ตรวจภายใน.... เขาทำยังไงกัน ?

ตรวจภายใน.... เขาทำยังไงกัน ?


การตรวจภายใน คืออะไร

การตรวจภายใน (pelvic examination) คือการตรวจอวัยวะภายในสตรี ซึ่งประกอบด้วย มดลูกและรังไข่ รวมถึงการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกด้วย

ผู้หญิงที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรตรวจภายในและเช็คมะเร็งปากมดลูกทุกๆปี หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรห่างกันเกินห้าปี
ตามมาตรฐานของต่างประเทศ แนะนำให้เริ่มตรวจภายในตั้งแต่อายุ 18 ปี หรือ เมื่อเริ่มมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่เกิน 3 ปี ไปจนอายุ 75 ปี หรือพูดง่ายๆ ไปตรวจจนไปไม่ไหวนั่นแหละ

ส่วนในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ให้เริ่มตรวจมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุ 35 ปี และหลังจากนั้น ทุกๆ 5 ปีด้วยเหตุนี้จึงมีคนไข้มาฟ้องบ่อยๆ ว่า ไปขอตรวจทุกปี แต่หมอที่อนามัยไม่ยอมตรวจให้ เพราะเพิ่งตรวจไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็อย่าไปโกรธเขาเลย เพราะเขารับนโยบายมาแบบนี้

เหตุที่คำแนะนำในประเทศไทยเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าประเทศเราค่อนข้างยากจน หมอที่อ่านสไลด์แป็บสเมียร์ได้ก็มีน้อยมากๆ เป็นสาขาขาดแคลน อีกทั้งพี่ป้าน้าอาในชนบทก็มักไม่ค่อยอยากตรวจภายในกัน เป้าหมายตอนนี้ เอาแค่ทุกๆ 5 ปีให้ได้ก็บุญแล้ว
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ลำบากลำบนอะไร และอยู่ในเมือง ให้ไปตรวจทุกปีดีที่สุด หรืออย่างน้อยให้ผลปกติติดต่อกัน 3 ครั้ง แล้วจะไปทุกๆ 3-5 ปีก็ได้


การเตรียมตัวก่อนตรวจภายใน

ควรเลือกไปตรวจวันไหน

ให้ไปหลังหมดประจำเดือนแล้วอย่างน้อย ประมาณ 7 วัน ถ้า จะตรวจมะเร็งปากมดลูกนะ เพราะถ้ามีเลือดออกจะตรวจไม่ได้ ถ้าจะให้ดีก็ไปประมาณ วันที่ 14 ของรอบเดือน เพราะปากมดลูกจะเปิด มูกจะใส ตรวจแป๊บสมียร์ได้ดี

แต่ สำหรับคนที่ต้องการจะไปตรวจเรื่องเลือดประจำเดือนมามาก มานาน ก็ไปได้เลยนะ ไม่ต้องรอให้มันหยุด ไปตอนมันออกเยอะๆเลย หมอตรวจได้ไม่รังเกียจ จะได้เห็นชัดเจนว่าเลือดออกจากไหน มากน้อยยังไง

ไม่ต้องเสียดายว่าจะไม่ได้เช็คมะเร็ง เรื่องนั้นไว้วันหลังตอนเลือดหยุดแล้ว

เตรียมกาย

ไม่มีอะไรยุ่งยาก ให้งดสวนล้างช่องคลอด (ความจริงก็ไม่ควรสวนอยู่แล้วหละ) และงดเพศสัมพันธ์ในวันก่อนมา เพราะต้องตรวจเช็คมะเร็งด้วย เดี๋ยวเซลล์ผิวหน้าของปากมดลูกจะหลุดลอกไปหมด

แต่งกายสบายๆ โดยเฉพาะท่อนล่างควรถอดง่าย ใส่กระโปรง(เก่าๆ)ไปดีที่สุด จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นผ้าถุงของรพ.สะดวกรวดเร็วกว่า และไม่ต้องแต่งตัวสวยมาก เผื่อมีการเปรอะเปื้อนพวกน้ำยาต่างๆที่ใช้ทำความสะอาด จะได้ไม่เสียดายของ
ขอร้องอย่าใส่กางเกงยีนส์ มันถอดยาก บางคนต้องส่งไปตรวจอัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอดต่ออีก ได้ถอดอีกรอบ

เตรียมคำตอบ

สิ่งที่แพทย์(โดยเฉพาะสูตินรีแพทย์) มักจะถาม ได้แก่

ประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาเมื่อไหร่ รอบก่อนๆนี้มาปกติดีมั้ย ถ้าจะให้ดี ควรมีการจดบันทึกไว้ในปฏิทินเล็กๆ มีประโยชน์หลายๆอย่าง ถ้ามีโอกาสจะแจกแจงในหัวข้ออื่นๆต่อไป

มีเพศสัมพันธ์รึยัง หมอบางคนก็ถามอ้อมๆ เช่น มีแฟนรึยัง แต่งงานรึยัง อะไรทำนองนี้ แต่ถ้าหมอกร้านโลกก็จะถามเลยว่า หนูมีเพศสัมพันธ์รึยัง เรื่องของเรื่องก็คือ อยากรู้ว่าจะตรวจภายในได้รึเปล่า ถ้ายังบริสุทธิ์อยู่ หมอก็จะไม่ตรวจภายใน เพราะฉะนั้นให้ตอบตามตรง เคยก็บอกว่าเคย ถ้ามัวอายก็จะไม่ได้ตรวจอย่างที่ควรได้ตรวจ

ไม่ได้ถาม แล้วหมอเอาไปตรวจเลย ก็ไม่ต้องยอม บอกเลยหนูไม่เคยๆๆๆ ( เห็นอยู่เรื่อยๆเหมือนกันนะ ในพันทิพนี่แหละ ) ถ้าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน หมอจะตรวจโดยการสอดนิ้วเข้าทางรูก้นแทนซึ่งจะพอคลำก้อนแถวๆมดลูกได้บ้าง หรือส่งอัลตร้าซาวน์ถ้าสงสัยว่ามีก้อนในท้อง

คุมกำเนิดยังไง เคยท้อง เคยแท้ง เคยคลอดไหม

เป็นข้อมูลสำคัญนะ การคุมกำเนิดบางอย่าง ทำให้ประจำเดือนผิดปกติ บางทีถามกันตั้งนาน ที่แท้เลือดออกเพราะกินยาคุมไม่สม่ำเสมอ อะไรแบบนั้น

บางคนประจำเดือนไม่มาหลายเดือน ถามไปถามมา เคยไปทำแท้งโดยขูดมดลูก ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้ปากมดลูกตีบตัน หรือมีพังพืดในโพรงมดลูก ทำให้ประจำเดือนไม่มา (คือไม่กล้าบอก เพราะกลัวหมอจะไปบอกพ่อแม่ หรือแจ้งตำรวจ)
คลอดวิธีไหน ถ้าเคยคลอดช่องคลอด หมอก็จะเลือกปากเป็ดตัวใหญ่หน่อย ถ้าไม่เคยคลอดลูก หรือเคยผ่าคลอด ก็เลือกตัวเล็กๆหน่อย

เคยตรวจมะเร็งปากมดลูกมาก่อนหรือไม่

ถ้ายังไม่เคยตรวจ หรือเคยตรวจแล้วแต่ครบ 1 ปีแล้ว ก็จะได้ตรวจไปเลยในครั้งนี้ แต่ถ้ายังไม่ครบ 1 ปี (ซึ่งก็มีบ่อยที่คนไข้กังวลมาก ตรวจแล้วตรวจอีก เปลี่ยนรพ.ไปเรื่อยๆ) หมอก็จะได้บอกว่า ปีละครั้งพอแล้วจ้า
อาการที่มาตรวจครั้งนี้เป็นอย่างไร ก็เล่าไปตามนั้น เหมือนตรวจโรคทั่วๆไป

ที่มา: yenta4.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์