ดาวหาง‘เหม็น’เหมือนไข่เน่า

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง ดาวหาง‘เหม็น’เหมือนไข่เน่า

ดาวหาง‘เหม็น’เหมือนไข่เน่า

ความสงสัยของมนุษย์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด แม้ขอบเขตของจักรวาลก็ยังไม่สามารถขวางกั้นได้

มิพักอะไรกับการแสวงหาคำตอบต่อสิ่งใหม่ๆ จึงเกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งล่าสุดนักดาราศาสตร์ได้เปิดความรู้ใหม่เกี่ยวกับเรื่อง "กลิ่น" ของดาวหางที่มนุษย์เราเห็นโคจรพาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนทิ้งสายของแก๊สเป็นทางยาว ทำให้เราเรียกดาวชนิดนี้ว่า "ดาวหาง" นั่นเอง

แก๊สที่ดาวหางปล่อยออกมานั้นเกิดจากการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ หรือการสัมผัสกับความร้อนของดวงอาทิตย์ ทำให้แก๊สแข็งที่เป็นส่วนประกอบของดาวหางละลายกระจายออกมาเป็นทางตามแนวโคจรของมัน

ความงดงามของดาวหางสร้างความประทับใจให้ศิลปิน ที่บันทึกความงามไว้เป็นภาพวาดตามสถานที่สำคัญตั้งแต่สมัยโบราณ และในยุคใหม่ก็มีการถ่ายรูปดาวหางที่เคลื่อนตัวผ่านวงโคจรใกล้โลก โดยทั้งหมดนี้เกิดจากความรู้สึกหลงใหลในความงดงาม

แต่ถ้าศิลปินเหล่านั้นรู้ว่าความงามของดาวหางที่เห็นนั้น แฝงไปด้วยกลิ่นที่เหม็นอย่างทารุณ ราวกับแก๊สไข่เน่า ผสมกับกลิ่นปัสสาวะ น้ำยาดองศพ และเมทานอล ความรู้สึกพิสุทธิ์ที่เกิดขึ้นกับดาวหางจะยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่?

เพราะนักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบว่าดาวหาง 67P ที่มีชื่อเต็มๆ ว่า 67P/ชูริวมอฟ-เกราซิเมนโกนั้น

ปล่อยก๊าซไฮโดรเจน ซัลไฟด์ หรือแก๊สไข่เน่า แอมโมเนีย และสารประกอบในกลุ่มแอลกอฮอล์อย่างฟอร์มัลดีไฮด์ และเมทานอล ที่มีกลิ่นเหม็นรุนแรงและมีลักษณะเฉพาะตัวออกมาพร้อมกับปล่อยน้ำ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่อวกาศตลอดเวลา

แน่นอนนักวิทยาศาสตร์คงไม่ได้ขึ้นไป "ดม" ดาวหางนั้นด้วยตัวเอง แต่สำนักงานอวกาศแห่งยุโรป (อีเอสเอ)

ส่งยานสำรวจโรเซตต้า ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับก๊าซรุ่นโรซินา ขึ้นไปตามติดดาวหางดวงนี้ และสำรวจดาวหาง 67P จากระยะห่าง 6-10 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าใกล้มากเมื่อเทียบกับระยะทางอันไกลโพ้นของจักรวาล โดยยานลำนี้เกาะติดดาวหาง 67P อย่างใกล้ชิดเพื่อค้นหาความลับของดาวหางดวงนี้ โดยมีจุดประสงค์หลักคือการไขปริศนาของจุดกำเนิดจักรวาล

การสำรวจนี้ทำให้ทราบว่าก๊าซพื้นฐานของจักรวาลนั้นประกอบไปด้วย ไนโตรเจน ออกซิเจน และคาร์บอน

เพียงแต่การผสมผสานระหว่างกันในช่วงกำเนิดจักรวาลนั้นทำให้เกิดก๊าซหลากหลายชนิดออกมา และผลการสำรวจครั้งนี้ยังบอกด้วยว่าก๊าซที่ปล่อยออกมาจากเนบิวลา ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง จากการทำความเข้าใจเกี่ยวกับดาวหางที่มีจุดกำเนิดเมื่อหลายพันล้านปีที่แล้วดวงนี้นั่นเอง