การเที่ยวหมู่เกาะพีพี เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นหมู่เกาะกลางทะเล อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ ประมาณ 42 กิโลเมตร เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลังกลายเสียงเป็น “พีพี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้
ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการังดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม นอกจากนั้นยังมีเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือ กระบี่-ภูเก็ต-หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละเกาะมีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส
สถานที่ท่องเที่ยวของหมู่เกาะพีพี ได้แก่
เกาะพีพีดอน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะพีพี มีเนื้อที่ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร เป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปชมธรรมชาติของเกาะ มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่าง ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ท่าเรือ และจุดบริการนักท่องเที่ยว บนเกาะมีจุดชมวิวที่สามารถเห็นเวิ้งอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัมโค้งเข้าหากัน บนเกาะพีพีดอนยังมีหาดทราย เล็กหาดทรายน้อยรายล้อมอยู่รอบเกาะอีกมากมาย บางจุดสามารถเข้าถึงด้วยการเดิน บางจุดต้องจ้างเรือหางยาวพาเข้าไป แหลมตงเป็นแหลมทางตอนเหนือของเกาะเป็นที่อยู่ ของชาวเลที่มีบรรพบุรุษอพยพมาจากเกาะหลีเป๊ะ หาดและแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆรอบๆเกาะ ได้แก่
อ่าวต้นไทร อยู่ทางทิศใต้ของเกาะพีพีดอน เป็นที่ตั้งของ ท่าเรือต่างๆ ชายหาดยาว 2 ก.ม. เองก็มีความสวยงาม หาดทราย สวย น้ำใส แม้จะมีเรือจอดเรียงรายก็ตาม เหมาะแก่ การเล่นน้ำ เดินเล่น ร่มรื่นด้วยเงาต้นมะพร้าว ทางทิศตะวันตก ยังสามารถ ดำน้ำดูปะการังได้อีกด้วยในอีกมุมหนึ่ง ใจกลางของอ่าวต้นไทร คือ ศูนย์กลางการค้า โรงแรม รีสอร์ท มากมาย ผู้คนมากมาย ร้อยละ 90 เป็นชาวต่างชาติ ใส่ว่ายน้ำหรือสาวๆก็ใส่ชุดบิกินนี่เดินกันให้ขวักไขว่ สองข้าง ทางเป็นตึกแถวสองชั้น หน้าร้านเรียงรายกัน เป็นร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านขายเสื้อผ้า ร้านจำหน่ายทัวร์ ร้านขายของที่ระลึก เดินห่างออก ห่างออกไปจะเป็นผับ บาร์ บรรเลงดนตรีเฮฮาเป็นที่ สนุกสนาน ตลอดเย็น จรดกลางคืน
อ่าวโละดาลัม เป็นอีกหาดที่เวิ้งโค้งเข้าหาอ่าวต้นไทร สามารถเดินทะลุถึงกันได้โดยใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที อ่าวนี้มีชายหาดที่กว้างมากและเป็นหาดน้ำตื้นไม่ลาดชัน จึง ไม่เหมาะจะเป็นท่าเรือเหมือนอ่าวต้นไทร น้ำในทะเลค่อนข้างนิ่งและไม่ลึก หาดนี้จึงเหมาะแก่การทำกิจกรรมทางทะเลหรือเล่นกีฬาชายหาด อ่าวโละดาลัมเป็นหาดหนึ่งที่มีที่พัก ให้เลือกมากมาย และค่อนข้างจะสะดวกสบายไม่แพ้ที่อ่าวต้นไทร แต่จะมีความเงียบสงบมากกว่าที่อ่าวต้นไทร
อ่าวยงกะเส็ม หรืออ่าวลิง ภูเขาด้านหลังของอ่าวลิงค่อนข้างสูงชันและเป็นป่าค่อนข้างทึบ ซึ่งป่าแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของลิงฝูงใหญ่ ซึ่งบ่อยครั้งจะลงมาที่ชายหาด ทำให้เป็นที่ สนใจของนักท่องเที่ยวและเป็นที่มาของชื่อ Monkey bay อ่าวลิงมีกองหินอยู่ใต้น้ำจำนวนมากมายทำให้เกิดแนวปะการัง ก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ เลยออกไปจาก กองหินจะเป็นแนวหน้าผาใต้น้ำ ลึกลงไปจะเป็นประการังอ่อน สีสดใส พริ้วไหวกับกระแสน้ำ ท่านที่ไม่เคยดำน้ำแบบ Scuba Diving แต่ถ้ามาดำน้ำตามแนวหน้าผาในจุดนี้ช่วงน้ำ ลง ท่านจะได้พบเห็นประการังอ่อนเกาะอยู่ตามแนวหินโดยที่ท่านไม่ต้องใช้อุปกรณ์ดำน้ำแบบ Scuba แต่อย่างใด
หาดยาว อยู่ติดกับอ่าวต้นไทรจึงมีความคึกคักไม่แพ้กัน ชายหาดมีความยาวเกือบ 700 เมตร เป็นชายหาดที่ยาวสมชื่อ นักท่องเที่ยวนิยมไปนอนอาบแดดและเล่นน้ำทะเลกันมาก นอกจากนี้ยังมีแหล่งดำน้ำที่เด่นที่สุด อยู่ที่ปลายหาด ทางด้านทิศตะวันออกบริเวณ หินแพ เป็นกองหินใต้น้ำ ที่มีปะการังหลากหลายชนิด เช่น ปะการังกิ่ง ปะการังสมอง สามารถดำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก ถัดจากหาดยายอ้อมหัวเกาะไปอีกฝั่ง มีหาดเล็กๆที่เงียบสงบ ยาวประมาณ 400 เมตรชื่ออ่าวโละมูดี มีหาดทรายที่ขาวสะอาด สามารถ เล่นน้ำได้ เดินทางได้โดยนั่งเรือมาจากอ่าวต้นไทร
เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร มี บริเวณน้ำลึกที่สุดประมาณ 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ นอกจากนี้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมี ถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “ถ้ำพญานาค” ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้าย เศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่มาเก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้างและ รูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น สันนิษฐานว่าภาพเขียนเหล่านี้เป็นฝีมือของนักเดินเรือหรือพวกโจร สลัด เพราะจากการศึกษาเส้นทางเดินเรือจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก บริเวณนี้อาจเป็นจุดที่เรือสามารถแวะพักหลบลมมรสุมขนถ่ายสินค้าหรือซ่อมแซมเรือได้
อ่าวปิเละ มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวใหญ่ มีหน้าผาสูงชั้นปิดล้อมรอบด้าน แต่งแต้มด้วยสีเขียวของพรรณไม้หายากนานาชนิด ตัวอ่าวมีลักษณะที่เรียกว่า ลากูน หรือ ทะเลใน มีทาง เข้าเพียงทางเดียว มีหน้าผาที่ตั้งฉากกับทะเล ด้วยน้ำทะเลใสสีเขียวมรกตอมฟ้าและเรียบสนิทเหมือนกระจกเงา ทำให้อ่าวแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งอ่าวที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาเยี่ยม ชมว่ายน้ำดูปะการัง
อ่าวมาหยา ได้ชื่อว่าเป็นอ่าวที่งดงามที่สุดบนเกาะพีพีเล ด้วยเม็ดทรายที่ขาวละเอียดเหมือนผงแป้ง หน้าผาหินปูนที่ทอดยาวโอบล้อมหาดด้านหนึ่งไปจรดหาดอีกด้านหนึ่งจน กลายเป็นเวิ้งอ่าวหรือ ลากูน น้ำทะเลในอ่าวจะนิ่งสนิท สีน้ำทะเลจะเป็นสีฟ้าอมเขียว อ่าวมาหยาได้ชื่อว่าเป็นจุดดำน้ำอีกแห่งหนึ่งที่สวยงาม จุดที่เหมาะที่สุดคือ ผาหินปูนที่ทอด ยาวก่อนถึงทางเข้าอ่าวหรือที่หลายคนเรียกว่า มาหยาวอล ช่วงที่ดีที่สุดที่มาเที่ยวอ่าวคือช่วงเดือน ตุลาคม ถึงเดือนพฤษภาคม ช่วงนี้น้ำในอ่าวมาหยาจะนิ่งสนิทและใสเหมือน กระจกเงา นักท่องเที่ยวสามารถเดินจากอ่าวมาหยาทะลุไปยังอ่าวโละซามะได้โดยใช้ทางเดินเล็กๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
อ่าวโละซามะ คือเวิ้งอ่าวแคบๆอีกแห่งหนึ่งที่มีน้ำทะเลสวยใส เป็นจุดดำน้ำตื้น ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะพีพีเล ท่านจะได้พบกับปะการังอ่อนหลากหลายสีสันต์และปลา ตัวน้อยใหญ่จำนวนมาก การดำน้ำ แบบ scuba diving ก็เป็นสุดยอดของที่นี่เช่นกัน คุณจะเพลิดเพลินกับการดำน้ำผ่านหน้าผาใต้ทะเล ที่ๆเต็มไปด้วยกอกัลปังหา และปะการัง อ่อนหลากสีสันต์ที่พริ้วไหวไปตามกระแสน้ำ คุณอาจได้พบเห็นปลาฉลามกบตัวโต กำลังจับคู่อยอกล้อกันในบริเวณนี้ก็ได้
ถ้ำไวกิ้ง เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีเล ซึ่งเมื่อปี 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จประภาสถ้ำนี้และทรงพระ ราชทานนามใหม่ว่าถ้ำพญานาค ตามรูปร่างของหินก้อนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายเศียลพญานาค ภายในถ้ำมีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ฝาผนังถ้ำ ปรากฏภาพเขียนสีโบราณอายุกว่าร้อยปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 70 ภาพ
โดยภาพส่วนใหญ่เป็นภาพเรือชนิดต่างๆ เช่นเรือใบ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือกลไฟ บ้างก็มีลักษณะคล้ายกับเรือ ไวกิ้ง จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำไวกิ้งนั่นเอง สันนิษฐานว่าภาพเขียนเหล่านี้เป็นฝีมือของ นักเดินเรือ หรือ พวกโจรสลัด ที่มาอาศัยหลบคลื่นลมมรสุมซ่อมแซมเรือ หรือขนถ่ายสินค้า ภายในถ้ำเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว ปัจจุบันไม่อนุญาติให้เข้าไปภายในถ้ำไวกิ้งอีกต่อไปเนื่องจากทำให้เกิดสภาพที่เสื่อมโทรมไม่เป็นธรรมชาติ นักท่องเที่ยวทำได้เพียงแค่นั่งเรือชม ทิวทัศน์ด้านหน้าถ้าไวกิ้งเท่านั้น แผ่นผาหินปูนด้านนอกของถ้ำไวกิ้ง ยังเป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งเช่นกัน.
เกาะไผ่ เกาะยุง อีกหนึ่งเกาะงามของหมู่เกาะพีพี อยู่ห่างฝั่งกระบี่ประมาณ 40 กิโลเมตร ไปตามเส้นเดินเรือก่อนถึงเกาะพีพีประมาณ 3 กิโลเมตร เกาะไผ่เป็นเขตอุทยาแห่งชาติ อยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เกาะไผ่เป็นเกาะขนาดเล็ก ด้านหน้าเกาะมีชายหาดยาวตลอดแนวตั้งแต่หัวเกาะยังท้ายเกาะ น้ำทะเลที่นี่สี เขียวสวย หาดทรายขาวเนียนนุ่นสะอาดตา โลกใต้น้ำรอบๆ เกาะไผ่มีความสวยงามเหมาะกับการดำน้ำชมปะการัง มีปะการังหลากหลายกระจายอยู่เป็นบริเวณกว้าง เกาะยุง ตั้ง อยู่คู่ขนานกับเกาะไผ่ มีแนวปะการังน้ำตื้นที่เหมาะกับการดำผิวน้ำและสกูบาเช่นกัน แม้จะไม่มีหาดทรายแต่ความงามใต้น้ำด้านทิศตะวันออกของเกาะก็สวยงามไม่แพ้ใครเช่นกัน
เกาะบิดะ ประกอบด้วยเกาะสองเกาะคือ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน เกาะมีลักษณะเป็นเขาหินปูน เป็นจุดดำน้ำที่ดี่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะพีพี ลักษณะภูมิประเทศใต้น้ำประกอบไปด้วยลักษณะเด่นหลายอย่างที่นักดำน้ำสามารถพบเห็นได้ในจุดดำน้ำจุดเดียว ได้แก่ กำแพงหินใต้น้ำ ปะการังแนวลาด และแนวสันเขาใต้น้ำ ลาดเอียงจากตรงแหลมทางทิศใต้ขอเกาะ เกาะบิดะยังมีกอปะการังที่หนาแน่นอยู่ในจุดน้ำตื้น เพียงแค่ใช้หน้กกาก ท่อ และฟินส์ เราก็สามารถเจอกับเต่ากระหรือฉลามเสือดาวซึ่ง เป็นเจ้าถิ่นของที่นี่ได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์สกูบา
การเดินทางไปหมู่เกาะพีพี นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางไปยังหมู่เกาะพีพีได้ทั้งจากกระบี่และภูเก็ต โดยมีรถสองแถวจากตัวเมืองกระบี่ไปยังท่าเรือปากคลองจิหลาด เรือ โดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ 2 เที่ยว เวลา 10.00 น. และ 15.00 น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น. และ 14.00 น. ค่าโดยสารคนละ 350 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง
ท่านที่มีที่พักที่อ่าวนางและต้องการไปเกาะพีพี มีเรือออกจากท่าเรืออุทยานทุกวัน วันละเที่ยวเท่านั้น เวลา09.00น ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงถึงเกาะพีพี และกลับจากพีพีมาอ่าว นางเวลา 15.30น.นอกจากนี้มีเรือเร็วนำเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ ออกจากอ่าวนาง เวลา 09.00 น. และกลับเวลา 17.00
ข้อมูลโดย สมาคม ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ - สมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
