น่ารู้! การคลอดลูกในน้ำ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


น่ารู้! การคลอดลูกในน้ำ

วันนี้เราขอแนะนำเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับการคลอดลูกในน้ำ ถ้าจะเอ่ยถึงการคลอดลูกแบบธรรมาชาติคุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆ ท่านก็คงจะต้องนึกถึงวิธีการคลอดแบบเบ่งคลอดหรือการผ่าตัดคลอดกันซะส่วนใหญ่

แต่วันนี้เราจะมาบอกคุณณแม่ทั้งหลายว่าการคลอดแบบธรรมชาติยังมีอีกหนึ่งวิธี นั่นก็คือ "การคลอดลูกในน้ำ" ที่สำคัญวิธีนี้ยังสามารช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดจากการคลอดได้ดีอีกด้วย สำหรับ การคลอดลูกในน้ำ เป็นวิธีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศมาได้ประมาณ 30 กว่าปีแล้ว

คุณแม่หลายๆ ท่านอาจจะคิดว่า การคลอดลูกในน้ำ จะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยและก็ยังมีโรงพยาบาลเพียงไม่กี่แห่งที่มี การคลอดลูกในน้ำ แต่ว่าที่จริงแล้วการคลอดในน้ำนั้นเป็นการคลอดที่ปลอดภัยที่สุดและยังทำให้ คุณแม่ได้ใกล้ชิดกับลูกน้อยมากขึ้นอีกด้วย หากคุณแม่ลองไปหาข้อมูลและลองปรึกษาขอคำแนะนำจากคุณหมอเกี่ยวกับวิธ๊ท ี่เหมาะสมและทำใจให้สบายผ่อนคลายการคลอดลูกในน้ำก็จะไม่ใช่วิธีที่อัตรายอ ย่างที่คิดค่ะ

ทําความรู้จัก "การคลอดลูกในน้ำ"

การคลอดในน้ำ หรือ Water birth เกิดขึ้นในต่างประเทศ 30 กว่าปีมาแล้ว เป็นการคลอดลูกวิธีธรรมชาติโดยแม่ท้องลงไปคลอดลูกในอ่างน้ำอุ่นที่มี อุณหภูมิประมาณ 35-37 องศาเซลเซียส โดยแรงพยุงตัวของน้ำอุ่นที่อยู่รอบตัวจะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของคุณแม่ผ่อนคลายและบรรเทาอาการเจ็บปวดจากการคลอด ให้ลดลงอีกด้วย โดยธรรมชาติแล้วร่างกายของแม่ท้องจะสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตสารเอ็นโดรฟิน ระหว่างภาวะการคลอดเพื่อตอบสนองความต้องการของร่างกายอย่างเพียงพอในการ ระงับความเจ็บปวด และเมื่อสิ้นสุดภาวะการคลอดแล้วสารเอ็นโดรฟินจะลดปริมาณลง

"น้ำ" สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้โดยการทํางานร่วมกับสารเอ็นโดรฟินเพื่อสกัด กั้นไม่ให้ใยประสาทส่วนที่รับและส่งความเจ็บปวดไปสู่สมองส่วนนอก โดยอาศัยความรู้สึกทางผิวหนังของแม่ระงับความเจ็บปวด อีกทางหนึ่งคือร่วมกับความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวผ่อนคลายความเครียด สภาพแวดล้อมทางใจและกายที่เป็นส่วนตัวก็จะยิ่งสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ มากขึ้น

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


"การคลอดลูกในน้ำ" ไม่อันตรายอย่างที่คิด


คุณแม่ท้องอาจมีความกังวลว่าน้ำในอ่างคลอดจะเป็นอันตรายต่อทารกในท้องหรือไม่
แล้ว เมื่อทารกคลอดออกมาแล้วจะจมน้ำหรือเปล่า? ที่จริงแล้วน้ำในอ่างจะเป็นอันตรายต่อท้องของแม่หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ อุณหภูมิของน้ำในอ่าง ถ้าน้ำร้อนจนเกินไปก็จะเกิดความเสี่ยงต่อทั้งแม่และลูกในท้อง ดังนั้นอุณหภูมิของน้ำจะต้องอยู่ที่ 35-37 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับอุณหภูมิของน้ำคร่ำในท้องแม่ประมาณอุณหภูมิ ของร่างกายปกติไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้น้ำที่นํามาใช้ในอ่างน้ำคลอดได้ผ่านการฆ่าเชื้อโรคโดยรังสีอัลตรา ไวโอเลตที่สามารถกําจัดเชื้อแบคทีเรียได้หมดและกําจัดเชื้อไวรัสบางชนิดทํา ให้ทารกปลอดภัยจากการติดเชื้อขณะอยู่ในน้ำ

ส่วนความกังวลว่าทารกจะจม น้ำหรือไม่นั้น ตอนที่เพิ่งออกจากท้องแม่และยังอยู่ในน้ำอุ่นทารกจะยังคงได้รับออกซิเจนจาก เลือดที่ผ่านจากรกเข้ามาทางสายสะดือและสามารถปรับตัวได้ก่อนที่จะโผล่ขึ้นมา เหนือน้ำ นอกจากนี้แรงดันของน้ำจะช่วยพยุงตัวทารกไว้ให้สามารถลอยตัวอยู่ในอ่างน้ำที่ สภาพและความดันของน้ำเหมือนกับตอนที่อยู่ในถุงน้ำคร่ำทําให้ทารกรู้สึก ปลอดภัยเหมือนอยู่ในท้องแม่

ดังนั้น ถึงแม้ทารกจะยังไม่มีการหายใจจนกว่าใบหน้าหรือผิวหนังจะขึ้นสู่ผิวน้ำแต่ก็ สามารถอยู่ใต้น้ำในอ่างเพื่อปรับตัวก่อนขึ้นสู่ผิวน้ำได้นาน 40-60 วินาทีโดยไม่เป็นอันตรายและช่วงเวลานั้นจะช่วยลดความเครียดของทารกได้อีก ด้วย เมื่อคุณแม่อุ้มทารกขึ้นสู่ผิวน้ำทารกก็จะหายใจทันทีเมื่อใบหน้าโผล่พ้นน้ำ และผิวหนังถูกกระตุ้นจากการสัมผัสกับอากาศเย็นภายนอกท้องแม่

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


"การคลอดลูกในน้ำ" ดีอย่างไร?


- มีความสะดวกสบายและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในการคลอด เพราะเมื่ออยู่ใต้น้ำร่างกายของแม่ท้องจะเบามีอิสระในการเคลื่อนไหวได้อย่าง เป็นธรรมชาติและเปลี่ยนท่าได้สะดวก ซึ่งการอยู่ในท่าที่สบายในน้ำอุ่นจะช่วยให้กล้ามเนื้อเชิงกรานและช่องคลอด เปิดให้ส่วนนําของทารกผ่านลงมาได้ง่ายและเร็วขึ้น นอกจากนี้ แรงพยุงของน้ำช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณเชิงกรานขยายได้ง่ายรวมถึงการฉีกขาด ของช่องคลอดน้อยกว่าการคลอดวิธีอื่นทําให้คุณแม่ฟื้นตัวจากการคลอดได้เร็ว

- การลอยตัวในน้ำอุ่นจะช่วยกระจายแรงหดรัดตัวของมดลูกออกไปทําให้เลือดไหล เวียนได้ดีและมีออกซิเจนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยระงับอาการเจ็บท้องทําให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายอาการ เกร็งจากการลดระดับของอะดรีนาลินและยังเพิ่มระดับของสารเอ็นโดรฟินและออกซิ โทซินทําให้ความเจ็บปวดบรรเทาลงและระยะเวลาการคลอดสั้นลง

- การแช่ตัวในน้ำอุ่นจะช่วยลดอาการความดันโลหิตสูงที่เกิดจากความวิตกกังวล โดยแรงต้านหรือแรงลอยตัวของน้ำจะช่วยลดภาวะการกดหรือความเครียดในช่องท้อง ด้วยการทําให้กล้ามเนื้อมดลูกได้รับออกซิเจนและบีบรัดตัวอย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้น รวมถึงช่วยให้เลือดไหลเวียนดีความเจ็บปวดของแม่ลดลงและทารกก็จะได้รับ ออกซิเจนมากขึ้นด้วย


คุณแม่ที่ไม่เหมาะกับการคลอดลูกในน้ำ

- เป็นโรคติดต่อหรือติดเชื้อเริมที่ผิวหนังหรืออวัยวะเพศ เนื่องจากเชื้อเริมแพร่กระจายได้ง่ายในน้ำ ดังนั้น ช่วงใกล้คลอด แม่ท้องควรได้รับการตรวจเกี่ยวกับเริมเป็นพิเศษและหากสงสัยว่าจะเป็นโรคเริม ควรรีบปรึกษาแพทย์

- ทารกไม่อยู่ในท่าเตรียมคลอดปกติหรือทารกเอาก้นลง (breech)

- ทารกมีน้ำหนักตัวมากเกินไป

- แม่ตกเลือดมากหรือมีอาการติดเชื้อ

- ตั้งท้องแฝด

- เจ็บท้องคลอดก่อนกําหนด 2 สัปดาห์หรือมากกว่า

- แม่ท้องที่มีความดันโลหิตสูงอันเนื่องมาจากเคยมีอาการชักในระหว่างตั้งครรภ์


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mother&Care

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์