ทะเลาะอย่างไรไม่ให้แตกหัก

ทะเลาะอย่างไรไม่ให้แตกหัก


บางครั้งก็โมโหจนอยากกรี๊ดให้บ้านกระเจิง เก็บกดอัดไว้ในอกเพราะต้องการรักษาน้ำใจอีกฝ่ายมาก็มาก คราวนี้ทนไม่ไหวจริงๆ ขอเปิดศึกสักตั้ง แต่เพื่อไม่ให้ถึงขั้นแตกหัก ควรดำเนินการอย่างชาญฉลาดเพื่อให้ความสัมพันธ์ยืนยาวต่อไป

เคารพซึ่งกันและกัน


ขั้น แรกของการราวีอย่างได้ผลคือ ต้องทะเลาะแบบให้เกียรติกัน ไม่ใช่ขุดโคตรเหง้าวงศ์ตระกูลสาวไส้กันถึงบรรพบุรุษเจ็ดชั่วโคตร หลีกเลี่ยงการดูถูกดูแคลน การดุด่าว่ากล่าว ตำหนิติเตียน หรือการทำให้อีกฝ่ายอับอายขายหน้าประชาชี เพราะการฟาดฟันกันตัวต่อตัวแบบนี้มักเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายย่อยยับ ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น และห่างไกลจากคำว่าติเพื่อก่อหลายร้อยโยชน์
 
แทนที่จะกล่าวประนามสาดเสียเทเสีย สู้หาเรื่องยกยอสรรเสริญเวลาเขาทำดีจะสวยกว่า เช่น เวลาเขามาสาย ทั้งที่เราอยากจิกกัดเขาให้สาแก่ใจ เราควรระงับอกระงับใจ แล้วเอ่ยชมอย่างปลาบปลื้มเวลาเขามาตรงเวลา กลเม็ดแบบนี้จะช่วยให้เขาชอบมาทันเวลาเพราะอยากได้คำชม แทนที่จะฝืนใจมาให้ทันเพราะกลัวถูกด่า

พูดให้ตรงจุดอย่าเลื่อนเปื้อนไปเรื่องอื่น

ตอนแรกก็พูดกันดีๆ ไปๆมาๆชักเครื่องร้อน เพราะเริ่มเอ่ยประโยคต้องห้ามอย่างเช่น ?คุณไม่เคยอย่างโน้น?..อย่างนี้? ประโยคแบบนี้มีแต่พาให้บรรยากาศตึงเครียดเปล่าๆ เคล็ดลับมีง่ายๆ เหนือสิ่งอื่นใด ควรระลึกเอาไว้ให้ขึ้นใจว่า อดีตก็ควรทิ้งไว้ในอดีต อย่าเอามามั่วกับปัจจุบัน ทันทีที่เริ่มเปิดศึกก็ควรจดจ่ออยู่แต่เหตุการณ์เฉพาะหน้าและเรื่องที่ ตั้งใจสะสางเท่านั้น ห้ามเผลอเจาะเวลาหาอดีตให้บรรยากาศลุกลามใหญ่โตเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ การถกกันหลายหัวข้อ รังแต่จะฉุดให้เราออกนอกลู่นอกทาง ไกลจากหนทางแก้ปัญหาจนกู่ไม่กลับ

ตั้งกฎ

การตั้งกฎหรือตั้งขอบเขตเป็นการดับไฟแต่ต้นลม ช่วยให้เรื่องราวไม่ลุกลาม บางคู่ตั้งกฎไว้น่ารัก อย่างเช่น ทุกครั้งที่ร่ำๆจะทะเลาะกันก็จะออกไปเดินเล่นด้วยกัน หรือใช้วิธีหลีกลี้หนีหน้ากันไปสักชั่วโมงสองชั่วโมง แล้วค่อยกลับมาเจอหน้ากันเมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ค่อยลดความระอุลงแล้ว ลองคิดหาวิธีดูก็แล้วกัน รักชอบแบบไหนเลือกดู ขอรับรองว่าเคล็ดลับนี้ไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น

ควบคุมความโกรธ

ต้อง ยอมรับว่า เราทุกคนมิใช่นางฟ้านางสวรรค์ หรือนางเอกละครบางช่องที่ไม่เค้ยไม่เคยแสดงอารมณ์โกรธ เอาแต่สะอื้นฮักๆ ร่ำไห้กระซิกๆ เราคือปุถุชนคนธรรมดาที่บางครั้งเผลอน็อตหลุด หมดความอดทนจนระเบิดอารมณ์เข้าใส่กัน หากศึกครั้งนี้เริ่มด้วยการตะเบ็งเสียงว้ากเข้าใส่กัน คงต้องท่องเอาไว้ในใจว่า ให้รีบปลีกวิเวกหามุมสงบ ก่อนที่จะเผลอพูดสิ่งที่ทำให้เสียใจในภายหลัง แล้วค่อยกลับมาเจอหน้ากันใหม่ โปรดจำเอาไว้ว่า สิ่งที่ตามมาหลังเสียงกรี๊ดคือตัวการสร้างความเจ็บช้ำให้ทุกฝ่าย

สิ่งที่ควรทำ

  • เวลาอีกฝ่ายเริ่มขึ้นเสียง รีบบอกเขาไปเลยให้รู้ตัว เพราะบางครั้งความโกรธทำให้คนลืมตัวได้ง่ายๆ
  • พยายามแตะเนื้อต้องตัวเขาบ้าง รสสัมผัสที่สื่อตรงจากใจจะช่วยบรรเทาความเครียดและความแรงของบรรยากาศลงได้เยอะเลยเชียว
  • เมื่อยุติศึกเสร็จสิ้น ลองถามอีกฝ่ายว่า ก่อนหน้านี้เราได้ทำหรือพูดอะไรที่ทำให้บรรยากาศเลวร้ายลงไปหรือเปล่า
  • หัน มาจี๋จ๋าคืนดีกันให้โลกรู้ไปเลย โดยเฉพาะควรทำต่อหน้าลูกๆอย่างยิ่ง เด็กๆจะได้สบายใจเมื่อเห็นว่าพ่อแม่หันมาประนีประนอมกันหลังระเบิดศึกบ้าน แทบแตก
สิ่งที่ไม่ควรทำ
  • อย่า ทะเลาะกันข้ามวันข้ามคืน บางครั้งการเข้านอนทั้งที่ยังโกรธก็ยังดีกว่านั่งถ่างตาเถียงกันปาวๆ ยิ่งเหนื่อยอ่อนก็ยิ่งขาดสติ เราจะแสดงความไร้เหตุผลและหยาบคายมากขึ้นทุกที สถานการณ์สามารถลุกลามกลายเป็นเรื่องร้ายได้ทุกวินาที หนีไปนอนเอาแรงดีกว่า แล้วค่อยกลับมาถกกันหลังจากพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว
  • อย่า ดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวด้วย ปัญหาสามารถแก้ไขได้ลุล่วงด้วยคนสองคนเท่านั้น โปรดจำไว้ว่าอย่าใช้ลูก เพื่อน หรือญาติพี่น้องเข้ามาเป็นเครื่องมือในการโต้เถียง
  • ห้าม ลงไม้ลงมือโดยเด็ดขาด! ไม่ว่าจะโกรธจนอยากฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคามือก็ตาม การลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายมีแต่ผลเสียร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้ารู้ตัวว่ากำลังทำแบบนี้รีบไปหาทางบำบัดซะ ก่อนที่อีกฝ่ายจะตายคามือไปเสียก่อน
ทั้งนี้ทั้งนั้นทางที่ดีอย่าทะเลาะกันประเสริญที่สุด หาทางหลีกเลี่ยง แล้วพยายามทำความเข้าใจอีกฝ่าย สื่อสารกันให้ดี ถนอมน้ำใจกันไว้ มีปัญหาก็หันหน้าปรึกษาหาทางแก้ไข คนรักกันย่อมต้องประสานใจร่วมมือกัน?จริงไหมคะ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์