ดีพอิมแพคเริ่มล่าดาวเคราะห์นอกระบบ

ยานดีพอิมแพคของนาซ่าเริ่มต้นในการตามล่าพิภพต่างดาว

ภาพจากศิลปินแสดงยานดีพอิมแพคในระยะใกล้:

 
ยานดีพอิมแพค(Deep Impact)

ของนาซ่ากำลังเล็งกล้องโทรทรรศน์ใหญ่ที่สุดของมันไปที่ดาวฤกษ์ 5 ดวงในการสำรวจหาดาวเคราะห์นอกระบบในปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า EPOXI

ดีพอิมแพคสร้างประวัติศาสตร์เมื่อทีมปฏิบัติการได้สั่งให้ยานปล่อยทุ่นเข้าชนกับนิวเคลียสดาวหางเทมเพล 1(Tempel 1) เมื่อวันที่ 4 กรกฏาคม 2005 นาซ่าเพิ่งยืดระยะปฏิบัติการออกไป สั่งให้ยานไปบินผ่านดาวหางฮาร์ทลีย์ 2(Hartley 2) ในปฏิบัติการ Deep Impact Extended Investigation(DIXI) ในวันที่ 11 ตุลาคม 2010 เพื่อทำแผนที่การปะทุก๊าซจากดาวหางและสำรวจหาน้ำแข็ง ด้วยยานที่มีขนาดเท่ารถสปอร์ตขนาดกลาง ยานดีพอิมแพคนำกล้องโทรทรรศน์ไปด้วย 2 ตัว ตัวหนึ่งมีความละเอียดสูง อีกตัวมีความละเอียดปานกลางซึ่งถูกใช้เพื่อสำรวจการชนของทุ่นกับดาวหาง

เมื่อมันเดินทางไปที่ดาวหาง ดีพอิมแพคยังสำรวจดาวฤกษ์ใกล้เคียง 5 ดวงที่มีดาวเคราะห์นอกระบบผ่านหน้า(transiting Extrasolar planets) ที่เรียกเช่นนั้นก็เนื่องจากดาวเคราะห์ผ่านหน้า(transit) ดาวฤกษ์ของมัน ทีม EPOXI ได้สั่งให้ยานเริ่มการสำรวจในวันที่ 22 มกราคม ดาวเคราะห์ถูกค้นพบก่อนหน้านี้และเป็นดาวยักษ์ที่มีชั้นบรรยากาศขนาดใหญ่เหมือนดาวพฤหัสในระบบของเรา พวกมันโคจรรอบดาวฤกษ์แม่ใกล้กว่าที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ดังนั้นพวกมันจึงร้อนและจัดอยู่ในดาวเคราะห์นอกระบบประเภทที่มีชื่อเล่นว่า ดาวพฤหัสร้อน

อย่างไรก็ตาม

ดาวเคราะห์ยักษ์เหล่านี้อาจจะไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ถ้ายังมีโลกอื่นอยู่รอบดาวฤกษ์เหล่านี้ พวกมันก็อาจจะผ่านหน้าดาวฤกษ์แม่และถูกค้นพบโดยยานได้ ดีพอิมแพคมีความสามารถหาดาวเคราะห์ที่ไม่ผ่านหน้า โดยการใช้เทคนิคจับเวลา แรงโน้มถ่วงจากดาวเคราะห์ที่มองไม่เห็นจะดึงดาวเคราะห์ที่ผ่านหน้า ส่งผลต่อการโคจรและเวลาที่ใช้ในการผ่านหน้า

Drake Deming ผู้ช่วยหัวหน้าทีม EPOXI กล่าวว่า
 
เรากำลังตามล่าดาวเคราะห์ที่มีขนาดเล็กเท่าโลก โคจรรอบดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุดหลายดวง มีการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบมากกว่า 200 ดวงในขณะนี้ ส่วนใหญ่ถูกตรวจพบโดยอ้อม โดยแรงดึงโน้มถ่วงของพวกมันที่มีต่อดาวฤกษ์แม่ การสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบโดยตรงโดยการตรวจจับแสงที่สะท้อนจากพวกมันนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เนื่องจากแสงจ้าของดาวฤกษ์จะกลบแสงที่มาจากดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่จนหมด

อย่างไรก็ตาม
 
บางคราวการโคจรของพิภพนอกระบบก็เรียงตัวจนเมื่อมองจากโลกจะเห็นมันเข้าคราสกับดาวฤกษ์แม่ ในกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากนี้ ซึ่งเรียกว่า ผ่านหน้า จะสามารถเห็นแสงจากดาวเคราะห์ได้โดยตรง

Deming ซึ่งนำการสำรวจหาพิภพนอกระบบด้วยดีพอิมแพค(Extrasolar Planet Observations and Characterization – EPOCh) กล่าวว่า

เมื่อดาวเคราะห์ปรากฏอยู่ใกล้ๆ ดาวฤกษ์แม่ของมัน กล้องของคุณจะจับแสงที่เพิ่มขึ้นได้ เมื่อดาวเคราะห์ผ่านไปหลังดาวฤกษ์ กล้องจะเห็นเพียงแสงจากดาวฤกษ์ ด้วยการหักลบแสงที่เพิ่มขึ้นด้วยแสงจากดาวฤกษ์ คุณจะเหลือแต่แสงจากดาวเคราะห์ เราสามารถวิเคราะห์แสงนี้เพื่อค้นพบว่าชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์นี้เป็นอย่างไร

ดีพอิมแพคยังหันกลับมาสำรวจโลกในช่วงความยาวคลื่นที่ตาเห็นและอินฟราเรด ช่วยให้เปรียบเทียบกับการค้นพบดาวเคราะห์คล้ายโลกรอบๆ ดาวอื่นในอนาคตได้


ขอขอบคุณเนื้อหา: เว็บ darasart

แหล่งที่มา:
astronomy.com : the search for extrasolar planets
space.com : NASA probe begins hunt for alien planets


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์