ช่วยด้วยตะคริวกิน

ช่วยด้วยตะคริวกิน


การเป็นตะคริวไม่มีอันตรายถึงชีวิต เว้นแต่เป็นตะคริวระหว่างว่ายน้ำ หรือขับรถ แต่ทางที่ดีควรรู้จักและรู้วิธีป้องกันไว้เพื่อความปลอดภัย

    นานาสาเหตุของตะคริว
 

         สาเหตุการเกิดตะคริวยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าเมื่อร่างกายขาดน้ำ หรือออกแรงมากเกินไป ก็มักจะเกิดตะคริว เพราะทำให้เกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ ส่งผลให้เซลล์ทำงานผิดปกติตามไปด้วย โดยการปรวนแปรของเกลือแร่เกิดขึ้นได้เพราะร่างกายมีปริมาณเกลือแร่น้อยเกินไปหรือมากเกินไป ซึ่งเกลือแร่ที่ส่งผลต่อการเป็นตะคริวก็ได้แก่ โซเดียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม

          รวมถึงยังพบว่า การไม่ขยับเขยื้อนร่างกายเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งอยู่กับที่ หรือการนอนอยู่บนเตียง ก็ทำให้เป็นตะคริวได้เช่นกัน

          นอกจากนี้โรคบางอย่างก็อาจทำให้เป็นตะคริวได้ เช่น เบาหวาน พาร์กินสัน ไทรอยด์ ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ โลหิตจาง โรคในระบบต่อมไร้ท่อ และยาบางชนิด ยกตัวอย่างเช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดไขมันในเลือด ยาลดความดันโลหิตบางชนิด เป็นต้น

    
ตะคริวที่มักพบในผู้สูงอายุ 

          หลักๆ จะมีด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่

          ตะคริวขา
         ซึ่งเป็นตะคริวที่เกิดขึ้นบ่อยๆ โดยยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัด แต่พบว่ากล้ามเนื้อบริเวณลำขามีการหดตัวอย่างแรงและทันที มักเป็นช่วงสั้นๆ คือไม่ถึง 1 นาทีอาการก็หายไป ยกเว้นบางทีที่อาจจะเป็นอยู่หลายนาทีได้เหมือนกัน ตะคริวขามักเกิดระหว่างการออกกำลังกายทั่วๆ ไป ซึ่งผู้ที่มีน้ำหนักมากยิ่งมีโอกาสการเป็นตะคริวขาสูง 

         ตะคริวแดด
         มักเกิดกับผู้ที่เสียเหงื่อมากๆ เช่น ผู้ที่อยู่ท่ามกลางอากาศร้อน (มักเป็นในช่วง 2-3 วันแรก สำหรับผู้ที่เริ่มทำงานกลางแจ้ง โดยไม่เคยทำมาก่อน) หรือผู้ที่ออกกำลังกายหนักๆ โดยอาจเกิดขึ้นในระหว่างออกกำลังกาย หรือหลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้ว 2-3 ชั่วโมงก็ได้ ตะคริวมักเกิดบริเวณน่อง ต้นขา และไหล่ สามารถป้องกันได้โดยการได้รับเกลือแร่ที่เพียงพอ จากอาหารหรือน้ำดื่มเกลือ แต่ไม่ควรรับประทานเกลืออัดเม็ด เพราะอาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน 

          ตะคริวกลางคืน
          แน่นอนว่ามักเกิดขึ้นในเวลากลางคืนขณะนอนหลับ โดยมีโอกาสเกิดขึ้นบริเวณหลังเท้าได้ด้วย อาการตะคริวจะกินเวลา 2-3 วินาที แต่บางรายอาจกินเวลานานกว่านั้น เช่น เป็นนานถึง 10 นาที ซึ่งในกรณีนี้จะมีอาการปวดด้วย ส่วนสาเหตุก็ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าการใช้กล้ามเนื้อมากเกินไป การยืนหรือนั่งนานๆ ภาวะร่างกายขาดน้ำ รวมถึงการวางขาที่ไม่เหมาะสมระหว่างนั่งก็ทำให้เกิดตะคริวขาระหว่างนอนได้ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน พาร์กินสัน ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โลหิตจาง ไทรอยด์ โรคเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อ ก็อาจทำให้เป็นตะคริวขาตอนกลางคืนได้เช่นกัน แต่พบน้อย โดยอาการจะดีขึ้นหากได้เดินหรือเคลื่อนไหว 

    10 วิธีป้องกันตะคริว 


         ผู้สูงอายุสามารถป้องกันตะคริวไม่ให้เกิดขึ้นได้ ดังนี้ 

     
1. ดื่มน้ำ 6-8 แก้วทุกวัน เพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ ซึ่งนำไปสู่การเป็นตะคริว 
      2. ยืด เหยียดขาระหว่างวัน และเวลากลางคืน
      3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะตะคริวมักเกิดกับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายและผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ โดยอาจออกกำลังกายเบาๆ ที่ได้ขยับขาประมาณ 2-3 นาทีก่อนนอน เช่น การปั่นจักรยาน 
      4. เวลาห่มผ้าอย่าให้ผ้าตึงเกินไป ควรห่มแบบหลวมๆ ไว้ ผ้าห่มจะได้ไม่ไปกดขาและเท้า ซึ่งส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงขาไม่สะดวก 
      5. ระหว่างออกกำลังกายควรดื่มน้ำและเกลือแร่ทดแทนให้เพียงพอ 
      6. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ 
      7. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เช่น ปลา เต้าหู้ หรืออาหารที่มีแมกนีเซียม เป็นต้น 
      8. ฝึกยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆ เช่น หากต้องการป้องกันตะคริวที่น่องให้กระดกเท้าขึ้นลง หรือเอาปลายนิ้วมือแตะปลายเท้า 
      9. หลีกเลี่ยงอากาศเย็น เพราะจะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง
      10. สวมรองเท้าที่เหมาะสมและอาจใส่ถุงเท้าตอนนอนเพื่อป้องกันการเกร็งเท้า

    ทำอย่างไรเมื่อตะคริวมาเยือน  

        เมื่อเป็นตะคริวแล้ว วิธีปัดเป่าให้ตะคริวหายไปอาจทำได้โดย 

       
1. เดินหรือขยับขา
        2. เหยียดขาไปตรงๆ และกระดกเท้าให้ปลายเท้าหันเข้าหาลำตัว ห้ามกระตุกหรือกระชากอย่างรุนแรงและเร็ว เพราะกล้ามเนื้ออาจจะฉีกขาดได้หรือทำให้เจ็บ หรืออาจจะดึงนิ้วเท้าเข้าหาลำตัว (คล้ายการหักนิ้ว) โดยอาจจะทำจนกระทั่งตะคริวหายไป 
        3. อาบน้ำอุ่น ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว

    
ท่าออกกำลังกายคลายตะคริว

        ท่าออกกำลังกายไม้ตายที่จะช่วยบำบัดตะคริวกินขาตอนกลางคืน สามารถทำได้ที่บ้านทุกวัน โดยมีวิธีการ ง่ายๆ ดังนี้ 
       
1. เริ่มจากให้ยืนห่างจากฝาผนัง โดยให้ฝ่ามือสามารถแตะผนังได้อย่างสุดแขน 
        2. ระหว่างที่ยืน เอาฝ่ามือแปะลงบนผนัง จากนั้นค่อยๆ เคลื่อนฝ่ามือทั้งสองข้างไต่ผนังให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าน่องและแขนตึง จากนั้นค้างไว้ 30 วินาที
        3. ทำซ้ำประมาณ 2-3 ครั้ง

       
ฝึกเอาไว้ เพื่อจะได้ปัดเป่าตะคริวให้ห่างไกลจากชีวิตของเรา





ขอบคุณ : HealthToday

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์