ต่อสู้กับ สิ่งเร้า..ขณะทำงาน.!

พุทธทาสภิกขุพุทธทาสภิกขุ


ขณะที่ทำการงาน ต้องฝึกเห็นธรรมด้วย ต่อสู้กิเลสด้วย


ไม่ใช่ว่าเราจะเห็นธรรมะหรือพิจารณาธรรมะเฉพาะแต่เมื่อเวลาไปนั่งกรรมฐาน หรือไปไหว้พระสวดมนต์ เวลาอย่างนั้นไม่ค่อยมีเรื่อง เวลาที่จะพิจารณาธรรมะเห็นธรรมะนี่ เป็นเวลาที่เราทำงาน เพราะเวลาทำงานเป็นช่องทางให้กิเลสเกิด เมื่อเป็นช่องให้เกิดกิเลส เราจะได้รู้จักกิเลส จะได้ต่อสู้กิเลส จะได้กำจัดความยึดมั่นถือมั่น นี่ก็บอกอยู่บ่อย ๆ แล้วว่า ให้คลำดูบนหัว มีเขาโง้งหรือเปล่า ยกหู ชูหางหรือเปล่า เวลาเข้าใกล้เพื่อนฝูงส่งเสียง ฮื่อ ๆ แฮ่ ๆหรือเปล่า นั่นแหละเวลาที่มีประโยชน์มาก

เวลาที่ทำการงาน เวลาฉันอาหาร เวลาต่าง ๆ นี้ ได้เกิดความรู้สึกที่ เป็นรัก เป็นเกลียด เป็นโมโห เป็นยึดมั่นถือมั่น เกี่ยวกับกูกับมึงหรือเปล่า อะไรทำนองนี้ พอมีความคิดนึกไปในทาง ฮื่อ ๆ แฮ่ ๆ เรื่องกู เรื่องสูอะไร รีบสนใจเรื่องนั้นให้มาก ต้องฆ่ากันที่นั่น มันต้องมีตัวสิ่งที่เราจะฆ่า จึงจะฆ่าได้

ถ้าไปกางกลดอยู่บนภูเขา สบาย นอนหลับไปเลย อย่างนี้ก็ไม่มีอะไร ไม่มีเรื่องที่จะต้องฆ่า ต้องฟัน ต้องรบ แล้วก็ไปทำเพ้อ ๆ ไปตามระเบียบที่วางไว้ พอให้แล้ว ๆ ไปแล้วก็ตั้งให้เป็นโสดา สกิทาคา นี้น่าหวัว พอมากระทบอะไรเข้าจริงก็หวั่นไหว มีหูยาว หางยาว เขายาว อะไรนี้มากนัก

พิจารณาดูกันเถอะว่า มันมีฮื่อมีแฮ่กันหรือเปล่า? เมื่อฉันอาหาร เมื่อทำการงานนี้ เมื่อประชุม ส่งเสียงบ๊งเบ๊ง ล้งเล้ง ด้วยโทสะจริตหรือเปล่า มีสายตาค้อนควักคนอื่นหรือเปล่า มีการประชดประชันคนอื่นหรือเปล่า มีการอยากให้คนอื่นคิดว่าต้องยกเราเป็นหัวหน้า ต้องเชื่อฟังเรา อย่างนี้หรือเปล่า นี่คือกิเลสที่เลวที่สุดของพวกยึดมั่นถือมั่น คือว่า เป็นผู้อยากจะให้คนอื่นยอมแพ้ ว่าทุกคนต้องเชื่อฟังเรา นี้เป็นอันดับต่ำสุดของพวกยึดมั่นถือมั่น คนชนิดนั้นตกนรกทั้งเป็นอยู่ทุกชั่วโมง ทุกนาที แม้จะอยู่ในวัดนี้

แท้ที่จริงไม่มีเวลาที่หัวใจโปร่ง เป็นความสะอาด สว่าง สงบ และรู้จักพระพุทธเจ้า แต่ก็ยังยกหู ชูหาง จะให้ผู้อื่นคิดว่าตัวเป็นผู้ที่มีธรรมะอยู่นั่นแหละ ให้ตัวเป็นผู้มีคุณธรรมสูงกว่าผู้อื่นอยู่ เป็นอย่างนั้นเรื่อยไป เป็นธรรมชาติอย่างนี้เอง ธรรมชาติของกิเลส นี่คือคนที่ตกนรกทั้งเป็นอยู่ทุกทุกนาที ทั้งวันทั้งคืน ไม่มีระยะสักระยะหนึ่ง ที่ว่างเว้น ที่หัวใจจะสะอาด สว่าง สงบ แล้วเห็นพระพุทธเจ้าได้


ต่อสู้กับ สิ่งเร้า..ขณะทำงาน.!


คนบางคนพอมาเข้ากลุ่มสังคมกัน ก็กรุ่นอยู่แต่ที่จะให้คนอื่นยกย่องตัว


ว่าเป็นผู้ถูก ผู้เก่ง ผู้เลิศ ทุกคนต้องฟังคำสั่งกู อย่างนี้ นี้เป็นหลักธรรมดาทั่วไปไม่ว่าใคร มีกิเลสพื้นฐานอย่างนี้ทั้งนั้น แต่ว่าใครมีบุญก็เบาบางไป มีเวลาที่สงบบ้าง พอที่จะนึกเห็น หรือมีการพักผ่อน มองดูว่า อ้าว เป็นอย่างนี้ นั่น เป็นอย่างนั้น อาการต่าง ๆ ในจิตแตกต่างกันอย่างนี้ ก็จะได้ขวนขวายปฏิบัติธรรม ทีนี้ถ้าใครเป็นบ้าถึงขนาดที่กล่าวมานั้น อย่าได้โกรธเขาเลย ช่วยกันสงสารให้มากอย่าไปออกรับ อย่าไปต่อล้อต่อเถียง อย่าไปเป็นคู่ปรปักษ์ หรือศัตรู จงสงสารเขาให้มาก ถ้าเขาคลั่งจัดขึ้นมานัก ก็แอบไปหัวเราะกันอยู่ลับ ๆ ให้เขาบ้าคนเดียวอย่างนั้น แล้วก็คงจะดีขึ้นบ้าง

ผมจึงยืนยันว่า การทำวิปัสสนาในการงานนี้วิเศษที่สุด เหมืนที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ พวกคุณอาจจะคิดว่าผมจะหลอกใช้งานคุณก็ตามใจ ก็ได้เหมือนกัน แต่ว่าในใจแท้จริง ผมรู้สึกว่าเป็นวิธีลัดที่สุด ที่จะรู้จักกิเลส รู้จักความยึดมั่นถือมั่น และรู้จักวัดหู วัดหาง วัดเขา วัดอะไรของตัวเอง ว่าสั้นยาวเท่าใด ฉะนั้นขอให้เอาไปพิจารณาดู เพื่อจะขูดเกลาให้กิเลสเบาบางลง ให้ว่างลง ให้สงบลง จะได้เห็นพุทธะ เห็นธรรมะกันเสียบ้าง ให้เห็นว่าความไม่มีกิเลสที่เป็นเหตุให้ยกหูชูหางนี้เป็นอย่างไร วิเศษแค่ไหน

ความสะอาด สว่าง สงบ อยู่ที่ตรงไหน จะหาพบที่นี่ ที่ขณะทำงานนั้น ไม่ได้หาพบเพราะการไปนั่งคิด ๆ นึก ๆ สันนิษฐาน ใช้เหตุผลทั้งนั้น ผมเคยมาแล้ว ผมจึงขี้เกียจที่จะไปกางมุ้ง กางกลด นั่งในที่สงบ แล้วคิด ๆ นึก ๆ โดยการใช้เหตุผลอย่างนี้ ผมเคยทำมาแล้ว มันช่วยไม่ได้ ใครไม่เคยก็ไปลองดู แต่ถ้าว่า กลางวันมาต่อสู้กับอารมณ์นี้ แล้วกลางคืนเก็บไปคิดไปนึกนั้นดี ดีที่สุด กลางวันต่อสู้กับอารมณ์ เป็นยักษ์ เป็นมาร เป็นเทวดา เป็นพรหม เป็นอริยะ เป็นอะไรหลา ๆ อย่าง ในวันหนึ่ง ๆ นี้ พอค่ำลงเอาไปคิดนึก จะได้สงสารตัวเองให้มาก ละอายให้มาก กลัวให้มาก แล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้น ๆ ดีขึ้น ๆ


"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นพระพุทธเจ้า"

พุทธทาสภิกขุ



สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:
เสี่ยวเอ้อ xchange.teenee.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์