ตะลึง!ไทยขึ้นแท่นอันดับ1 แชมป์โลกมะเร็งท่อน้ำดี

ตะลึง!ไทยขึ้นแท่นอันดับ1 แชมป์โลกมะเร็งท่อน้ำดี


เมื่อพูดถึงมะเร็ง หลายคนอาจจะเคยสับสนระหว่างมะเร็งตับกับมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งจริงๆ แล้ว ทั้งตับและท่อน้ำดีเป็นอวัยวะที่อยู่ต่อเนื่องกัน

บางส่วนของท่อน้ำดีก็อยู่ในเนื้อตับ ด้วยเหตุนี้ การจะบอกว่าเป็นมะเร็งชนิดใดต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์

เรื่องนี้ สำหรับผมไม่ใช่ประเด็นสำคัญมากนัก เพราะจริงๆ แล้วประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่ทำอย่างไร เราจะสามารถป้องกันมะเร็งชนิดนี้ได้ต่างหาก

ปัจจุบันประเทศไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือถือว่าเป็นแชมป์อันดับ 1มะเร็งท่อน้ำดีโลก คือมีผู้ชายเป็นมะเร็งชนิดนี้ 86.4 ต่อแสนประชากร และผู้หญิง 36.8 ต่อแสนประชากร นับเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตของคนไทยที่สถิติมากกว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเสียอีก ทั้งๆ ที่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมีผู้ป่วยจำนวนไม่มากนัก

มะเร็งท่อน้ำดีมักมีอุบัติการณ์ในภาคอีสานและภาคเหนือ ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยใหม่ประมาณ 20,000 คน ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนทั้งสองภูมิภาคนี้ มีวัฒนธรรมการกิน สุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะปลาน้ำจืดดิบมีเกล็ด ที่มีตัวอ่อนของพยาธิใบไม้ในตับ เช่น ปลาแม่สะแด้ง ปลาแก้มช้ำ ปลาขาวนา ปลาตะเพียนทราย เป็นต้น อาหารที่มีความเสี่ยงก็คือ ก้อย ลาบปลาดิบ ปลาส้ม ปลาร้าดิบ หรือส้มตำปลาร้าดิบ ซึ่งปลาร้าดิบ รวมทั้ง ปลาจ่อม ปลาส้ม ปลาเค็ม และไส้กรอก ที่มักมีสารก่อมะเร็งพวกไนโตรซามีนที่เกิดจากการหมักดองด้วยเกลือไนเตรทหรือดินประสิว

จากการสำรวจในปี 2553 โดยสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 6 ขอนแก่น พบว่า คนอีสานกว่า 79 % ยังชอบกินปลาดิบ แม้จะมีการรณรงค์มานานแต่ก็ไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมการบริโภคของชาวอีสานได้

เมื่อพยาธิใบไม้ในตับเข้าสู่ร่างกายตัวพยาธิจะเข้าไปอยู่ในท่อน้ำดีในตับจนก่อให้เกิดการอักเสบขึ้น อาการที่สำคัญคือ แน่นท้อง เจ็บ จุก ปวดท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เมื่อเกิดเป็นประจำจะนำไปสู่มะเร็งท่อน้ำดีในที่สุด อย่างไรก็ตามเนื่องจากโรคนี้มักไม่แสดงอาการ จะพบได้ต้องตรวจอัลตราซาวนด์เท่านั้น อาการจะแสดงก็มักจะเข้าสู่ระยะที่รุนแรงแล้ว เช่น ตัวเหลือง ตาเหลือง คันตามตัว ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระซีดเนื่องจากท่อน้ำดีอุดตันจากมะเร็ง เมื่อปล่อยไว้จะทำให้มะเร็งลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณข้างเคียงและมักมีมะเร็งท่อน้ำดีเกิดขึ้นหลายตำแหน่ง

โรคนี้ พบในผู้ป่วยทุกวัย ตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบ ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะเด็กกินปลาดิบตามผู้ใหญ่ ทางที่ดีจึงอยู่ที่การป้องกัน โดยไม่รับประทานปลาน้ำจืดดิบ รวมทั้งสัตว์น้ำจืดอื่นๆ

ที่ยังไม่ได้ปรุงสุก ที่สำคัญจะต้องปรับทัศนคติของคนอีสาน โดยเริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชนขึ้นไปให้หันมารับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ส่วนความเชื่อที่ว่าหากรับประทานปลาดิบเข้าไปแล้วสามารถกินยาฆ่าพยาธิใบไม้ตับได้นั้นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ถ้าทำเพียงครั้งเดียวคงไม่มีปัญหา แต่หากทำบ่อยๆ แม้ว่าพยาธิใบไม้ในตับจะตายจริงแต่ตัวพยาธิจะปล่อยสารชนิดหนึ่งออกมา ทำให้เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งท่อน้ำดีได้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ ยังต้องลบความเชื่อผิดๆ ที่ว่าถ้าเป็นแล้วหากไปรักษากับคุณหมอ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการผ่าตัดนั้นจะทำให้มะเร็งแพร่กระจายได้เร็วขึ้น

สำหรับการรักษา การผ่าตัดถือว่าสามารถทำให้หายขาดประมาณร้อยละ 20-30 เท่านั้น ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักได้รับการรักษาด้วยการให้เคมีบำบัดหรือบรรเทาอาการ การระบาย

ท่อน้ำดีด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งเป็นการรักษาแบบประคับประคอง

ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติต้องไปพบคุณหมอเพื่อตรวจรักษา หรือถ้าสงสัยควรไปตรวจคัดกรองมะเร็งเพราะธรรมชาติของมะเร็งชนิดนี้เป็นโรคที่อันตราย ถ้าเป็นแล้วจะทำให้เสียชีวิตในระยะเวลาอันรวดเร็ว

การรู้จักป้องกันก่อนสาย อันตรายจากโรคนี้คงไม่เกิด เริ่มจากตัดใจไม่กินปลาน้ำจืดดิบ แค่นี้ก็เป็นการป้องกันเบื้องต้นได้แล้ว (หน้าพิเศษ Hospital Healthcare)

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์