ทึ่ง! หนุ่มวิ่งหนีรัก ลด 31 กก.ในเวลา 10 เดือน!

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง ทึ่ง! หนุ่มวิ่งหนีรัก ลด 31 กก.ในเวลา 10 เดือน!

ชีวิตแค่โดนทำร้าย แต่ที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย... ใช่แล้วชีวิตก็แค่โดนความรักทำร้าย แต่เราต้องไม่โดนทำลายเพราะมัน หลายคนเลือกที่จะเสียใจ นอนจมกองน้ำตา แต่อีกหลายคนเลือกที่ตะรักตัวเองมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมและน่าทำตามมากๆ

วันนี้เรามีอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ จากสมาชิกพันทิปหมายเลข 2171374 ที่ได้มาแบ่งปันประสบการ การเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากหนุ่มอ้วนดำ ถูกทิ้งไปเพราะไม่หล่อ เขาเลือกวิ่งหนีความรักช้ำๆ วิ่งไปวิ่งมาจนลดน้ำหนักไปได้ 31 กิโลกรัม ภายในเวลา 10 เดือน! หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับหลายๆ คนได้หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น อย่ารอช้าเราไปอ่านเรื่องราว พร้อมเคล็ดลับของเขากันเลย

ทึ่ง! หนุ่มวิ่งหนีรัก ลด 31 กก.ในเวลา 10 เดือน!

"เอาละ มีเพื่อนถามบ่อยมากว่าผมทำอะไรถึงผอมลง ผมก็ขอถือเป็นโอกาสดีแบ่งปันข้อมูลประสบการณ์ชีวิตให้คนอื่นด้วยเลยละกันน ผมจะขอเล่าการลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยเลยแล้วกันนะครับ

31 กิโลกรัมกับเวลา 9 - 10 เดือน

เกริ่นนำ ย้อนไปม.4 ผมเองก็เป็นเด็กม.ปลายธรรมดาๆทั่วๆไป ช่วงชีวิตวัยรุ่นกำลังเถลถไล นอกลู่นอกทาง ในตอนนั้นผมค่อนข้างจะเป็นคนขี้เกียจ ไม่ค่อยตั้งใจเรียน เล่นเกมโต้รุ่ง ไปเซเว่นตีสามซื้อของกิน นั่งกินนอนกิน กินน้ำหวาน อิชิตัน โออิชิ โค้ก กินหมด ไม่ออกกำลังกาย เป็นเหตุผลให้เป็นคนอ้วนมากกก เพื่อนๆในห้องเรียกไออ้วน ในห้องผมจะมีคนตัวใหญ่อีกคนนึงที่ตัวใหญ่พอๆ กัน เพื่อนๆ มักเรียกผมผิดกับเพื่อนคนนั้นตลอด เป็นต้นเหตุให้ผมเริ่มหงุดหงิดในใจเล็กๆ ด้วยความไม่ยอมรับตัวเองว่าอ้วน 555
น้ำหนักตอนนั้นคือ 97 KG."

"จุดพลิกผันคืออะไร ความรักสิครับ

ผมเจอผู้หญิงคนนึง ณ ที่เรียนกวดวิชาที่นึง ก็เกิดอาการปิ้งๆ วิ้งๆเข้าให้ตามประสาเด็ก เลยเริ่มเข้าไปคุย สนิทสนม นานเข้าจนกระทั่งบอกความในใจออกไปครับ เธอบอกกับผมว่า ผมคุยสนุกดีนะ เป็นคนดี แต่ผมไม่ใช่ มันก็ดูธรรมดามั้งครับสำหรับคำตอบแบบนี้ แต่สายตาของเธอบอกผมว่า "ไอ้อ้วนหนอ ไม่เจียมตัวเลย อย่างมุงใครจะรัก"

และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ผมแอบได้ยินเธอคุย นินทาผมกับเพื่อนๆแบบนี้ประมาณ "ไอ่อ้วนน่ะเหรอ กูไม่เอามันหรอก" ผมก็เหมือนช๊อค เพราะเธอดูเป็นคนดี เฟรนลี่ และพยายามคุยกับเธอ เธอก็ตีตัวออกห่าง และก็จบด้วยการหลบหน้า

ผมก็เริ่มคิดว่า ไอ้อ้วนอีกแล้ว จะทำยังไงดีให้เธอรักเรา ผมก็เลยตั้งใจว่าจะเริ่มเปลี่ยนตัวเองแบบจริงจัง"

"เริ่มต้นลดน้ำหนัก

ขึ้น ม.5 ผมเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกาย แต่การกินยังปกติเหมือนเดิม แบบคนขี้เกียจคิดง่ายๆ ผลคือ นน.ไม่ลด ผมก็เลยหาข้อมูลเพิ่มได้ความมาว่า ต้องเริ่มดัดนิสัยตัวเอง อะไรประมาณนี้

เริ่มจากการ ลด งด เลิก การกินน้ำหวาน อาหารฟาสฟูด ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นจุดที่ยากที่สุดจุดนึงของการลดน้ำหนัก แต่ก็เอาวะ ลุยซักตั้ง แล้วผมก็เริ่มออกกำลังกาย บาส ว่ายน้ำ วิ่ง คือแบบว่าหาอะไรทำให้มันได้ออกกำลังกาย ผลคือ เดือนแรก นน.ลดไวมาก ลดไปถึง 9 โล ! OMG!

กำลังใจเริ่มมาครับทีนี้ คึกเป็นม้าเลย ประจวบเหมาะกับที่เพื่อนสนิทผม ชวนไปวิ่ง ณ อุทยานในตัวเมืองนครสวรรค์ ที่มีหนองน้ำกว้างขวางและมีถนนล้อมรอบอยู่ ระยะทางประมาณ 3 กิโลกว่าๆ เกือบ 4 กิโล ชาวเมืองนิยมมาออกกำลังกายที่นี่ มีทั้งคอร์ตแบท สนามบาส แอโรบิค"

"ผมเริ่มต้นวิ่งที่นี่ทุกวัน วันละ 1 รอบ และกลายเป็นการออกกำลังกายประจำวัน ซึ่งแน่นอนในช่วงแรกๆ ผมวิ่งไม่ครบรอบหรอกครับ รอบนึงใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพราะผมวิ่งช้ามาก แทบจะเดิน แต่ก็พยายามแข่งกับตัวเอง ตั้งใจกัดฟันต่อไปครับ เริ่มควบคุมอาหารบ้างแต่ไม่จริงจังมาก ลดอาหารพวกไขมันและลดอาหารเย็น ผ่านไป 3-4เดือน ผลที่ได้คือ ลดอีก 7 โลครับผม รวมเป็น 16 "

"เพื่อนเริ่มทักว่าผอมลงนะ ไปทำอะไรมาน่ะ และแน่นอนครับ เธอคนนั้นเองถึงกลับเข้ามาคุยกับผมอีกรอบ เริ่มชมนู่นชมนี่ ว่าดูดีขึ้นนะ หล่อแล้ว อะไรแบบนี้ไอ้ตัวผมเองก็ลดนน.เพราะอยากให้เค้าสนใจพอดี ฟินเลยทีนี้ เราทั้งคู่ก็เลยกลับมาคุยกัน ไปดูหนังด้วยกัน กินไอติมด้วยกัน แต่ยังครับบบ ยังไม่จบ เพราะมีผู้ชายอีกคนเข้ามาจีบเธอ และผมก็ได้ยินจากเพื่อนมาว่าเธอคุยกับผู้ชายหลายคน และก็จบลงตรงที่ผมแห้วอีกรอบ เธอจากผมไป เพราะผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีกว่า และผอมกว่า

16โลมันยังไม่พอ!

ขึ้น ม.6 ครับ ผมเดินหน้าลุยต่อ เอาจริงเอาจังกับการวิ่งมากขึ้น จับเวลา และไม่หยุด ไม่เดินๆ วิ่งๆ เดินๆ แบบเก่า เพราะเพื่อนผมบอกว่ามันจะทำให้ขาใหญ่ ค่อยเป็นค่อยไปจน ผมลดเวลาการวิ่ง 1 รอบ เหลือ 20 นาทีกว่าๆ เริ่มออกกำลังกายแบบอื่นเสริม วิดพื้น ซิทอัพ ดึงข้อ ยกเวท โดยมีภาพรักช้ำคอยผลักดัน ควบคุมน้ำหนักจริงจัง นับแคลลอรี่ งดน้ำหวานแบบเด็ดขาด กินผักผลไม้บ่อยขึ้น เป็นระยะเวลาอีก 4 เดือนได้ ผลที่ได้คือน้ำหนักลดอีก 8 โลครับ รวม 24

รูปนี้ 81 kg

"เริ่มใส่ขาเดฟได้ 555 ฟินเลยครับ เพื่อนๆ พ่อแม่พี่น้องครูบาอาจารย์ทักกันให้พรึ่บ ไปทำอะไรมา ทำไมลดเยอะจัง และแน่นอนครับ เธอคนนั้นกลับมาอีกแล้วครับ แต่รอบนี้ผมไม่เหมือนเดิมแล้วครับ เพราะผมสังเกตว่าเธอนั้นมีผู้ชายข้องเกี่ยวมากหน้าหลายตา และเพื่อนๆก็บอกกันว่า เธอเจ้าชู้มาก ผมก็คิดแค่ว่า ถึงได้คบไป เจอคนหล่อกว่า เธอก็คงทิ้งผมอีกแน่นอน ผมจึงเชิดใส่เธอคนนั้น ไม่สนใจ จะไปไหนก็ไป กุไม่เอาแล้ว 5555

ขณะเดียวกันการเรียนก็ดีขึ้นเยอะครับ เพราะการออกกำลังกายทำให้ผมรู้จักแบ่งเวลา เวลาไหนเล่น เวลาไหนเรียน ตั้งใจเรียนขึ้นเยอะ สำหรับเรื่องรักๆ บอกเลยว่า มีบ่อยมากขึ้นครับ คนนั้นก็มาคุย คนนี้ก็มาทัก เริ่มถ่ายรูปเยอะขึ้น แต่งตัว เพื่อนผมคนนึงแนะนำให้ใช้ครีมจะได้ขาวด้วย

ตามภาษาผู้ชายครับ ไม่เอาอ่ะ ครีมอะไรของมุงวะ ขี้เกียจทา 555 และผมเองก็ไม่ได้อยากขาวเท่าไร(360 ก็มี 55) บางคนก็แนะนำอาหารเสริม กินแล้วผอม กินแล้วกล้ามใหญ่ ผมก็เซย์โนไปอีก ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะครับ ผมมองว่าของพวกนี้มันจะทำให้เราขี้เกียจซะมากกว่า ทำให้เสียนิสัย มันสบายเกินสุดท้ายเราก็จะกลับไปขี้เกียจ คิดอะไรง่ายๆ และไม่ขวนขวายครับ ผมกลับไปเล่นกล้าม ลดนน.แบบแมนนวลดีกว่าเยอะ 555"

รูปตอนหนัก 77- 73 kg

"ยังลดได้อีก

เวลาในการวิ่ง 1 รอบ ผมค่อยลดลงเรื่อยๆ จนเหลือแค่ 14.46 นาทีในสองเดือนครับ ร่างกายเริ่มเข้ารูปแบบนักวิ่ง ออกแนว เพรียวลม 5555 ผมเริ่มเสพติดการออกกำลังกาย 555 แต่ไม่ใช่แบบกล้ามโตๆนะครับ ผมว่าเล่นกล้ามแล้วมันจะไม่สูงเอา การเสพที่ว่าคือ ชอบครับ เพื่อนผมคนนึงบอกมาว่า คนเราต้องออกกำลังกายเดิมๆเป็นเวลาหลายเดือน ถึงจะชอบการออกกำลังกายนั้นๆ สำหรับผมก็คือการวิ่ง มันทำให้ผมรู้สึกสดชื่น เวลาลมกระแทกหน้า เวลาวิ่งแซงคนอื่น มันสุดยอดอ่ะครับ 555 ผมลดเพิ่มอีก 7 โลครับ รวมทั้งหมด 31 โล"

"ตอนนี้ผมหนัก 66 กิโลกรัม คิดว่าไงครับ 555 พ่อแม่ผมด่า ว่าไปติดยามารึปล่าว ดมกาว ดูดเนื้อ เฮ้ยยย ผมปล่าววว 5555

สรุปแล้ว

ผมลดน้ำหนักเพื่อจะให้เธอคนนั้นสนใจ และผมเองก็เชื่อว่าดูดีขึ้นแล้วจะมีความรักเข้ามา ใช่ครับ มันมีความรักเข้ามา แต่มันก็คือความรักที่ดูกันจากรูปลักษณ์ภายนอกหรือปัจจัยภายนอกมากกว่า ใช่ว่าดูดีแล้วจะมีรักที่ดีได้ ความรัก มันไม่ได้มีแต่หน้าตาครับ มันต้องใช้ความเข้าใจและความรักจากใจจริงๆครับ

ตอนแรกผมก็นึกแค้นผู้หญิงคนนั้นนะครับ แต่ตอนผมอยากจะขอบคุณ เพราะเรื่องราวตอนนั้น สอนผมให้รู้จักคิด รู้จักแบ่งเวลา ทำให้ผมเลิกขี้เกียจ ดูแลตัวเอง รู้จักเอาชนะตัวเอง และมีความพยายามมากขึ้น และที่สำคัญ สอนให้ผมรู้ว่า ก่อนจะรักใคร เราควรรักตัวเองก่อนเนอะะ หวังว่าเรื่องราวของผมจะเป็นประโยชน์ เพื่อเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังลดน้ำหนักครับ ผมทำได้ คุณก็ทำได้"

"เกร็ดความรู้เพิ่ม

หลักการกินอาหาร เราควรจะกินอะไรบ้าง แล้วกินของหวานบ้างไม่ได้เหรอ ต้องกินแต่ผัก ? ไม่กินของทอด ?

ไม่ต้องงดของทอดหรือกินแต่อาหารคลีนก็ได้ครับ แต่ที่ควรงดของทอด ของมัน เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพครับ หลักๆก็กินให้ครบ 5 หมู่ และก็กินให้เป็นเวลาครับ อย่าอดอาหารและอย่ากินจุบกินจิบ อดทน อยู่บนความพอดี แต่ต้องออกกำลังกายด้วยนะครับ สำหรับข้าวเย็นควรเป็นผลไม้ ผักต้ม แล้วก็รู้จักให้รางวัลตัวเองครับ ผมเองก็มีวันดีแตก เดือนละครั้งครับ 555 พิซซ่า ชาบูชิ ยาโยอิ หมูจุ่ม หมุกระทะ 5555 ผมไปเจอหลักการแบบเข้าใจง่ายๆมาครับ ดังภาพครับ เครดิตตามรูปจ้า"

"การวิ่งจะทำให้ขาใหญ่ ?

เรื่องนี้ต้องบอกว่า จริง แล้วก้ไม่จริงครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราวิ่งแบบไหน ถ้าหากว่าเรา วิ่งแบบสับเลย เร็วเลย แล้วไปหยุดเดินแล้วก้วิ่งอีก วิ่งแบบนี้ขาจะใหญ่ครับ ควรวิ่งแบบไม่เร็วแบบนักวิ่ง แต่ก็ไม่ควรช้าเกินไป เน้นระยะทาง ไม่ต้องแข่งกับใครครับ แข่งกับตัวเองพอ ให้ร่างกายเผาผลาญครับ โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าขามันเล็กลงนะ แต่ขามันจะโป่งครับ กล้ามมันจะชัด ถ้าหากคุณต้องการขาเรียวแบบขาโต๊ะสนุ๊ก การวิ่งไม่ใช่ทางออกครับ

และถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษด้วยละกันนะครับ ขอบคุณที่อ่านครับผม ขอบคุณพันทิปสำหรับพื้นที่แบ่งปัน"