นอนอย่างไรให้ตื่นอย่างสดชื่น

นอนอย่างไรให้ตื่นอย่างสดชื่น


ไหนๆก็จะต้องนอนแล้ว ลองมานอนอย่างได้กำไร ตามวิธีของนายแพทย์เดวิด ไซมอน ผู้อำนวยการศูนย์สาธาณสุขโชปร้าในลาโจลา แคลิฟอร์เนีย (The Chopra Center for Well Being in La Jolla,Calif.) และคณะ ดูเสียหน่อยจะเป็นไรไป

สร้างทัศนคติเรื่องการนอนเสียใหม่ บางคนมีความคิดว่าการนอนเป็นการเสียเวลาและเป็นการปล่อยให้ตัวเองสบายจนเกินไป ทำให้ไม่ให้ความสำคัญกับการนอน ลองคิดเสียใหม่ว่าการนอนคืนละ 7-8 ชั่วโมง เป็นการชาร์ตพลังงานร่างกายให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าในวันถัดไป

เข้านอนให้เช้าขึ้น เพราะการนอนแต่หัวค่ำและตื่นเช้า กับการนอนดึกแล้วตื่นสายใช้เวลาในการนอนเท่ากัน แต่การนอนแต่หัวค่ำและตื่นเช้าจะทำให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่าในการทำงานได้ดีกว่า

เปลี่ยนบางกิจกรรมที่ทำให้คุณเข้านอนดึก เช่น หากติดรายการทีวีภาคดึกก็อาจจะอัดเทปไว้ดูในวันอื่นแทน เพื่อจะได้เข้านอนให้เร็วขึ้น หรือยกหูโทรศัพท์ออกทันทีในตอน 4 ทุ่ม หากคุณมักจะมัวแต่เม้าท์เพลินจนเข้านอนดึก

เข้านอนในเวลาเดียวกันให้เป็นกิจวัตร ช่วงเวลานอนที่เหมาะสำหรับคนส่วนใหญ่คือ 22.00 น.ถึง 6.00 น. หรือ 8.00 น. ลองเลือกเวลาเข้านอนที่เหมาะกับตัวคุณเอง และปฏิบัติตามนั้น ไม่เว้นว่าจะเป็นวันหยุด เพื่อให้นาฬิการ่างกายไม่สับสน เพราะร่างกายจะพักผ่อนได้เต็มที่จากการหลับลึกในช่วงครึ่งแรกของการนอน ทำให้ตื่นเช้าได้ง่ายขึ้น


นอนอย่างไรให้ตื่นอย่างสดชื่น


หรี่ไฟให้สลัว หลังจากเลือกเวลาเข้านอนแล้ว ก่อนจะเข้านอนสัก 1 ชั่วโมงให้คุณเตรียมร่างกายเสียก่อนด้วยการหรี่ไฟหัวเตียงให้ลดความสว่างลง เพื่อเตรียมสมองว่าจะได้เวลาพักผ่อนแล้วนะ จากนั้นหยุดกิจกรรมทั้งหลาย หากจะอ่านหนังสือหรือดูทีวีก็เลือกเรื่องที่ไม่ตื่นเต้นผาดโผนนัก

ทำให้ง่วง หากคุณยังไม่คุ้นกับการเข้านอนที่เร็วขึ้น ลองใช้วิธีเหล่านี้ช่วยให้ง่วงได้ง่ายขึ้น โดยอาบน้ำอุ่นร้อนขนาดที่คุณรู้สึกว่าพอดี สัก 45 นาทีก่อนเข้านอน เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อและจิตใจผ่อนคลาย จากนั้นดื่มชาคาโมไมล์อุ่นๆสักถ้วย เครื่องดื่มอุ่นจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

ป้องกันการรบกวนปรับอุณหภูมิห้องนอนให้พอดี เพราะอุณหภูมิที่หนาวหรือร้อนเกินไปอาจทำให้คุณตื่นกลางดึก และหากมีโทรทัศน์อยู่ในห้องนอนก็ควรตั้งเวลาหรือปิดให้เรียบร้อยก่อนนอน เพื่อไม่ให้แสงและเสียงจากทีวีจะรบกวนสมองของคุณแม้ในเวลาหลับ

อย่าลืมติดตั้งไฟกลางคืนไว้ในห้องน้ำ เพราะหากตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกแล้วต้องมาเจอกับแสงสว่างจ้าแยงตา จะทำให้คุณตาค้างและนอนหลับต่อได้ยาก

ทำจิตใจให้สงบ หากตื่นขึ้นมากลางดึก ลองนอนสงบใจด้วยการสูดลมหายใจเข้าทางจมูกช้าๆพร้อมกับคิดถึงที่ซึ่งคุณ รู้สึกผ่อนคลาย แต่ถ้าคุณรู้สึกกังวลหรือกระสับกระส่ายจนนอนไม่หลับ ให้ลุกขึ้นไปเปิดเพลงเบาๆฟังภายใต้แสงไฟสลัวๆ วางกระเป๋าน้ำร้อนที่ท้อง ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย และกลับไปนอนอีกครั้งเมื่อรู้สึกง่วง


นอนอย่างไรให้ตื่นอย่างสดชื่น


ตื่นขึ้นรับแสงสว่างยามเช้า มีการศึกษาพบว่าถ้าร่างกายได้สัมผัสกับแสงสว่างเป็นเวลา 30 นาที เมื่อตื่นจะเป็นการปลุกนาฬิกาในร่างกายให้เริ่มวงจรการทำงาน เพื่อปลุกร่างกายให้สดชื่นจึงแนะนำให้ตื่นขึ้นรับแสงสว่างยามเช้า

ปลุกด้วยเสียงที่แตกต่าง ลองเปลี่ยนไปใช้นาฬิกาปลุกที่เสียงต่างๆกันบ้าง เช่น เสียงนกร้อง เสียงป่า เสียงน้ำตก จะชวนให้ตื่นมากกว่านาฬิกาปลุกที่เสียงคุ้นหูมาแรมปี แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นการฝึกสมาธิก่อนนอน และตั้งนาฬิการ่างกายให้ปลุกตัวเองได้จะดีที่สุดค่ะ

เคลื่อนไหวร่างกาย กิจกรรมยามเช้าจะส่งสัญญาณไปที่สมองว่าถึงเวลาเข้าเกียร์แล้วนะ และเป็นการตั้งนาฬิการ่างกายว่าถึงเวลาเริ่มเช้าวันใหม่แล้ว ตื่นขึ้นมาแล้วอย่ารีบเปิดข่าวค่ะ ลองฟังเพลงป๊อปสักเพลงที่ช่วยให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงจนอยากขยับแข้งขยับขาตาม หรือจะออกกำลังกายด้วยการรำกระบองหรือโยคะเสียหน่อยก็ไม่เลว

หล่อเลี้ยงร่างกายให้ถูกทาง หลังจากตื่นสักครู่ให้ดื่มน้ำอุ่นหรือชาสมุนไพรที่ให้กลิ่นสดชื่น เพื่อปลุกระบบย่อยของร่างกายว่าได้เริ่มวันใหม่แล้ว แต่อย่าเพิ่งกินอาหารเช้าเร็วเกินไปให้รอจนรู้สึกหิวเสียก่อน เพราะเติมอาหารเข้าไปเร็วเกินไปทั้งที่ร่างกายยังไม่ต้องการจะเป็นการทำให้ ร่างกายทำงานหนักกับการย่อยจนไม่กระฉับกระเฉงเท่าที่ควร

สร้างนัดในเวลาเช้า ลองระลึกถึงเมื่อตอนเป็นเด็กคุณจะรีบเด้งตัวขึ้นจากที่นอนทันทีที่ลืมตา เพราะคุณรู้สึกว่ามีเรื่องสนุกๆรอให้ทำอยู่มากมาย และนี่เองที่ช่วยให้คุณมีสิ่งที่จะแงะคุณออกจากเตียง ลองนัดเพื่อนที่รู้ใจรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน ดูวิดีโอเทปที่โปรดปรานในระหว่างอาหารเช้า หรือดูแลต้นไม้เสียหน่อยก่อนจะออกไปทำงาน




ที่มา วิชาการดอทคอม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์