จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น ยังนิยมบริโภคเนื้อสุนัข

จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น ยังนิยมบริโภคเนื้อสุนัข


             สำหรับความนิยมในการบริโภคเนื้อสุนัขในประเทศไทยแม้จะไม่แพร่หลาย แต่พบว่ามีขบวนการในการค้าเนื้อสุนัขไม่น้อยไปกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศยังมีความต้องการในการบริโภค โดยล่าสุด มีการพูดถึงเมนูเนื้อสุนัขที่ถูกนำมาทำเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และ ถูกนำมาขายในประเทศไทย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ออกมายืนยันแล้วว่า ยังไม่พบการนำเข้าหรือการจำหน่ายสินค้าลักษณะนี้

การโพสต์ภาพกระบวนการทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พร้อมอ้างว่า มีการนำเข้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของเนื้อสุนัขเข้ามาขายในประเทศไทยกลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มีคำยืนยันจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.แล้วว่า ทางสำนักอาหาร และ สำนักด่านอาหารและยา ตรวจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในท้องตลาดและที่นำเข้าอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554-เมษายน 2555

ซึ่งจากผลวิเคราะห์ 12 ตัวอย่าง จาก 21 ตัวอย่างที่นำเข้าจากจีน และ อีกหลายประเทศ ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาด้านคุณภาพ ส่วนการตรวจสอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนำเข้าตามห้างดังต่างๆ ยังไม่พบบะหมี่ที่มีเนื้อสุนัขผสมอยู่ โดยปัจจุบันมีการคาดโทษเอาผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ซึ่งผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือ ผู้จำหน่ายอาหาร ที่มีฉลากเพื่อลวงให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดเรื่องคุณภาพ ปริมาณ และประโยชน์ หรือ ในเรื่องสถานที่และประเทศที่ผลิต จัดเป็นอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน-10 ปี และปรับ 5,000-100,000 บาท กรณีแสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้องมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท

แต่สำหรับในหลายประเทศ เนื้อสุนัข ถือเป็นอาหารที่สามารถบริโภคได้ตามปกติ ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่แม้จะไม่มีกฎหมายบ่งชี้ชัดเจน แต่คนส่วนใหญ่ต่อต้านการบริโภคเนื้อสุนัข ทำให้ไม่ได้รับความนิยมในวงกว้าง

สำหรับประเทศที่ชื่นชอบบริโภคเนื้อสุนัขที่โดดเด่นที่สุดประเทศหนึ่งได้แก่ จีน โดยชาวจีนเชื่อว่า เนื้อสุนัขมีคุณสมบัติทางยานิยมบริโภคในช่วงฤดูหนาว เพราะช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และ บริโภคกันมากในเขตมณฑลกวางตุ้ง และ กว่างซี แม้จีนจะพยายามร่างกฎหมายเพื่อห้ามบริโภคเนื้อสุนัขในปี 2553 แต่ไม่สำเร็จ เพราะยังคงมีรายงานว่า เฉพาะในงานเทศกาลอาหารประจำปี ในเมืองหยูหลิน มณฑลฉานซี เมื่อปีที่แล้วได้มีการบริโภคสุนัขถึง 15,000 ตัว ในเวลาเพียง 10 วัน

ขณะที่ชาวญี่ปุ่นในอดีตบริโภคเนื้อสุนัขใกล้เคียงกับเนื้อวัว ม้า ลิง และไก่ ซึ่งต่อมา มีประกาศห้ามบริโภคเนื้อสุนัข แต่ปัจจุบันยังพบว่า มีเนื้อสุนัขวางขายพร้อม เนื้อสัตว์อื่น ๆ และมีการนำเข้าเนื้อสุนัขจากจีน

สำหรับชาวเกาหลีทั้งเหนือและใต้นิยมบริโภคเนื้อสุนัข โดยจากข้อมูลของสภาแห่งชาติเกาหลีใต้พบว่า มีภัตตาคารมากกว่า 20,000 แห่ง เสิร์ฟซุปที่ทำจากเนื้อสุนัข ขณะที่สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า มีการบริโภคเนื้อสุนัขประมาณ 8,500 ตันในแต่ละปี นอกจากนี้ยังพบในอีกหลายประเทศที่นิยมบริโภคเนื้อสุนัข เช่น อินโดนีเซีย เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน สวิตเซอร์แลนด์ เวียดนาม

ขณะที่ทางการแพทย์มีคำเตือนว่า เนื้อสุนัขมีอันตรายแฝงอยู่ด้วย เช่น อาจได้รับเชื้อกลุ่มริกเก็ตเซียที่พบในสัตว์พวกเห็บ เหา หมัด โลน หรือไร ซึ่งอาศัยบนตัวสุนัข โดยเคยพบเชื้อนี้ในเลือดของชาวเวียดนามหลายราย

นอกจากนี้ผู้บริโภคเนื้อสุนัขยังเสี่ยงเกิดอันตรายจากการได้รับวิตามินสูงเกินไปจากตับสุนัข รวมถึงเสี่ยงได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเคยมีรายงานในจีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ และ เชื้อแบคทีเรีย อีกหลายชนิดที่เป็นต้นเหตุของอาหารเป็นพิษ หรือ อหิวาตกโรค



ที่มา news.thaipbs

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์