ทำไม Chromecast จึงเป็นแก็ดเจ็ตแห่งปี 2013


ทุกๆ สิ้นปี นิตยสาร TIME จะมีธรรมเนียมของการจัดอันดับเรื่องราว เหตุการณ์ บุคคล และสิ่งของต่างๆ ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดตลอดปีที่ผ่านมา และหนึ่งในนั้นที่มีการประกาศไปแล้วตั้งแต่ช่วงก่อนสิ้นปี 2013 ที่ผ่านมา ก็คือแก็ดเจ็ตแห่งปี หรือ Gadget of the year มีแก็ดเจ็ตล้ำๆ เจ๋งๆ หลายอย่างเลยเชียวที่ติดอันดับ Top 10 จากการคัดเลือกของ Time หลายอย่างเป็นสิ่งที่ซู่ชิงได้รีวิวไปแล้วเรียบร้อยในรายการเทคโนโลยี Tech Fix ทาง Voice TV

อย่างเช่น Nokia Lumia 1020 สมาร์ตโฟนทรงสวยจากโนเกียที่โดดเด่นเรื่องกล้องที่มีเซ็นเซอร์ความละเอียดตั้ง 41 ล้านพิกเซล Leap Motion Controller อุปกรณ์เสริมที่ทำให้เราใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ด้วยการโบกมือขยับนิ้วไปมากลาง อากาศในแบบที่ไม่ต้องสัมผัสหน้าจอเลย (ซึ่งแก็ดเจ็ตนี้จะถูกนำไปบิวต์อินกับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและน่าจะ เป็นเทรนด์ที่มาแรงในปีหน้าด้วยเทรนด์หนึ่ง เราอาจจะได้เห็นวาทยกรจำเป็นโบกมือโบกไม้สั่งการคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกันตาม ที่สาธารณะจนกลายเป็นเรื่องคุ้นตา)

Amazon Kindle Fire HDX แท็บเล็ตหน้าจอเริ่ดที่สุดในท้องตลาด ที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงคอนเทนต์มหาศาลของ Amazon ได้เพียงปลายนิ้วคลิก แถมยังมีบริการ Mayday วิดีโอแชตขอความช่วยเหลือจากพนักงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง (ที่ซู่ชิงได้ทดลองใช้งานดูแล้วเลิฟสุดๆ)

Pebble นาฬิกาอัจฉริยะหน้าตาคลาสสิดมินิมอลที่ทำงานร่วมกันกับสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต คอยเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้า ข้อความ และอีเมลต่างๆ และ iPhone 5S กับ iPad ใหม่ที่รู้กันแน่ๆ อยู่แล้วว่าติดชาร์ตชัวร์ (แหม ได้ทดลองใช้งานมาหลายอย่างเหมือนกันนะเรา ปี 2013 เป็นปีที่สนุกสุดเหวี่ยงจริงๆ)

ส่วนอันดับหนึ่งของสุดยอดแก็ดเจ็ตแห่งปีนี้ก็คือแท็บเล็ตที่ซู่ชิงมีตั้งไว้อยู่ใกล้มือในขณะที่กำลังพิมพ์ต้นฉบับไปด้วยในตอนนี้ ซึ่งก็คือ Chromecast แก็ดเจ็ตจิ๋วแต่แจ๋วจาก Google ที่กล้าหาญชาญชัยแซงหน้าโปรดักต์ของ Apple มาครองอันดับหนึ่งจนทำลายสถิติที่ Apple จะต้องมีแก็ดเจ็ตอย่างใดอย่างหนึ่งครองอันดับแรกไว้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2010

ถึงแม้ว่า Chromecast จะเริ่มขายในต่างประเทศแล้วระยะหนึ่ง แต่การได้รับคัดเลือกให้เป็นสุดยอดแก็ดเจ็ตแห่งปีแบบนี้ ก็สมควรเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมาย้อนดูค่ะว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้คืออะไร และทำไมถึงได้ดึงดูดความสนใจได้มากขนาดนี้

Chromecast เป็นอุปกรณ์มีเดียสตรีมมิ่งที่มีขนาดพอๆ กับธัมป์ไดรฟ์ หน้าที่ของมันก็คือเมื่อเสียบเข้าไปที่พอร์ต HDMI ของโทรทัศน์ เชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตไร้สายในวงเดียวกับอุปกรณ์สมาร์ตดีไวซ์ที่เรา จะใช้ ก็จะสามารถย้ายคอนเทนต์ที่อยู่บนหน้าจอสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ให้ดูได้อย่างสะใจยิ่งขึ้นบนหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่แทน

เช่น การดูคลิปวิดีโอยูทูบของแมวสองตัวที่ยื่นหน้ามาอิงแอบแนบชิดกันและนอนหลับตา พริ้มอย่างมีความสุขบนหน้าจอเล็กๆ ของโทรศัพท์ ระดับความน่ารักก็คงจะไม่เท่ากับการดูคลิปเดียวกันนี้บนโทรทัศน์หน้าจอใหญ่ ที่สามารถแบ่งปันให้คนรอบข้างให้ได้เอียงศีรษะดูและส่งเสียงร้องครางออกมา พร้อมๆ กัน แถมภาพก็คมชัดบาดใจ (ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวิดีโอที่เปิดด้วยนะคะ)

หรือหากเราไปเข้าประชุมแล้วต้องการจะเปิดเว็บไซต์ให้คนที่อยู่ในที่ประชุม ได้ดูไปพร้อมๆ กันก็สามารถทำได้ง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้วคลิก ผ่านทางเว็บเบราเซอร์ Chrome ของ Google ซึ่งฟีเจอร์นี้นับเป็นจุดเด่นที่สุดของ Chromecast ที่ทุกคนชื่นชอบเลยทีเดียว

สาเหตุที่ Chromecast แก็ดเจ็ตเล็กๆ ชิ้นนี้ได้รับการคัดเลือกให้น่าสนใจเหนือแท็บเล็ตล้ำๆ ในลิสต์เดียวกันได้นั้น Time ให้เหตุผลว่า แทนที่แก็ดเจ็ตชิ้นนี้จะพยายามทำตัวเป็นแก็ดเจ็ตครอบจักรวาลและสามารถทำได้ ทุกอย่าง แต่กลับเลือกโฟกัสไปที่หน้าที่เพียงอย่างเดียวและทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด

ซึ่งนอกจากจะใช้งานได้ง่ายดายสุดๆ แล้ว ราคาขายเพียงแค่ 35 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณหนึ่งพันบาทนิดๆ ก็ทำให้จับโยนใส่ตะกร้าได้แบบไม่ต้องคิดเยอะ ไม่มีสายให้เสียบวุ่นวาย ไม่ต้องตั้งค่าจนหัวฟู และไม่ต้องเชี่ยวชาญเทคโนโลยีก็สามารถใช้งานได้

ดังนั้น Time จึงบอกว่าแม้จะมีบริษัทอื่นที่ผลิตอุปกรณ์แบบเดียวกันนี้ออกมาแล้วหลายแห่ง แต่ Chromecast เป็นชิ้นแรกที่มาได้ถูกทางมากที่สุด

ซู่ชิง คิดว่าการที่ Chromecast ได้รับเลือกให้เป็นอันดับหนึ่งมันทำให้เห็นว่าการจะคิดค้นแก็ดเจ็ตออกมาให้ ประสบความสำเร็จนั้นไม่มีสูตรสำเร็จอะไรที่ตายตัวเลยค่ะ

หลายบริษัทแข่งกันที่การทำให้แก็ดเจ็ตของตัวเอง "เยอะ" ที่สุด ด้วยการแพ็กสเป็กทุกอย่างเท่าที่มีลงไปอย่างเต็มแน่นชนิดที่ปากระดาษเข้าไป ก็เด้งกลับออกมา

บางเจ้าก็พยายามคิดค้นนวัตกรรมสุดหรูล้ำ ทั้งสแกนลายนิ้วมือ ทั้งสแกนม่านตา หรือดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัยเหมือนหลุดมาจากโลกอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้แม้จะทำให้แก็ดเจ็ตออกมาดีเยี่ยม แต่ก็อาจจะไม่สามารถกลายเป็นสุดยอดแก็ดเจ็ตได้เลยถ้าหากว่ามันไม่สามารถช่วย แก้ปัญหาหรืออำนวยความสะดวกให้กับชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานในราคาที่ทุกคน สามารถหาซื้อได้อย่างไม่ยากลำบาก (ย้ำ ต้องไม่แพงเว่อร์)

Chromecast ถือว่ามาถูกทางในทุกๆ ด้าน ทั้งขนาดเล็กกะทัดรัดที่พกพาได้ง่าย ราคาที่ไม่แพง (ในเมืองไทยมีการหิ้วเข้ามาขายในราคาประมาณ 1,500 บาท)

และการใช้งานที่ง่ายแบบไม่ต้องเค้นสมองคิดเลย แม้จะยังไม่จำเป็นต้องใช้งาน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะซื้อมาเก็บไว้เพราะรู้ว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีประโยชน์แน่ นอน หรือจะซื้อมาส่งมอบเป็นของขวัญให้กับคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีก็เหมาะเหมือนกัน (หุหุ)


ที่มา มติชนสุดสัปดาห์

ทำไม Chromecast จึงเป็นแก็ดเจ็ตแห่งปี 2013

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์