ชาวไทยไม่เคยรู้ กษัตริย์ราชวงศ์ จักรี ทุกพระองค์ก็มี แซ่ (นามสกุล) เหมือนกัน

"แซ่" ที่มีความหมายว่านามสกุล ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงวงศ์ตระกูลของบุคคลนั้นๆ โดยแซ่ได้มีการเริ่มใช้กันมาตั้งแต่เมื่อสองพันปีก่อน ตามพระบัญชาของจักรพรรดิของประเทศจีน จึงถือว่าเป็นชนชาติแรกที่มีการใช้แซ่หรือนามสกุลกันอย่างเป็นทางการ โดยในประเทศไทยก็มีหลายบุคคลที่มีแซ่จีนเป็นของตัวเอง ซึ่งตามแหล่งวิชาการได้ระบุถึงชาวไทยเชื้อสายจีน ว่าเป็นชาวจีนที่เกิดในประเทศไทยและเป็นเชื้อสายของผู้อพยพชาวจีน หรือชาวจีนโพ้นทะเล คนไทยเชื้อสายจีน มีประมาณ ๙.๔ ล้านคนในประเทศไทย หรือ ๑๔% ของประชากรทั้งประเทศ และยังมีอีกจำนวนมากไม่สามารถนับได้ เพราะที่กลมกลืนกับคนไทยไปแล้วโดยการแต่งงานข้ามเชื้อชาติ และอีกหนึ่งเรื่องราวที่เราไม่ค่อยรู้กันมาก่อนนั่นก็คือ พระมหาษัตริย์ราชวงศ์ "จักรี" ทุกพระองค์ ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ - ๙ เองก็มีแซ่จีนด้วยเช่นกัน ซึ่งแซ่นั้นก็คือ "แซ่แต้" มีที่มาจาก "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ที่มีชื่อจีนว่า "แต้เจียว" ซึ่งสาเหตุที่ใช้แซ่ตามพระเจ้าตากฯ เพราะได้ทรงส่งทูตไปเจริญพระราชไมตรีกับประเทศจีน ณ กรุงปักกิ่ง ทรงใช้พระนามในพระราชสาส์นว่า "แต้ฮั้ว" อนุชาแต้เจียว พร้อมกับ "จิ้มก้อง" เพื่อให้ทางราชสำนักจีนเข้าใจโดยง่าย ต่อมาจึงกลายเป็นราชประเพณี สืบต่อกันมา ถึงราชกาลที่ ๕ จึงมีการยกเลิกการส่งจิ้มก้องให้แก่จีน แต่ยังคงให้มีการลงพระปรมาภิไธยเป็นภาษาจีนเรื่อยมา ซึ่งพระนามในแซ่แต้ของพระเจ้าแผ่นดินไทยราชวงศ์จักรีก็คือ

ชาวไทยไม่เคยรู้ กษัตริย์ราชวงศ์ จักรี ทุกพระองค์ก็มี แซ่ (นามสกุล) เหมือนกัน

รัชกาลที่ ๑ ทรงใช้ว่า แต้ฮั้ว 郑华 (เจิ้งฮัว) 

รัชกาลที่ ๒ ทรงใช้ว่า แต้ฮุก 郑佛 (เจิ้งหัว)

รัชกาลที่ ๓ ทรงใช้ว่า แต้ฮก 郑福 (เจิ้งฝู)

รัชกาลที่ ๔ ทรงใช้ว่า แต้เม้ง 郑明 (เจิ้งหมิง)

รัชกาลที่ ๕ ทรงใช้ว่า แต้ล้ง 郑隆 (เจิ้งหลง)

รัชกาลที่ ๖ ทรงใช้ว่า แต้ป้อ 郑宝 (เจิ้งเปา)

รัชกาลที่ ๗ ทรงใช้ว่า แต้กวง 郑光 (เจิ้งกวง)

รัชกาลที่ ๘ ทรงใช้ว่า แต้ฮี่ 郑禧 (เจิ้งฉี่)

รัชกาลที่ ๙ ทรงใช้ว่า แต้กู่ 郑固 (เจิ้งกู้)


ชาวไทยไม่เคยรู้ กษัตริย์ราชวงศ์ จักรี ทุกพระองค์ก็มี แซ่ (นามสกุล) เหมือนกัน

(ภาพพระราชลัญจกรส่วนพระองค์ รัชกาลที่ ๔ " 暹國鄭明 " (จีนกลาง: เสียนกั๋วเจิ้งหมิง, แต้จิ๋ว: เสียมก๊กแต้เม้ง))


ในสมัยต้นรัชกาลที่ 5 ยังไม่ทันจะได้มีพระราชสาสน์ไปเจริญพระราชไมตรีส่งไปยังกรุงปักกิ่งเหมือนดังรัชกาลที่แล้วๆมาเหมือนดังที่ไทยเคยทำเมื่อผลัดแผ่นดิน อันเป็นธรรมเนียมเหมือนแจ้งแก่เพื่อนบ้านว่าบัดนี้เปลี่ยนกษัตริย์แล้ว ทางจีนเกิดเรียกร้องทวงการ จิ้มก้อง เครื่องราชบรรณาการมาก่อน ครั้งนั้นไทยจึงได้ทราบว่าการเจริญพระราชไมตรีโดยการส่งเครื่องราชบรรณาการไปพร้อมพระราชสาสน์นั้น ทางจีนถือว่าเป็นการ จิ้มก้อง เหมือนเช่นเป็นการยอมเป็นเมืองขึ้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไทยจึงงดการติดต่อ (พระราชสัมพันธ์) กับจีนอย่างเป็นทางการ ทว่าบรรดาพ่อค้าวาณิช คนจีนคนไทยก็ยังเป็นเสมือนเดิม....

ชาวไทยไม่เคยรู้ กษัตริย์ราชวงศ์ จักรี ทุกพระองค์ก็มี แซ่ (นามสกุล) เหมือนกัน

(ภาพพระป้ายสถิตพระวิญญาณพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ด้านหน้าจำหลักข้อความอักษรจีน ออกพระนามจีนของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระนามว่า แซ่ “แต้” ที่ลิ้นด้านในพระป้าย มีข้อความกล่าวว่าทรงได้รับแต่งตั้งเป็นกษัตริย์องค์ที่่ ๒ พระราชสมภพเมื่อ ๑๕ ค่ำเดือน ๑๐ (เดือนแปดตามปฏิทินจีน) ปีมะโรง (ปีอู้เฉินตามปฏิทินจีน) เวลา ๕ ทุ่ม เสด็จสวรรคต เมื่อพระชนมายุได้ ๕๗ พรรษา ๔ เดือน ๕ วัน คำนวณ เป็นเวลา ๒๐,๙๔๓ วัน กับ ๑ ชั่วโมง)




ที่มา : plus.google.com , ฮวงจุ๊ย7DayStar

ชาวไทยไม่เคยรู้ กษัตริย์ราชวงศ์ จักรี ทุกพระองค์ก็มี แซ่ (นามสกุล) เหมือนกัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์