ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน



การท่องเที่ยวประเทศเยอรมนี (Germany) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Federal Republic of Germany)อีกหนึ่งประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในตอนกลางของทวีปยุโรป ทิศเหนือจรดเดนมาร์ก ทิศใต้จรดสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย ทิศตะวันออกจรดสาธารณรัฐเช็กและโปแลนด์ ทิศตะวันตกจรดเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก และฝรั่งเศส โดยมี กรุงเบอร์ลิน (Berlin) เป็นเมืองหลวงและรัฐหนึ่งใน 16 รัฐสหพันธ์ของประเทศเยอรมนี



 การท่องเที่ยวเบอร์ลินเมืองหลวงของประเทศเยอรมนี เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านการท่องเที่ยวและประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของโลก โดยกรุงเบอร์ลินนั้นเป็นเมืองหลวงและรัฐหนึ่งใน 16 รัฐสหพันธ์ของประเทศเยอรมนี

หากเอ่ยถึง กรุงเบอร์ลิน แน่นอนว่าคุณจะต้องไม่พลาดนึกถึงชื่อเสียงของ กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall) ก็มีชื่อเสียงไปไม่น้อยกว่ากัน เนื่องจาก กำแพงเบอร์ลิน เป็นกำแพงที่สร้างขึ้นช่วงหลังเยอรมันพ่ายสงครามโลกครั้งที่สอง และถูกแบ่งเป็นสองประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อปิดกั้นพรมแดนเบอร์ลินตะวันตกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมันตะวันตก

กรุงเบอร์ลิน ตั้งอยู่บนแม่น้ำสปรี (Spree River) และแม่น้ำฮาเฟล (Havel River) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเยอรมนี ห้อมล้อมด้วยรัฐบรานเดนบวร์ก ในสมัยก่อน เบอร์ลิน เคยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบรานเดนบวร์กก่อนจะแยกการปกครองออกเป็นนครรัฐต่างหากรัฐหนึ่ง...

เนื่องจากว่ากรุงเบอร์ลินเป็นเมืองที่มีขนาดที่ใหญ่มาก จึงไม่น่าแปลกใจนักที่กรุงเบอร์ลินจะกลายเป็นจุดศูนย์รวมของสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆของประเทศเยอรมนีไว้เป็นจำนวนมาก จุดหมายแรกที่เราอยากแนะนำให้คุณไปเยือนเมื่อมีโอกาสมากรุงเบอร์ลิน คือ เขตมิทเทอ (Mitte) ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของกรุงเบอร์ลิน และยังเป็นอดีตใจกลางเมืองของเบอร์ลินตะวันออกอีกด้วย


ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


เขตมิทเทอ เป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าอาคารเก่าแก่จากสงครามโลกครั้งที่สองจำนวนมาก ปัจุบันย่านมิทเท่อกลายเป็นที่ตั้งของไนท์คลับจำนวนมาก รวมถึงคุนสท์เฮาส์ทาเชเลส (Kunst Haus Tacheles), คลับเทคโนอย่าง Tresor, WMF, Ufo, E-Werk, และที่มีชื่อเสียงในทางไม่ดีนักคือ Kitkatclub กับ Berghain คลับ Linientreuและอื่นๆ

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


 นอกจากนี้แล้ว เขตมิทเทอ ยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์ไกเซอร์-วิลเฮล์ม (Kaiser-Wilhelm-Gedachtniskirche) หรือ "โบสถ์หัก" โบสถ์เก่าแก่ที่ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1890 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานถึงจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 ต่อมาได้รับความเสียหายจากการโจมตีโดยการทิ้งระเบิดในปี ค.ศ. 1943

โบสถ์ไกเซอร์-วิลเฮล์ม ถูกสร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค สิ่งที่โดดเด่นไม่แพส่วนอื่นๆของโบสถ์คือ หอนาฬิกา ที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนซากปรักหักพังของโบสถ์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 ซึ่งหากมาในตอนกลางคืน คุณจะพบว่าหอนาฬิกาแห่งนี้สามารถเรืองแสงได้อีกด้วย

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


หลังจากนั้นขอแนะนำให้คุณไปชม มหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral) มหาวิหารนิกายโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลิน โดยมหาวิหารถูกสร้างในระหว่างปี 1894-1905 ในรูปแบบสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ มหาวิหารเป็นที่ทำพิธีการเจิมน้ำมนต์ เข้าพิธีอภิเษกสมรส และใช้เป็นสถานที่ฝังศพของสมาชิกในราชวงศ์ ซึ่งบริเวณชั้นใต้ดินของมหาวิหารแห่งนี้ มีหลุมฝังศพของราชวงศ์โฮเฮ่นซอลเลิร์นอีกด้วย

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


ต่อมาขอแนะนำให้คุณไปเยือน ประตูบรานเดนบวร์ก (Brandenburger Tor) อดีตประตูเมืองและเป็นสัญลักษณของกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ประตูตั้งอยู่ระหว่าง Pariser Platz และ จตุรัส 18 มีนาคม (Platz des 18. Marz) และเป็นประตูที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวจากทั้งหมดหลายแห่งที่เข้าเบอร์ลิน ห่างประตูออกไปทางเหนือหนึ่งบล็อก เป็นที่ตั้งของตึก Reichtag

ประตูบรานเดนบวร์ก เป็นประตูเมืองเก่าแก่ ได้รับการก่อสร้างระหว่าง ค.ศ.1788 ถึง ค.ศ. 1791 ตามศิลปะแบบโรมัน โดยฝีมือของ C.G.Langhans เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเอกภาพของประเทศเยอรมนี

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


ถัดมาขอแนะนำให้คุณไปชม อาคารรัฐสภาเยอรมัน (Bundestag) ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูบรานเดนบวร์ก เป็นอีกหนึ่งอาคารที่มีความโดดเด่นมาก โดยเฉพาะโดมแก้วขนาดใหญ่ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของอาคารรัฐสภาแห่งนี้

อาคารรัฐสภาเยอรมัน ออกแบบก่อสร้างโดย Wallot ระหว่างปี ค.ศ. 1884 - 1894 ใช้เป็นที่ประชุมรัฐสภาของประเทศเยอรมนี เรียกว่า Sitz des Deutschen Bundestages ถือเป็นอาคารที่สำคัญที่สุดของประเทศเยอรมันเลยก็ว่าได้

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


จากนั้นขอแนะนำให้คุณไปเยือน จัตุรัสอเล็กซานเดอร์พลาทซ์ (Alexanderplatz) จตุรัสเปิดขนาดใหญ่และศูนย์กลางขนส่งมวลชนในเบอร์ลินชั้นใน ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำสปรีและมหาวิหารเบอร์ลิน โดยจุดแรกที่อยากให้คุณไปชม คือ หอโทรทัศหอโทรทัศน์แฟร์นเซทวร์ม (Fernsehturm) ที่อเล็กซานเดอร์พลาทซ์ เป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป คือ มีความสูงประมาณ 368 เมตร

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


หอโทรทัศหอโทรทัศน์แฟร์นเซทวร์ม ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1969 นักท่องเที่ยวที่มาเยือน เขตมิทเทอสามารถมองเห็นหอนี้ได้จากเกือบทุกเขตศูนย์กลางของเมือง ในหอที่ระดับความสูง 204 เมตร มีชั้นสังเกตการณ์มุมสูงซึ่งเราสามารถชมทิวทัศน์ของเมืองได้

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


 และไม่ไกลจากกันนักจะเป็นที่ตั้งของ อาคารที่ว่าการเมือง หรือที่เราเรียกกันว่า ศาลากลางแดง (Red City Hall) เป็นศาลากลางของกรุงเบอร์ลิน เป็นอีกหนึ่งอาคารที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอิฐแดง ถูกสร้างขึ้นระหว่าง ปีค.ศ.1861 - 1869 บริเวณด้านหน้าของที่ว่าการเมืองมีน้ำพุเนปจูน Neptunbrunnen ซึ่งเป็นน้ำพุที่ประดับด้วยฉากจากตำนานเทพปกรณัม

ต่อมาขอแนะนำให้คุณไปเยือน วิหารนีโคไล (Nikolaikirche (Berlin)) เป็นวิหารที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเบอร์ลิน และถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิหารที่ได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตีระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยวิหารถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1230 และได้รับการสร้างใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1988

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


 สุดท้ายขอแนะนำให้คุณไปเยือน คือ กลุ่มพิพิธภัณฑ์บนเกาะพิพิธภัณฑ์ , เบอร์ลิน (Museum Island , Museumsinsel, Berlin) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการจารึกไว้ในรายชื่อมรดกโลกของยูเนสโก ในปี ค.ศ.1999 เกาะพิพิธภัณฑ์ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่าง ปี 1824- 1930

เกาะพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ทางส่วนเหนือของเกาะสปรี ระหว่างแม่น้ำสปรีและ Kupfergraben เป็นเกาะที่ถูกกำหนดให้เป็น “เขตที่อุทิศให้กับศิลปะและวัตถุโบราณ” โดยพระราชกฤษฎีกา โดยประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์สำคัญๆหลายแห่ง อาทิเช่น

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


 - พิพิธภัณฑ์เก่า (Altes Museum) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติของกลุ่มพิพิธภัณฑ์บนเกาะพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1823 -1830 โดยสถาปนิก คาร์ล ฟรีทลิช ชินเคล (Karl Friedrich Schinkel) อาคารมีรูปแบบตามสถาปัตยกรรมยุคนีโอคลาสสิก (กลางศตวรรษที่ 18) ประวัติศาสตร์ยกย่องให้อาคารหลังนี้เป็นผลชิ้นวิเศษในอาชีพสถาปนิกของชินเคลภายในมีจัดแสดงเกี่ยวกับคอลเลกชันแบบโบราณ

- พิพิธภัณฑ์ใหม่ (Neues Museum) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือจากพิพิธภัณฑ์เก่า ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1843 - 1855 ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อียิปต์และคอลเลกชันก่อนประวัติศาสตร์ ที่โดดเด่นที่สุด คือ รูปปั้นครึ่งตัวของพระนางเนเฟอร์ติติ

- หอศิลปะโบราณแห่งชาติ (Alte Nationalgalerie) ถูกสร้างขึ้ในปีค.ศ.1815 ซึ่งภายในหอศิลมีการจัดแสดงเกี่ยวกับคอลเลกชันในยุคคลาสสิก , โรแมนซ์ , สมัยใหม่ และอื่นๆ

- พิพิธภัณฑ์โบเด (Bode Museum) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะเปิดในปี ค.ศ. 1904 พิพิธภัณฑ์ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Ernst von Ihne ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับคอลเลกชันต่างๆ อาทิเช่น ประติมากรรม , ศิลปะไบเซนไทน์ และ เหรียญโบราณต่างๆ

และสุดท้ายคือ พิพิธภัณฑ์เปร์กามอน (Pergamon Museum) 1 ใน 10 พิพิธภัณฑ์ชั้นเยี่ยมของโลก ที่มีการเก้บรวบรวมงานศิลปวัตถุโบราณล้ำค่าของโลก ภายในมีการจัดแบ่งออกเป็นโซน โดยโซนแรกที่คุณจะได้พบคือ เพอร์กามอน อัลตาร์ (Pergamon Altar) วิหารแท่นบูชาเทพเจ้าซุส ขนาดยักษ์ในยุคศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาลที่ถูกค้นพบที่เมืองเพอร์กามอน ประเทศตุรกี

ซึ่งในการขุดค้นพบวิหารแห่งนี้ก็ได้มีนักโบราณคดีชาวเยอรมันร่วมอยู่ด้วย จึงได้นำชิ้นส่วนบางชิ้นกลับมาเพื่อบูรณะและประติดประต่อเสมือนดั่งประกอบจิ๊กซอร์ และเขาใช้เวลาถึง 20 ปี ในการจัดทำให้วิหารแห่งนี้มีขนาดเท่าของจริง

นอกจากนี้ยังมีคอลเลกชันสมัยโบราณที่น่าสนใจอื่นๆอีกจำนวนมาก อาทิเช่น ประตูอิชตาร์แห่งบาบิลอน (Ishtar Gate) , ประตูตลาดเมืองมีเลตัส (Market Gate of Miletus) และอื่นๆ

ตลุย!ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เบอร์ลิน


บทความโดย : Travel.thaiza.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์