ติดน้ำตาล...เลิกหวานกันซะทีเถอะ


คุณมีพฤติกรรมแบบนี้หรือเปล่าคะ

"เครียดจัง ไปหาช็อกโกแลตมากินดีให้อารมณ์ดีดีกว่า"

"รู้สึกเพลีย ๆ แบบนี้ คงต้องดื่มน้ำหวานช่วยแล้วล่ะ"

"ต้องซื้อลูกอมติดกระเป๋าไว้แล้ว ไม่ได้กินแล้วขาดอะไรไปซักอย่าง"


ถ้าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ทุกวันหรือทำเป็นประจำล่ะก็ รู้เอาไว้เลยค่ะว่าคุณกำลังเข้าข่ายเป็นสมาชิกชมรม "คนติดน้ำตาล" เข้าให้แล้ว

ทราบไหมคะว่าการติดน้ำตาลจนทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจนั้น ล้วนแล้วเกิดจากพฤติกรรมของเราเป็นหลักค่ะ เช่น แม่บางคนจะชอบให้ลูกกินขนมหวานเพื่อให้ลูกหยุดร้องจนเป็นนิสัย บางคนกินเพื่อฆ่าเวลาขณะรอหรือทำอะไรเพลิน ๆ รวมไปถึงคนที่ชอบกินอาหารรสหวานหรือปรุงก๋วยเตี๋ยวแต่ละที ก็เติมน้ำตาลชนิดที่ว่านับช้อนไม่ถ้วน สุดท้ายก็เลยติดน้ำตาลไม่รู้ตัว

 ข้อสังเกตว่าคุณติดน้ำตาลหรือไม่ มีง่าย ๆ ดังนี้

1. รู้สึกกระสับกระส่าย หรือหงุดหงิดถ้าไม่ได้ทานของหวานเลย

2. จะต้องมีของหวานติดตัวหรือใกล้ตัวอยู่เสมอ เช่น ลูกอม คุกกี้ หรือน้ำหวาน

3. ทานอาหารหลักหรืออาหารคาวได้ไม่มาก แต่จะชอบทานของหวานจนอิ่ม

4. หากไปตรวจสุขภาพจะพบว่ามีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงมาก หรือบางครั้งปัสสาวะจะมีมดขึ้น


มองเผิน ๆ คล้ายอาการของคนที่เป็นโรคเบาหวานค่ะ แต่อาการติดน้ำตาลนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโรคเท่านั้น คราวนี้เมื่อเราสำรวจและพบว่าตัวเองเป็นพวกติดน้ำตาลแล้ว ก็มา "ลด ละ เลิก" กันเถอะค่ะ

 1. ทานอาหาร 3 มื้อให้ตรงเวลา และอีก 2 มื้อของว่างที่เป็นผลไม้ เพื่อปรับให้ร่างกายคุ้นเคยกับการรับสารอาหารอย่างเต็มที่ เป็นการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ
 2. เลือกทานผักและผลไม้สดเป็นหลัก หากต้องการของหวานมาก ๆ ก็ให้เน้นทานผลไม้ที่มีรสหวานเช่น ส้ม มะละกอ แอปเปิ้ล เพราะน้ำตาลจากผลไม้สดจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
 3. เปลี่ยนการรับประทานแป้ง และคาร์โบไฮเดรตทุกชนิดมาเป็นการทานโปรตีนจากพืชหรือเนื้อสัตว์ให้มากขึ้น
 4. กินหรือเพิ่มเครื่องเทศต่าง ๆ ลงในอาหาร ซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด และลดความอยากน้ำตาลได้
 5. ผิดนะคะถ้าเหนื่อยล้าและรู้สึกว่าน้ำตาลช่วยได้ ถ้าเพลียมาก ๆ ก็ควรนอนพักผ่อน ไม่ควรกินของหวานเพื่อเพิ่มความกระชุ่มกระชวย
 6. เก็บของหวานให้ไกลตัวที่สุด หรือถ้าเป็นไปได้ก็อย่าให้มีอยู่ในบ้าน บนโต๊ะทำงาน หรือในกระเป๋าเลย
 7. งดน้ำตาลเทียมทุกชนิด เพราะถึงเขาจะว่าไม่อ้วน แต่ก็ทำให้ติดน้ำตาลได้เหมือนกัน
 8. ใช้น้ำตาลธรรมชาติแท้ ๆ แทน เช่น น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมจากข้าวโพด
 9. ดื่มน้ำเยอะ ๆ จะช่วยลดความอยากทานน้ำตาล
 10. ดีท็อกซ์ล้างพิษ จะช่วยล้างปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือด
 11. ออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกเยอะ ๆ หรือใช้กำลังเยอะกว่าปกติ เช่น แอโรบิก วิ่ง หรือโยคะ
 12. อ่านฉลากก่อนทุกครั้งที่จะต้องซื้ออาหารที่มีรสหวาน ถ้าเป็นอาหารชนิดเดียวกัน ให้ลองเลือกดูจากหลาย ๆ ยี่ห้อและเทียบปริมาณน้ำตาลดูว่ายี่ห้อไหนมีน้ำตาลน้อยที่สุดก็ให้เลือกยี่ห้อนั้น
 13. ฝึกการหายใจ หากรู้สึกอยากน้ำตาลขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้ลองหายใจเข้าออกช้า ๆ เนิบ ๆ ทำให้ออกซิเจนเข้าสู้กระแสเลือดได้ดี เป็นการช่วยลดความอยากน้ำตาลได้ดีมาก


ดูเป็นวิธีง่าย ๆ ใช่ไหมคะ แต่ถึงง่ายขนาดนี้หลายคนก็ยังไม่ยอมทำ ขี้เกียจทำกันอยู่ดี แต่เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าคุณทำตาม 13 วิธีข้างบนได้เมื่อไหร่ รับรองว่าคุณจะไม่ติดน้ำตาลอีกต่อไป



















ที่มา ... MomyPedia

ติดน้ำตาล...เลิกหวานกันซะทีเถอะ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์