จิตใจเข้มแข็งสร้างได้ จากความเชื่อใจ เรียนรู้ และไหลเวียนกับคนรอบข้าง


จิตใจเข้มแข็งสร้างได้ จากความเชื่อใจ เรียนรู้ และไหลเวียนกับคนรอบข้าง


ถ้าพูดถึงวิธีการทำให้ร่างกายแข็งแรง หลายๆ คนคงทราบดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาข้อมูลได้ง่ายๆ แต่ถ้าพูดถึงวิธีที่จะสร้างจิตใจที่เข้มแข็งล่ะ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ วันนี้ผมจึงอยากบอกเล่าถึงวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้จิตใจของเราเข้มแข็งได้ครับ



จิตใจเข้มแข็งสร้างได้ จากความเชื่อใจ เรียนรู้ และไหลเวียนกับคนรอบข้าง


คนเราจิตใจเข้มแข็งที่สุด เมื่อรอบๆ เรามีคนที่เราสามารถเชื่อ และวางใจได้ อย่างเด็กตัวเล็กๆ ตอนอยู่บ้าน เขาก็จะตะโกนเสียงดังอยู่ในบ้าน เป็นอิสระ เล่นทุกอย่างในบ้านได้หมด เพราะว่ารอบๆ ตัวเขามีพ่อแม่ หรือญาติพี่น้อง เป็นคนที่น่าเชื่อถือ เขาสามารถที่จะไว้ใจได้ แต่พอเด็กคนนี้ไปเรียน หรือไปข้างนอก เขาจะไม่กล้าพูดต่อหน้าคนอื่น เพราะรอบๆ นั้นมีแต่คนที่เขาไม่รู้จัก ไม่รู้ว่าคนรอบตัวนั้นจะชอบ หรือไม่ชอบเขา แต่พอคบหาเพื่อน เริ่มสนิทสนมกันจะเกิดความเชื่อใจ พอไปโรงเรียนก็เริ่มเป็นอิสระ อยู่อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เพราะฉะนั้นตอนที่คนเราจะมีจิตใจเข้มแข็งที่สุด คือ ตอนที่เรามีความสัมพันธ์ที่เรียกว่าความเชื่อใจนั่นเอง แต่สมัยนี้คนอยู่ใกล้กันยากขึ้น เข้าใจกันยากขึ้น และเชื่อใจกันยากขึ้น เพราะส่วนใหญ่จะได้รับข้อมูล และสื่อสารโดยผ่านทางอินเตอร์เน็ตมากกว่า จึงมีโอกาสพบปะกันน้อยลง คุยน้อยลง การพูดคุยกันโดยตรงเริ่มกลายเป็นภาระ

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น ผมจะขอยกตัวอย่างเรื่องของวัยรุ่นหญิงที่ชื่อว่า เกม หลังจากเรียนจบ เกมเข้าร่วมโครงการอาสาสมัครต่างประเทศและเดินทางไปประเทศเกาหลี เดิมทีเกมเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว และเชื่อว่าทุกอย่างที่ตัวเองทำเป็นสิ่งที่ดีแล้ว เช่น ตอนที่เรียนอยู่และต้องทำงานกลุ่ม ถึงแม้จะไม่มีเพื่อนคนไหนรับเข้ากลุ่ม เธอก็ไม่ได้สนใจ

เพราะจิตใจลึกๆ ของเธอคือ คนที่ไม่เชื่อ ไม่วางใจในคนอื่น เชื่อแค่ตัวเอง ทำตามวิธีของตัวเอง โดยหลงคิดว่านี่คือการอยู่แบบคนที่เข้มแข็ง เมื่อต้องไปอยู่ที่เกาหลี เธอต้องเรียนภาษาใหม่ทั้งหมด ทั้งๆ ที่มีคุณครูมาสอนทุกวัน แต่เธอเลือกที่จะเรียนด้วยตัวเอง เพราะไม่เชื่อว่าคุณครูจะสอนเธอได้ดีกว่าการอ่านหนังสือด้วยตัวเอง สุดท้าย เธอก็ไม่สามารถเข้ากับใครได้เลย เพราะสื่อสารกับคนอื่นไม่ได้ แม้แต่จะช่วยงานเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำไม่ได้ เธอไม่ยอมเข้าหาและถามคุณครูว่าสิ่งนี้เรียกว่าอะไร จนวันหนึ่ง เธอถูกเด็กอนุบาลถามว่า "พี่แต่งงานแล้วหรือยัง" จริงๆ ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าเด็กพูดว่าอะไร เมื่อไม่อยากอายเด็ก จึงตอบไปว่า "ใช่แล้ว" แต่เด็กคนนั้นก็ถามซักไซ้เรื่องอื่นอีกเรื่อยๆ จนเธอไม่สามารถแกล้งว่าเข้าใจได้อีกต่อไป และต้องยอมรับกับเด็กคนนั้นว่าเธอไม่เข้าใจ

ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้เธอได้เห็นอย่างชัดเจนว่า การเชื่อแค่ความคิดและความสามารถของตัวเองไม่ใช่วิธีที่ดีเลย ต้องเสียเวลาในการเรียนรู้ไปครึ่งปี



จิตใจเข้มแข็งสร้างได้ จากความเชื่อใจ เรียนรู้ และไหลเวียนกับคนรอบข้าง


เมื่อยอมรับในความอ่อนแอของตัวเอง เธอก็ทิ้งความคิดที่เชื่อแต่ตัวเองได้ หลังจากนั้นเธอจึงกลับไปหาคุณครู และเพิ่งสังเกตว่า คุณครูเข้าหาเธอทุกวันตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอไปถึง แม้เธอเองไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากคุณครู แต่เมื่อเธอยอมวางใจในคุณครู สิ่งที่เธอได้รับกลับมาไม่ใช่แค่ทักษะทางภาษา แต่ได้จิตใจที่เข็มแข็งขึ้น เพราะสามารถเชื่อใจ และเชื่อมโยงจิตใจกับคุณครูได้ อีกทั้งไม่ต้องแบกรับความยากลำบากในจิตใจอีกต่อไป เพราะเมื่อเกิดปัญหาก็พูดคุยกับคุณครูได้ง่ายๆ นั่นเอง

กล่าวโดยสรุป คือถ้าเราพบคนที่เราวางใจ และเชื่อใจได้ จิตใจที่เข้มแข็งนั้นก็สร้างได้ไม่ยากครับ




เครดิตแหล่งข้อมูล : khaosod




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์