สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ว่า เด็กนักเรียนชายชาวจีน 2 คน ซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันออกของประเทศ ฆ่าตัวตายหลังไม่สามารถทำการบ้านและรายงานที่ครูมอบหมายเสร็จทันตามกำหนด อีกกรณีหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความกดดันในชีวิตวัยเรียนของเยาวชนจีนที่กำลังเพิ่มมากขึ้น
ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่เมืองนานกิง เมืองเอกของมณฑลเจียงซู โดยผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นนักเรียนชายวัย 13 ปี ซึ่งตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาทำการบ้าน และรายงานที่ครูมอบมอบหมายให้สำหรับวันหยุดราชการต่อเนื่อง 3 วัน ก่อนจะผูกคอตายภายในบ้านพัก พร้อมทิ้งจดหมายที่มีเนื้อหาเพียงบอกรักและอำลาสมาชิกในครอบครัว และลงท้ายว่า ให้นำดอกลิลลี่สีขาวไปวางบนหลุมศพของเขาด้วย
อีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา นักเรียนชายวัย 15 ปี ซึ่งเป็นชาวเมืองนานกิงเช่นกัน กระโดดตึกฆ่าตัวตาย หลังพบว่า ตัวเองไม่สามารถทำการบ้านสำหรับวันหยุดยาว 3 วันเสร็จทันตามกำหนด
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จีนสามารถปรับปรุงและยกระดับมาตรฐานระบบการศึกษาในประเทศได้แบบก้าวกระโดด เห็นได้จากรายงานฉบับล่าสุดของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ที่ระบุว่า เยาวชนจีน 99% ในปัจจุบัน สามารถอ่านออกเขียนได้ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนี้ต้องแลกมาด้วยความอดทนและความเครียดอย่างสูงของเด็ก ซึ่งใช้เวลาเรียนหนังสือราว 8.6-12 ชั่วโมงต่อวัน และใช้เวลาหลังจากนั้นในการทำการบ้านและทบทวนบทเรียนสำหรับการทดสอบที่มีขึ้นถี่ยิบ จึงไม่น่าแปลกใจว่า เด็กจะมีความเครียดมากเพียงใด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
