ปริศนา “ธูป 1 ดอก” เคยสงสัยไหมว่าทำไมคนตายถึงจุดธูปแค่ดอกเดียว

เวลาเราไปงานศพ ทางญาติของผู้ตาย จะจุดธูปให้เรา 1 ดอก เพื่อไหว้ศพ เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมต้องเป็นธูป 1 ดอก

พระท่านได้เฉลยว่า ธูป 1 ดอก หมายความถึงชีวิตของคน...แต่ละคนมี 1 ชีวิตเท่ากัน ธูปส่วนที่ถูกเผาหมายถึงช่วงเวลาที่ดำเนินชีวิตมาแล้ว ส่วนธูปที่เหลือคือช่วงเวลาที่เหลืออยู่

ปริศนา “ธูป 1 ดอก” เคยสงสัยไหมว่าทำไมคนตายถึงจุดธูปแค่ดอกเดียว

พระท่านยังว่า เมื่ออยู่หน้าศพก็ให้ระลึกไว้ 3 อย่าง

หนึ่งคือ เอวัง ภาวี หมายถึง ต่อไปเราก็ต้องเป็นแบบนี้

หนึ่งคือ เอวัง ธัมโม สิ่งนี้คือธรรมชาติ

และอีกหนึ่งคือ เอวัง อะนาติโต ทุกชีวิตไม่สามารถหนีสิ่งนี้พ้น

พระท่านบอกว่า งานสวดศพเขาเรียกว่างานบำเพ็ญกุศล ไม่ใช่งานบุญ เพราะการทำบุญนั้น พอทำแล้วใจพองโต เช่น ทำดีได้บุญ ใจเป็นสุข แต่ทำกุศลนั้น ทำแล้วได้ปัญญา



ท่านพุทธทาสสอนความแตกต่างระหว่าง "บุญ" กับ "กุศล" เอาไว้สรุปว่า บุญคือการพอใจ ส่วนกุศลคือความฉลาดที่จะไม่ติดยึดกับความพอใจ

การจัดงานศพจึงเป็นงานบำเพ็ญกุศล คือ สร้างเสริมปัญญาให้แก่ผู้มาร่วมงาน ทำให้รู้ว่าชีวิตมีเท่านี้ ช่วงชีวิตก็แค่นี้ และสุดท้ายของชีวิตก็แบบนี้ ดังนั้น ใครที่โกรธกัน ใครที่เกลียดกัน ใครที่มัวแต่คิดจะฆ่าฟันทำลายล้าง น่าจะลองทบทวนใหม่

ใครที่ซึมเศร้า ใครกำลังคิดสั้น ใครท้อแท้-หดหู ก็น่าจะทบทวนตัวเองอีกครั้ง

ปริศนา “ธูป 1 ดอก” เคยสงสัยไหมว่าทำไมคนตายถึงจุดธูปแค่ดอกเดียว

ทบทวนหวนนึกถึงธูป 1 ดอกที่หมายถึงชีวิต 1 ชีวิต ทบทวนถึงธูปที่เผาไหม้ อันหมายถึงเวลาที่ชีวิตใช้ไปทุกเมื่อเชื่อวัน ทบทวนแล้วน่าจะแลเห็นว่า ชีวิตนั้นแสนสั้น การอยู่ร่วมกันของคนแต่ละคนก็แสนสั้น หากมัวแต่เกลียดกัน โกรธกัน ฆ่าฟันทำลายล้างกัน ทำให้จิตใจมัวหมอง เท่ากับว่ากำลังทำให้ชีวิตเสียโอกาส

เสียโอกาสที่จะได้ทำบุญ คือ ทำแล้วฟูใจ พอใจ สบายใจ และเสียโอกาสที่จะได้กุศล คือ ได้วิชา ได้ความรู้ ได้ปัญญา


ยิ่งสังคมทุกวัน มีบางคนกำลังใช้เวลาของชีวิตไปกับความเกลียด ความโกรธ และอาฆาตมาดร้าย จึงเกรงว่าหากยังเป็นเช่นนั้นต่อไป ชีวิตของเขาและเธออาจสูญเปล่า

หมดโอกาสจะได้ "ทำบุญ" หมดโอกาสจะสร้าง "กุศล" เพราะจิตใจหมกมุ่นอยู่กับความโกรธ ความเกลียด วุ่นวายอยู่แต่เรื่องที่จ้องจะทะเลาะกัน



ฉะนั้นแล้ว ชีวิตของทุกคนนั้นมีค่ามีราคาในตัวของมันเองเสมอ คนเราจะเกิดมาแค่เพียงเกิดและตายไปนั้น โดยไม่ได้อะไรให้แก่ตนเอง ครอบครัว หรือสังคมเลยงั้นเหรอ? 

หากเราทำตัวเราเองให้ไร้ค่า ก็แสดงว่าชีวิตที่เราได้รับมาก็สูญเปล่า ตอนนี้คือปัจจุบัน เราควรทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ผลลัพธ์มันจะส่งผลไปที่อนาคตให้เอง บางคนถามว่าแล้วอดีตล่ะ? อดีตเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้แล้ว สิ่งที่ทำผิดพลาดในอดีตก็ให้ทบทวนอยู่เสมอเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ หรือจะใช้เป็นบทเรียนที่สำคัญเพื่อชี้ทางให้แก่ตนเองก็ได้ แล้วชีวิตก็จะมีความสุขเองค่ะ


ที่มา Liekr


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์