวมใส่เมื่อคุณจะเดินมาใส่รองเท้า แล้วเห็นรองเท้าของตัวเองวางอย่างเป็นระเบียบคุณคิดว่าคนที่มีสำนึกดีๆ ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงเขาจะรู้สึกอย่างไรแน่นอนว่า…ย่อมมีหิริ และเกรงกลัวที่จะทำอย่างนั้นอีกเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก…เพียงแค่มีศิลปะในการทำให้ดูมีความสุขให้เห็นเสียงที่ศักดิ์สิทธิ์เพราะจิตไม่ขุ่นมัวจะมีคนฟังเสมอแต่ถ้าเสียงบ่น เสียงด่า เสียงเปรียบเทียบเสียงกระแหนะกระแหน รังแต่จะทำให้เกิดความไม่เป็นสุขในการทำงานส่วนใครที่กำลังรู้สึกเสียเปรียบที่ต้องทำงานมากกว่าคนอื่นก็ขอให้มองว่า นี่คือโอกาสทองที่เราจะได้ฝึกตัวเอง


จะทำอย่างไรดีถ้าเพื่อนร่วมงานไม่มีความรับผิดชอบแล้วเราต้องทำงานต่อจากเขา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์