ทำไม...พ่อแม่ทอดทิ้งลูก ?

ปัจจุบันจะมีใครสักคนเล่าที่คิดว่า


ทรัพย์สมบัติภานนอกหรือสิ่งที่เราเพียรแสวงหามาตลอดชีวิตนั้น ไม่สามารถที่จะนำติดตัวไปด้วยได้เมื่อตายไป หากสิ่งที่เราจะนำติดตัวไปเมื่อตายไปนั้น กลับกลายเป็น กรรรมดี กรรมชั่ว เท่านั้น โดยที่ผลกรรมเหล่านี้จะติดตามเราไปจนทุกภพทุกชาติด้วยซ้ำไป

คนเราที่เกิดมานั้น

ล้วนยังมีกิเลส กรรม และผลของกรรม กันทุกคน แม้แต่พ่อแม่ของเรา พ่อแม่ซึ่งเป็นที่อาศัยเกิดของบุคคลผู้ยังมีกรรมอยู่เหล่านั้น

ทำไม...พ่อแม่ทอดทิ้งลูก ?


บางรายก็เคยเป็นแม่ - ลูกกันมาหลายสิบชาติแต่ลูกกลับมีอุปนิสัยไม่เหมือนพ่อกับแม่เลยก็มี


ส่วนรายที่ลูกมีอุปนิสัยคล้ายคลึงกับพ่อแม่ ก็เพราะเขาได้เคยอบรมตนอย่างเดียวกันมา จนมีโอกาสได้มาเกิดเป็น พ่อ แม่ พี่น้องกันอีก เพราะเขาเหล่านั้นอาศัยกรรมเป็นแดนเกิดนั่นเอง

นอกจากนี้ ยังกล่าวได้ว่า

พ่อ - แม่ เป็นผู้มีบุญคุณต่อลูกอย่างประมาณมิได้ เพราะได้ทุ่มเทความรัก ความปรานี ความเสียสละให้แก่ลูก ตลอดจนทุกสิ่งทุกอย่างยากที่จะหาใครเสมอเหมือนได้

หลายคนคงจะสงสัยว่า

ถ้าพ่อ - แม่เป็นเช่นนี้ทุกคน โลกเรา ประเทศเราก็คงจะไม่มีเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ ตามที่เราได้เห็นจากข่าวทั้งในโทรทัศน์ และในหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคำถามที่ว่า "ทำไม ? พ่อแม่ทอดทิ้งลูก"

ทำไม...พ่อแม่ทอดทิ้งลูก ?


ก่อนอื่น ผู้เขียนก็จะขอยกข้อความ


ในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้พาดหัวข่าวว่า "แม่ใจโหด ไข่ทิ้งขยะ" โดยเสนอรายละเอียดของข่าวไว้ดังนี้

"ทารกยุคไฮเทค ถูกแม่ตัดใจทิ้งไว้ในกองขยะ หญิงลูกเจ็ดผ่านไปพบ อุ้มไปแจ้งตำรวจขอรับไปเลี้ยงเอง ทั้งที่ตัวเองมีอาชีพรับ ระหว่างรอรับเอกสารหลักฐานจากประชาสงเคราะห์จังหวัด ข้าราชการสงสาร พากันบริจาคเงินเป็นค่านมให้จำนวนหนึ่ง

เมื่อเวลา 14.30 น.

ถัดจากวันเกิดเหตุ ร.ต.อ. ชินกร แก้วช่าง ร้อยเวร สภ.อ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งความจาก นางสุนันท์ แก้วนพรัตน์ อายุ 39 ปี ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 1 ตำบลบางคล้า อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา

ทำไม...พ่อแม่ทอดทิ้งลูก ?


นางสุนันท์ แก้วนพรัตน์ ได้เล่าให้ร้อยเวรฟังว่า


"ก่อนมาแจ้งความ ดิฉันได้เดินไปธุระ ขณะที่ผ่านไปทางกองขยะเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา บนถนนสายฉะเชิงเทรา - บางปะกง ก็ได้ยินเสียงทารกร้องอยู่บนกองขยะที่สูงประมาณ 10 เมตร

ดิฉันคิดว่าคงมีคนอาศัยอยู่บนกองขยะ

แต่พอมองสำรวจตรวจดูก็ไม่พบใคร จึงเดินขึ้นไปบนกองขยะ ก็พบทารกเพศหญิงอายุประมาณ 3 เดือน ถูกทิ้งไว้ในสภาพตัวล่อนจ้อน ไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว มีมดค้นไฟกัดตามตัวและหูตาเต็มไปหมด เด็กถูกปล่อยทิ้งให้ร้งอยู่นานจนหน้าตาเขียวคล้ำไปหมด ด้วยความสงสารดิฉันจึงนำทารกเคราะห์ร้ายมาพบตำรวจนี่แหละค่ะ"

ภายหลังจากแจ้งความแล้ว

ก็ไม่มีผู้ใดเมตตาที่จะนำเด็กรายนี้ไปเลี้ยง นางสุนันท์จึงตัดสินใจจะนำไปเลี้ยงเสียเอง ทั้งๆ ที่นางสุนันท์มีอาชีพเป็นคนรับจ้าง ซ้ำมีลูกชายหญิงแล้วถึงเจ็ดคน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือให้นางสุนันท์ไปพบ นายเกริกศักดิ์ บุญเนียน ประชาสงเคราะห์จังหวัด เพื่อทำหลักฐานเอาเด็กไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม

แต่ก่อนที่จะขึ้นไปบนศาลากลางจังหวัด

เพื่อพบประชาสงเคราะห์จังหวัดนั้น ก็ได้มีหญิงสาวอายุประมาณ 18 ปีคนหนึ่ง มาพบนางสุนันท์และออกปากจะขอรับเด็กไปเลี้ยงดู โดยจะจ่ายเงินให้นางสุนันท์ 200 ด้วย นางสุนันท์จึงให้หญิงสาวคนนั้นไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันเพื่อแจ้งให้ตำรวจทราบเป็นหลักฐาน แต่หญิงสาวกลับไม่ยอมไปพบตำรวจ และได้หลบหน้าหนีไปทันที


สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์