ทำไมผู้หญิงต้องมีประจำเดือน ?

ประจำเดือนคือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกเดือน แล้วเจ้าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกเดือนนี้ล่ะมันคืออะไร ประจำเดือนคือการมีเลือดออกทางช่องคลอดทุกเดือนและมีเนื้อเยื่อปนออกมาด้วย

ไข่ของผู้หญิงกับการเกิดกุมาร

ผู้หญิงทุกคน จะมีรังไข่เป็นอวัยวะที่สำคัญที่คอยผลิตเซลล์สืบพันธุ์จากแม่ คือ ไข่ที่สุกและตกลงมา ในช่วงกึ่งกลางรอบเดือนๆ ละหนึ่งใบ เพื่อผสมกับเซลล์สืบพันธุ์จากพ่อ คือ ตัวอสุจิ จะต้องมีการ ยุ่งเกียวกัน หรือมีเพศสัมพันธ์นั้นเอง ทำให้เกิดเป็นตัวเราน้อยๆขึ้นมา เจ้าตัวเราน้อยๆที่แสนจะน่ารัก จะค่อยๆ ขยายตัวจำนวนเซลล์และขนาด พร้อมไปกับการเคลื่อนตัวผ่านท่อรังไข่ ลงมาสู้โพรงมดลูก เพื่อฝังตัวและเจริญเติบโตในโพรงมดลูก หรือในครรภ์ของคุณแม่จนครบกำหนดคลอด

ไข่คุณผู้หญิงกับประจำเดือน อีกหน้าหนึ่งของประจำเดือนก็คือ การผลิตฮอร์โมนเพศของผู้หญิง คือกลุ่มเอสโตเจน ในช่วงสิบวันแรกของรอบเดือน และกลุ่มโปรเจสเตอโรน ในช่วงสิบสี่วันหลังของรอบเดือน เพื่อช่วยเสริม หรืออำนวยความสะดวกให้เกิดการเจริญพันธุ์ได้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่มดลูก โดยในสิบสี่วันแรก กลุ่มเอสโตรเจนจะออกกฤธิ์ให้เยื่อบุมดลูกหนาขึ้น ในช่วงสิบสี่วันหลัง กลุ่มโปรเจสเตอโรนจะออกกฤธิ์ให้เยื่อบุมดลูกนุ่ม เหมาะสำหรับการเข้ามาฝังอยู่ของตัวอ่อน ที่เกิดจากการที่อสุจิเข้าไปอยู่ในไข่ ที่เล่ามาเป็นกรณีมีการท้องเกิดขึ้น และแน่นอนไม่มีประจำเดือน แต่ถ้าไม่ท้อง คือไม่มีการผสมกันระหว่างไข่กับเชื่ออสุจิ เจ้าฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่มีผลทำให้เยื่อบุมดลูกหนานุ่มนี้ จะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสิบสี่วันหลัง จนส่งผลสะท้อนกลับไปยับยั้งสมองบางส่วนและต่อมบางต่อม ที่สร้างตัวกระตุ้นการผลิตเจ้าโปรเจสเตอโรนจากรังไข่ มีผลให้การสร้างตัวกระตุ้นน้อยลง สุดท้ายรังไข่ก็ผลิตโปรเจสเตอโรนออกมาน้อยลง (เรียกเป็นศัพท์ทางสรีรวิทยาว่า negative feedback ) ไม่พอรักษาสภาพคล่อง สภาพของเยื่อบุมดลูกที่หนานุ่มไว้ได้ ก็เสียกรุงน่ะสิ เยื่อบุก็พากันหลุดลอก ร่วมกับเลือดออกมาทางช่องคลอดให้เห็นเป็นเลือดประจำเดือนนี่เองค่ะ