ความรักไม่ใช่เป็นเรื่องของจิตใจเท่านั้น ดังคำพูดของ ดีเจอ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล แห่งคลับฟรายเดย์ (Club Friday) ทางคลื่นกรีนเวฟ 106.5 ที่บอกว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว เมื่อสภาพใจเรามันไม่ไหว ทุกอย่างจะพาลเสียไปหมด”
แนวทางในการจัดการความรักไม่ให้พ่นพิษ
ความสัมพันธ์รีบไม่ได้
คนสมัยก่อนเวลาจะเกินเลยกัน เขาจึงต้องมีขั้นตอน ต้องมีการคุยให้ดีก่อนแต่งงาน คุยกับพ่อแม่ ซึ่งการผ่านขั้นตอนยากๆ จะเป็นการเช็คว่าเธอรักฉันจริงหรือเปล่า ไม่ใช่อย่างล่าสุดที่มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาเล่าว่า รักกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเคยมีครอบครัวมาก่อน แต่เลิกกันแล้ว และมีลูกติดมาด้วย 1 คน ซึ่งเรียนอยู่เมืองนอก แต่ที่รับไม่ได้คือ เวลาลูกกลับมาเมืองไทย แม่ก็ต้องตามกลับมาด้วย แล้วก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องเดียวกัน อ้อยก็บอกน้องไปว่า น้องก็มีสิทธิ์รับไม่ได้ แต่ว่าเขาเลิกกันจริงๆ หรือ เช็คหรือยัง คบกับเขามานานเท่าไร น้องต้องเผื่อใจแล้วนะ น้องก็ตอบว่า เผื่อใจไม่ได้แล้วค่ะ หนูท้องแล้ว หมดกันจบทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะสิ่งที่อ้อยจะแนะนำต่อจากนี้ น้องเขาคงทำไม่ได้แน่ๆ เพราะท้องแล้ว
เห็นหรือยังว่าถ้ารีบเกินไปจะเป็นอย่างไร ก่อนเขาจึงมีขั้นตอนของมันอยู่ ไม่ใช่หัวโบราณ แต่เขาเคยเจ็บมากับเรื่องนี้ จึงตั้งกฎเกณฑ์กติกาเอาไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องให้คนรุ่นต่อไปเจ็บอีก แต่เรากลับรู้สึกว่าการตั้งกติกาแบบนี้เป็นเรื่องหัวโบราณ จริงอยู่ว่าชีวิตปัจจุบันเร่งรีบ แต่ความสัมพันธ์รีบไม่ได้ พอรีบเราจะตัดสินคนๆ หนึ่ง ณ บัดนี้ โดยไม่มีทางรู้เลยว่าวันพรุ่งนี้เขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร คบกันมา 10 ปี แต่งงาน 2 ปีเลิกยังมีเลย ขนาดว่าดูกันดีแล้วนะ เพราะคนเราเปลี่ยนไปทุกวัน
ชอบหรือรักกันแน่
เราใช้คำว่ารักง่ายทั้งๆ ที่มันอาจเป็นแค่ความชอบเฉยๆ เคยฟังประโยคหนึ่งจากพี่จุ้ย (ศุ บุญเลี้ยง) ว่า รักคืออยากให้ แต่ชอบคืออยากได้ เพราะฉะนั้นการชอบจะดูลุ่มหลง ต้องเอาอย่างนี้ให้ได้ ทำไมไม่โทรมา ทำไมไม่อย่างนั้น ทำไมไม่อย่างนี้ ฉันอยากเจอเธอตลอดเวลา เป็นความรู้สึกรักที่ไม่ค่อยสบายตัว เหมือนเอาตัวเองไปติดกับอะไรสักอัน แต่เมื่อไรที่พัฒนาไปถึงความรัก จะหมายถึงว่าฉันอยากเห็นคนที่ฉันรักมีความสุข เธอโอเคนะ เธอปลอดภัยนะ ถ้ายังไม่มีเวลา ยังไม่ต้องคุยกันก็ได้ เดี๋ยวมีเวลาค่อยคุยกัน มันเป็นความรักที่ทำให้สบายตัวขึ้น เพราะฉะนั้นบ่อยครั้งที่บอกว่าเรารัก แต่ความจริงแล้วมันคืออยากได้ค่ะ เลยทำได้ทุกอย่างสารพัด แม้กระทั่งไปดาวน์รถให้เขา
ฉะนั้นจึงต้องระวัง ถ้าเวลาเรารักใครแล้วมีความรู้สึกอยากได้และเรียกร้อง หรือเริ่มรู้สึกว่ารักตัวเองน้อยลง จริงอยู่ที่คงไม่มีมนุษย์คนไหนไม่คาดหวัง เพียงแต่ว่าเวลาที่คาดหวังต้องมีสติในการเตือนตัวเองว่าทุกคนต่างกัน แม้ว่าเวลาที่เรารักเขา เราอาจจะชอบบอกเหตุผลสวยๆ ว่า ฉันรักเธออย่างที่เธอเป็น แต่ในที่สุดพออยู่เป็นครอบครัวแล้ว เราจะพยายามให้เขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น เช่น ทำไมต้องไปเที่ยวกับเพื่อน ทำไมต้องเชียร์บอลด้วย เห็นไหมเริ่มมีคำถาม ในวันหนึ่งเราก็จะรักเธอและบังคับเธอให้เป็นอย่างที่เราอยากให้เธอเป็น
อยู่ก่อนแต่ง ไม่ได้ป้องกันการหย่าร้าง
หลายคนอาจใช้เหตุผลว่าก็อยู่ก่อนแต่งจะได้รู้ว่าหลังแต่งงานแล้วจะใช้ชีวิตร่วมกันได้หรือเปล่า ซึ่งถ้าการอยู่ก่อนแต่งช่วยแก้ปัญหานี้ได้ แล้วทำไมอัตราการหย่าร้างถึงมากขึ้นทุกวัน อีกอย่างพออยู่ด้วยกันโดยไม่แต่งงานไปแล้วผู้ชายก็จะรู้สึกว่า จะแต่งหรือไม่ก็เหมือนกันเป๊ะ แล้วจะแต่งทำไม อีกอย่างผู้ชายจะรู้สึกสบายตัว เพราะเขาจะมีใครก็ได้ แล้วผู้หญิงล่ะคะ พอเลิกจากผู้ชายนี้ แล้วไปคบกับผู้ชายอีกคนมักจะรู้สึกว่า เขาจะถือไหมที่เราผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว ดังนั้นถ้าไม่มั่นใจว่า ผู้ชายคนใหม่ในชีวิตจะยอมรับผู้หญิงที่ผ่านคนอื่นมาก่อนหรือเปล่า ก็ควรดูแลตัวเองให้ดีจนแน่ใจว่าคนนี้แหล่ะคือคนที่เราจะแต่งงานด้วย เพราะเมื่อเริ่มต้นถูกต้อง แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของทางเดินข้างหน้าก็จะถูกต้อง เพราะฉะนั้นการอยู่ก่อนแต่งจึงเหมาะกับชีวิตบางคู่ แต่ไม่ใช่ทุกคู่
การสื่อสาร หัวใจของความสัมพันธ์
ทำไมก็ไม่ทราบที่พอยิ่งคบกันไปนานๆ คนเรากลับยิ่งคุยกันน้อยลง หลายครั้งการสื่อสารจึงกลายเป็นปัญหาความสำคัญในชีวิตคู่ โดยเรามักจะอ้างว่าคบกันมานานขนาดนี้ยังไม่รู้อีกหรือ ซึ่งไม่มีใครรู้หรอกค่ะ ฉะนั้นยิ่งคบกันก็ต้องยิ่งคุยกัน แต่แปลกมากที่เราไม่ค่อยสื่อสารกับคนใกล้ชิด ทำให้หลายครั้งที่มีคนไปกระโดดตึกฆ่าตัวตาย โดยคนในบ้านไม่รู้มาก่อนเลยว่า ทำไมเขาจึงฆ่าตัวตาย
อ้อยมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า เรื่องเศร้าแค่เล่ามันก็จะเบาลง ขณะที่บางคนให้เหตุผลว่าที่ไม่คุยว่า เพราะเธอไม่เข้าใจฉัน ฉันก็เลยไม่อยากคุยกับเธอ แต่เราจะเรียกร้องความเข้าใจได้อย่างไร ถ้าเราไม่เคยเปิดใจให้เขาเข้ามาสัมผัสเลยว่า เรารู้สึกอะไรอยู่ ทุกคนพยายามเรียกร้องให้คนอื่นมาเข้าใจ แต่บ่อยครั้งเราก็ลืมที่จะพยายามเข้าใจคนอื่นด้วย
การสื่อสารที่สำคัญอีกอย่างคือการฟัง มีอะไรให้คุยกันไม่สำคัญเท่ากับมีอะไรให้ฟังกัน คนเราไม่ค่อยชอบฟังคนอื่นพูด พอฝ่ายหนึ่งเริ่มพูด อีกฝ่ายก็จะเถียงขึ้นมาว่า ไม่ใช่อย่างนั้น ทั้งๆ ที่เราควรจะฟังเงียบๆ ว่า เขาเจออะไร รู้สึกอย่างไร
ส่วนสาเหตุที่เราไม่ค่อยมีความอดทนฟังคนอื่นเพราะเราให้ความสำคัญกับตัวเองที่สุด เราต้องตัดสินใจเอง เพราะฉะนั้นเราจึงมั่นใจว่ามันจะต้องเป็นอย่างนี้ แล้วก็จะแทรกไปถึงวิธีการใช้ชีวิตแทบทุกวินาที พอเราเริ่มเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูก แล้วมีคนอื่นที่คิดต่างจากเรา ก็จะกลายเป็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิด จนกลายเป็นความขัดแย้ง เราจึงต้องฝึกตัวเองให้ฟังคนที่คิดต่างจากเราบ้าง เพราะต้องยอมรับว่าทุกชีวิตมีสิทธิ์คิดต่างไม่ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ที่ต้องให้คนอื่นมาโคจรรอบตัวเราตลอดเวลา
ลืมตากว้างๆ
เวลาเจอคนที่ชอบ อยากให้ดูกันไปสักระยะว่า เขายังน่ารักเหมือนเดิมหรือเปล่า จะได้รู้ว่าสิ่งที่เขาแสดงออกในตอนต้นเป็นตัวตนจริงๆ ของเขาหรือไม่ เคยฟังคุณหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ พูดว่า ก่อนแต่งงานให้ลืมตาโตๆ มองชัดๆ ฟังเยอะๆ ถ้าแต่งงานแล้วก็หลับตาลงครึ่งเดียว เพราะได้ตัดสินใจแล้ว บางทีวิธีจะดูคนๆ หนึ่งว่าเป็นอย่างไร ต้องดูว่าเขาดูแลแฟนเก่าอย่างไรด้วย อ้อยเคยไปสัมมนาเกี่ยวกับการลดความรุนแรงในสตรี และได้พบน้องคนหนึ่งที่หน้าตาสวยน่ารักมาก แต่เคยถูกสามีตบตี ยังคิดว่าหน้าตาน่ารักขนาดนี้ สามีกล้าตบหรือ เธอเล่าให้ฟังว่า ตอนที่มาจีบแรกๆ สามีมีแฟนอยู่แล้ว แต่กำลังจะเลิกกัน สิ่งที่น้องคนนี้เห็นเป็นปกติคือเสื้อของเขามักมีคราบเลือดติดอยู่ตลอด พอถามเขาก็บอกว่าไม่มีอะไร แค่มีปัญหากับทางโน้นนิดหน่อย ฉะนั้นคบกับใครต้องดูว่า เขาดูแลแฟนเก่าอย่างไร เพราะขนาดแฟนเก่ายังตบเลือดสาดใส่เสื้อขนาดนี้ วันหนึ่งก็ต้องเป็นเรา
ทำอย่างไรดี ถ้าคนที่มาชอบมีแฟนแล้ว
อย่ามองว่าเขาเลวร้าย แต่ต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเลิกกันแล้วหรือยังคบกันอยู่ ไม่ควรอยู่ในสถานะคบซ้อน เพื่อรอว่าวันหนึ่งเขาจะเลือกเรา เพราะไม่มีวัน ลองคิดในมุมเขาบ้างว่าถ้าหันซ้ายมาเจอคนหนึ่ง หันขวามาก็เจออีกคนหนึ่ง ทำไมจะต้องเลือก ซึ่งบางทีเราก็รักเขามากจนยอมให้เขามีใครอีกคนก็ได้ ขณะที่เขารักเราน้อยไปขนาดความซื่อสัตย์ยังให้ไม่ได้เลย ถามว่าการนอกใจใครก็ทำได้ ทำไมเราถึงไม่ทำ เพราะรักเขา แล้วผู้ชายทำไมทำ เพราะว่าเขาไม่รักเราหรือเปล่า หรือว่าเขารักสองคน แต่ความจริงก็คือเขารักเดียวคือตัวเอง รักจนสามารถทำร้ายผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกัน เพราะคนรักกันจะไม่ทำร้ายจิตใจกัน ส่วนคนที่บอกว่ารักกันแต่ทำร้ายจิตใจกันคงเรียกว่ารักกันไม่ได้ หรือเคยนอกใจไปหนึ่งครั้งแล้วกลับมา ถามว่าความรักจะเหมือนเดิมหรือเปล่า อาจเหมือน แต่ว่าจะเพิ่มความระแวงว่าประโยคไหนที่ควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อ มันหลอน เพราะฉะนั้นถ้ามีการนอกใจเกิดขึ้นก็ต้องคุยกันดีๆ ว่า เป็นความเผลอหรือความเคยตัว
“อย่าคิดว่าความรักเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต ทุกเรื่องต่างมาประกอบกัน ไม่มีเรื่องไหนใหญ่กว่าเรื่องไหน งานก็สำคัญ ครอบครัวก็สำคัญ ความรักก็สำคัญ ถ้าไปขยายเรื่องบางอย่างให้ใหญ่จนคับโลก เราก็จะสูญเสียความสุขในส่วนประกอบอื่นของชีวิต” ดีเจอ้อยแห่งคลับฟรายเดย์ทิ้งท้ายให้คนที่กำลังมีความรักได้ใคร่ครวญ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
