ทุนที่ไม่มีวันหมด

ทุนที่ไม่มีวันหมด


หลังจากที่หลวงพ่อชา สุภัทโท ได้ริเริ่มบุกเบิกวัดหนองป่าพง
ตั้งแต่พ.ศ.2497 เป็นต้นมา วัดนี้ก็ค่อยๆเติบโตกลายเป็นสำนักปฏิบัติธรรม

ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจ.อุบลราชธานี เป็นเหตุให้มีผู้คนหลั่งไหลมาจาริก
บุญ ศึกษาธรรมจากวัดนี้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย จนลูกศิษย์กลุ่มหนึ่ง

มีความคิดว่า...วัดหนองป่าพงควรมีมูลนิธิเหมือนอย่างวัดอื่นบ้าง
เพื่อวัดจะได้มีทุนดำเนินงานอย่างมั่งคั่ง เมื่อลูกศิษย์นำความดังกล่าว

ไปปรึกษาหลวงพ่อ ประโยคแรกที่ท่านตอบก็คือ..."อย่างนั้นก็ดี
แต่ผมคิดว่ามันยังไม่ถูกต้อง".....แล้วท่านก็ให้ความเห็นต่อว่า

"ถ้าพวกท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้วคงจะไม่อด พระพุทธเจ้าท่านก็ยังไม่เคยมี
มูลนิธิเลย ท่านก็โกนหัวปลงผมทำอะไรเหมือนพวกเรา ท่านยังอยู่ได้

ท่านได้ปูทางไว้ให้แล้ว เราก็เดินตามทางของท่านก็น่าจะพอไปได้แล้วนะ"
แล้วหลวงพ่อก็สรุปว่า...."บาตรกับจีวรนั่นแหละ มูลนิธิที่พระพุทธเจ้าตั้งไว้

ให้เรา กินไม่หมดหรอก"....หลวงพ่อชาเป็นอยู่มักน้อยสันโดษมาก
กุฏิของท่านแทบจะโล่ง เพราะมีแต่เตียงนอนและของใช้ที่จำเป็น

เช่นกระโถน ไม่มีของใช้ฟุ่มเฟือยเลย..ส่วนวัตถุสิ่งของต่างๆ
ที่ญาติโยมนำมาถวายอยู่เสมอๆนั้น ท่่านก็ส่งต่อไปให้ลูกศิษย์ตามวัดสาขาต่างๆหมด

ท่านไม่เคยมีบัญชีเงินฝากส่วนตัว ปัจจัยหรือเงินทำบุญที่โยมถวายนั้น
ท่านให้เป็นของกลางหมด ..."เราพอกิน พออยู่แล้ว จะมากอะไรทำไมนะ

กินข้าวมื้อเดียว"...ท่านเคยคุยให้ฟัง บ่อยครั้งที่โยมตัดพ้อว่า
เพราะได้ปวารณาถวายปัจจัยไว้ให้ท่านใช้ในกิจส่วนตัว แต่หลวงพ่อ

ไม่เคยเรียกใช้สักที ท่านเคยปรารภกับลูกศิษย์ว่า..."ยิ่งเขามาปวารณาแล้ว
ผมยิ่งกลัว"....คราวหนึ่งมีผู้เอารถไปถวายหลวงพ่อ รบเร้าให้หลวงพ่อรับให้ได้

โดยขับรถมาจอดไว้หลังกุฏิท่าน แล้วเอากุญแจใส่ย่ามท่านไว้
แต่ปรากฏว่าหลวงพ่อไม่เคยไปดูรถคันนั้นเลย พอออกจากกุฏิท่านจะ

เดินไปทางอื่น จะไปในเมืองท่านก็ไปรถคันอื่น หลังจากนั้น7วัน...ท่านก็เรียกโยม
คนหนึ่งมาหาแล้วบอกว่า...."ไปบอกเขาเอารถกลับคืนไปนะ เอามาถวายข้อย

ข้อยก็รับไปแล้ว...ได้บุญแล้ว เดี๋ยวนี้ข้อยจะส่งคืนมัน...มันไม่ใช่ของพระ"
อีกครั้งหนึ่ง หลวงพ่อจะไปวัดถ้ำแสงเพชร ลูกศิษย์ที่มีรถคันงามยี่ห้อดัง

ต่างแย่งกันนิมนต์ให้ขึ้นรถของตน ซึ่งจอดเรียงรายอยู่ที่ลานวัดให้ได้
หลวงพ่อกวาดตาดูสักครู่ ก็ชี้มือไปที่รถเก่าบุโรทั่งคันหนึ่ง พร้อมกับพูดว่า

"อ้า...ไปคันนั้น"...เจ้าของได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจสุดขีด รีบเปิดประตูนิมนต์ให้
หลวงพ่อนั่ง....ว่ากันว่า การเดินทางวันนั้นใช้เวลานานกว่าปกติ

เพราะขบวนรถคันงามความเร็วสูง ต้องค่อยๆขับตามหลังรถโกโรโกโส
ไปโดยดุษณียภาพ....

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

(จาก"ลำธารริมทางธรรม" เกร็ดชีวิตของปฏิปทาพระดีพระแท้
เรียบเรียงโดย พระไพศาล วิสาโร)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์