ดูแล เท้า ช่วงหน้าฝนปัญหาสุขภาพที่พึงใส่ใจ

ดูแล เท้า ช่วงหน้าฝนปัญหาสุขภาพที่พึงใส่ใจ


ปัญหาของเท้าในช่วงหน้าฝน เนื่องจากช่วงนี้จะมีฝนตกมาก การเดินทางของคนทั่วไปก็มีโอกาสจะต้องเดินย่ำน้ำ โดยเฉพาะปีที่ผ่านมาเกิดน้ำท่วมใหญ่ ประชาชนส่วนใหญ่ประสบปัญหาเรื่องของเท้าจากการที่บ้านน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน
    
พญ.พรภุชงค์ เลาห์เกริกเกียรติ แพทย์ผิวหนังและแพทย์หัวหน้าศูนย์ความงาม โรงพยาบาลพญาไท 3 กล่าวว่า การดูแลเท้าโดยทั่วไปเมื่อต้องเดินย่ำน้ำในช่วงฝนตก รวมทั้งกรณีต้องเดินในที่น้ำท่วมขัง ควรระวังไม่เดินย่ำน้ำด้วยเท้าเปล่า ควรใส่รองเท้าเพื่อป้องกันการโดนสิ่งมีคม เช่น เศษแก้ว เศษกระเบื้อง รวมทั้งการโดนสัตว์มีพิษกัดต่อยได้ เช่น ตะขาบหรืองู หรือมีโอกาสที่จะมีพยาธิไชผ่านผิวหนังได้ ถ้าเป็นพื้นที่น้ำท่วมควรมีรองเท้าบู๊ตใส่เวลาเดินลุยน้ำเพื่อป้องกันเท้าไม่ให้สัมผัสกับน้ำ ลดความเสี่ยงที่เท้าจะบาดเจ็บหรือสัมผัสสารที่จะเป็นอันตรายกับผิว หลังกลับถึงบ้านควรทำความสะอาดเท้าด้วยน้ำสะอาด ฟอกถูด้วยสบู่ โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า ซอกเล็บ หลังทำความสะอาดควรเช็ดเท้าให้แห้ง เน้นบริเวณซอกนิ้ว อาจใช้แป้งฝุ่นโรยเพื่อลดความชื้นของผิว ควรเปลี่ยนรองเท้าที่ใส่ ไม่ควรให้รองเท้าเปียก ถ้าคู่ที่เปียกน้ำควรผึ่งให้แห้ง รวมทั้งควรเปลี่ยนใส่รองเท้าที่แห้ง ถ้าใส่ถุงเท้าก็ควรใส่ถุงเท้าที่ไม่ชื้น เปียกน้ำ ควรสลับคู่รองเท้าที่ใส่
    
แต่ถ้าเกิดปัญหาของน้ำท่วมขังต้องเดินลุยผ่านที่น้ำท่วม นอกเหนือจากการใส่รองเท้าบู๊ตเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าเท้า รวมทั้งทำความสะอาดเท้า เช็ดเท้าให้แห้ง ก็ควรหลีกเลี่ยงการลุยน้ำ แต่ถ้าจำเป็นต้องเดินลุยน้ำเป็นประจำ การทำความสะอาดอาจใช้เกล็ดด่างทับทิมผสมน้ำเพื่อฆ่าเชื้อ ผสมให้น้ำเป็นสีชมพูอ่อน แช่เท้าประมาณ 5 นาที ก่อนลุยน้ำควรใช้ขี้ผึ้ง เช่น vaseline ointment ทาเคลือบผิวเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวสัมผัสกับน้ำได้มาก ถ้าไม่มีน้ำเพียงพอที่จะทำความสะอาด การเช็ดเท้าให้แห้งอยู่เสมออย่างน้อยก็จะลดปัญหาของผิวได้ เพราะถ้าเท้าโดนน้ำอยู่ต่อเนื่องก็จะเกิดเท้าเปื่อย ผิวแตกลอกได้ อาการที่เป็นไม่มากผิวจะมีลักษณะแห้งลอกเป็นขุย การทำความสะอาดเช็ดเท้าให้แห้ง ทาครีมบำรุงผิวก็อาจจะช่วยได้ แต่ถ้าเท้าโดนน้ำมากขึ้นผิวจะมีลักษณะแห้งแดง แตกลอกและคัน เกิดเป็นผิวหนังอักเสบ ควรมียาทา เช่น ครีมประเภท steroid นอกจากนี้ก็จะมีปัญหาที่เกิดตามมา จะเป็นการติดเชื้อ โดยเฉพาะถ้ามีแผลแล้วไม่รีบรักษาก็จะมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง โดยผิวหนังจะมีอาการปวดบวมแดง เกิดมีฝีหนองขึ้นได้ ควรมีน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดแผล อาจมีการใช้ขี้ผึ้งฆ่าเชื้อทา ถ้าอาการเป็นมากก็มีการทานยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย รวมทั้งดูแลเท้าให้แห้งเสมอ ปัญหาผิวหนังเรื้อรังก็คือการติดเชื้อราที่เท้า ผิวจะลอกโดยเฉพาะที่ซอกนิ้วจะเห็นเป็นขุย เปื่อยลอก มีกลิ่น การรักษาจะเป็นการใช้ยาฆ่าเชื้อราทา หรือถ้ามีอาการรุนแรงก็อาจมียารับประทานด้วยเช่นกัน.


ขอบคุณ : ไทยโพสต์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์