ซีเรียเข้าตาจนเกณฑ์ผู้หญิงบีบกบฏ

"ซีเรีย"เข้าตาจนเกณฑ์ผู้หญิงบีบกบฏ


ซีเรียเกณฑ์ผู้หญิงเข้าเสริมกองทัพสู้ฝ่ายกบฏ หลังขาดแคลนกำลังพลจากการสูญเสียในสนามรบ-ผู้ชายหนีทหาร

สถานการณ์ของฝ่ายรัฐบาลซีเรียในสงครามกลางเมืองเพื่อโค่นล้มผู้นำประเทศเริ่มส่อแววเพลี่ยงพล้ำเข้าไปทุกขณะ หลังผู้ชายเริ่มพากันหนีทหารหรือล้มตายจากการสู้รบจนขาดกำลังเสริมในกองทัพ ในที่สุดรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัลอัสซาด ต้องเกณฑ์ผู้หญิงเข้ามาช่วยขัดตาทัพ

ล่าสุด ได้มีการเกณฑ์ผู้หญิงจำนวน 500 คนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังป้องกันแห่งชาติ (NDF)
 
ซึ่งเป็นหน่วยต่อต้านฝ่ายกบฏโดยเฉพาะ โดยกองกำลังสาวๆ ชาวซีเรียมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “นางสิงห์สาวป้องกันชาติ” ทำหน้าที่ตั้งด่านตรวจตราความสงบเรียบร้อยในเมืองสำคัญๆ ที่ยังมีการต่อสู้แย่งชิงระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองปัลมีราและเมืองฮอมส์ ที่มีการสู้รบอย่างดุเดือด

นางสิงห์สาวเหล่านี้ปั้นสีหน้าเคร่งขรึม สวมชุดเครื่องแบบทหารรัดกุมพร้อมอาวุธปืนอาก้า คอยตรวจตราผู้คนและยวดยานที่สัญจรไปมาในเมือง และให้ความเข้มงวดเป็นพิเศษกับการตรวจสอบสตรีที่สวมผ้าคลุมศีรษะ


ซีเรียเข้าตาจนเกณฑ์ผู้หญิงบีบกบฏ

อย่างไรก็ตาม แม้ทหารหน่วยนี้จะเป็นผู้หญิงทั้งหมด แต่มีความเข้มงวดและดุดันอย่างมาก

ถึงขนาดที่ชาวเมืองฮอมส์เปิดเผยกับสำนักข่าวอัล อราบียา ว่า การปรากฏตัวของเหล่านางสิงห์สาวทำให้ชาวเมืองรู้สึกเหมือนอยู่ไม่เป็นสุข อีกทั้งยังแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดต่อพลเรือนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสตรีที่สวมผ้าคลุมศีรษะ คาดว่าเพราะเกรงว่าอาจซุกซ่อนอาวุธหรืออาจเป็นชายจากกองกำลังฝ่ายกบฏแฝงตัวมาก็เป็นได้


ด้าน อาบู รูมี โฆษกของกองกำลังกบฏในเมืองฮอมส์เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ดิ อินดิเพนเดนท์ ของอังกฤษว่า
 
รู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ได้เห็นทหารหญิงของฝ่ายรัฐบาล และคาดว่าการที่ฝ่ายตรงข้ามเกณฑ์ผู้หญิงมาร่วมหน่วยรบ คงไม่ใช่เพราะขาดกำลังเสริมเท่านั้น แต่อาจเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อบีบให้กองกำลังฝ่ายกบฏต้องลงมือฆ่าผู้หญิง และฝ่ายรัฐบาลจะใช้เป็นเหตุผลโฆษณาชวนเชื่อให้ชาวโลกเห็นถึงความโหดเหี้ยมของฝ่ายกบฏ

ที่ผ่านมาในสมรภูมิการรบที่อื่นๆ ทั่วโลก เคยมีการใช้ทหารหญิงเพื่อสร้างความอับอายหรือใช้บีบบังคับฝ่ายตรงข้ามเหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในซีเรีย

ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดี ฮาเฟซ อัลอัสซาด บิดาของผู้นำซีเรียคนปัจจุบัน
 
เคยเกณฑ์ผู้หญิงหลายร้อยคนมาเป็นกองกำลังส่วนตัวเพื่อสั่งการให้ปฏิบัติภารกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทรมานผู้คน ตรวจสอบสตรีสวมผ้าคลุมไปจนถึงการลงมือสังหารผู้คน รวมถึงในเหตุการณ์สังหารหมู่ในเมืองฮามา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 40,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

กระนั้นก็ตาม ผู้หญิงทั่วไปที่แสดงตัวเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลเริ่มที่จะจับอาวุธขึ้นสู้เช่นกัน โดยมีส่วนหนึ่งหลบหนีไปยังตุรกีเพื่อรับการฝึกแบบทหารในค่ายฝึกสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะของฝ่ายกบฏ 


ซีเรียเข้าตาจนเกณฑ์ผู้หญิงบีบกบฏ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์