ผงซักฟอกกับผ้าแห่งใจ

ผงซักฟอกกับผ้าแห่งใจ


ผมเคยเล่าชีวิตวัยเด็กของผมให้เด็กรุ่นใหม่ฟังว่า ในสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก ผมไม่มีแม้แต่โทรทัศน์ ความบันเทิงเดียวที่ผมมีคือการอ่านหนังสือ เด็กบอกว่า “ชีวิตสมัยนั้นคงทรมานน่าดู” สำหรับพวกเขา ชีวิตคงไร้ความหมายหากไม่มีเกมคอมพิวเตอร์

ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วคน ค่านิยมของความสุขเปลี่ยนไปหน้ามือเป็นหลังมือ คำว่า ‘ความสุข’ มีนัยทางวัตถุมากกว่าจิตใจมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ผมก็รู้ว่ายากที่จะอธิบายให้เด็กรุ่นใหม่เข้าใจว่า ความสุขของการมีเกมออนไลน์เป็นสิ่งฉาบฉวย พวกเขาจะเข้าใจความข้อนี้ก็ต่อเมื่อพวกเขาเล่าชีวิตวัยเด็กของตนให้คนรุ่น ลูกฟัง และคนรุ่นลูกส่ายหัว บอกว่า "ชีวิตสมัยนั้นคงทรมานน่าดู"

ในสายตาของคนในอนาคตกาล โทรศัพท์มือถือ ไอ-พ็อด เกมออนไลน์ ฯลฯ ล้วนเป็นเครื่องมือที่ล้าหลังและไม่น่าสนุกแม้แต่นิดเดียว ผู้คนในอีกหลายศตวรรษหน้าอาจมองมายังคนรุ่นเรา แล้วบอกต่อกันว่า "ชีวิตสมัยนั้นคงทรมานน่าดู" เพราะโลกในอีก 100-200 ปีข้างหน้าก็ย่อมมี 'ความสุข' มากกว่านี้ พวกเราในยุคปัจจุบันคงจะพลาด 'ความสุข' อีกนานาชนิด เช่น กล่องความสุขที่ฝังในหัว, ปุ่มเพิ่มความสุขทางเพศที่ฝังในระบบประสาท, ประสบการณ์การบินจริงๆ อย่างนก (เมื่อเราสามารถสร้างเครื่องต้านแรงโน้มถ่วงสำเร็จ) ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้ยังไม่มีใน พ.ศ. นี้ เราจึงไม่รู้สึกว่าขาดมันไม่ได้

เมื่อไม่รู้ ก็ไม่รู้สึก!

เราอยู่ในสังคมที่สอนและตอกย้ำให้เห็นว่า ความสุขเกิดจากการปรุงแต่งกิเลสเป็นสิ่งที่ดี

เกิดมาไม่สวย ก็ดิ้นรนให้สวยจนได้ สวยอยู่แล้วก็อยากสวยขึ้นไป ไม่มีอะไรก็ต้องหามาให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีการใด

คนเราสร้างความต้องการเทียมๆ ขึ้นมา แล้วก็ฝังตัวกับมัน ขาดมันแล้วก็อยู่ไม่ได้

ผมเคยพบเด็กรุ่นใหม่บางคนที่ไม่ยอมสวมเสื้อผ้าที่ไม่ใช่สินค้าแบรนด์เนม ใช้สินค้าตามอย่างดาราที่ตนเองชื่นชอบ

ในที่สุดก็ไม่รู้ว่า ใครเป็นผู้ใช้ชีวิตของเรากันแน่ เพราะต้องเดินตามแฟชั่นที่ผู้อื่นกำหนดให้เดินตลอด

ยิ่งเดินตามคนอื่นนานเท่าใด ก็ยิ่งถอยห่างจากตัวเองเท่านั้น นานๆ เข้า ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร เฮ็นรี เดวิด โธโร นักคิด นักเขียน นักธรรมชาติวิทยา ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Walden สอนให้ผู้คนใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับธรรมชาติ ท่านเขียนไว้ว่า "มนุษย์เป็นผู้สร้างความสุขของเขาเอง"

เพราะหากคุณเป็นเจ้าของชีวิตของคุณจริงๆ คุณก็ต้องใช้ชีวิตของคุณด้วยตัวเอง เพราะเราเรียกคนที่ถูกคนอื่นใช้ชีวิตแทนให้ว่า ทาส

ปรัชญาตะวันออกเชื่อว่า จิตเดิมแท้ของมนุษย์เป็นผ้าขาวเปล่า ทุกสิ่งที่ถูกระบายลงไปเป็นกิเลส

หากโชคดีรู้ตัวว่า ผ้าแห่งใจสกปรก เลอะเทอะด้วยกิเลสที่สังคมภายนอกช่วยละเลง ก็ลงมือซักผ้าผืนนั้นเสีย ก่อนที่มันจะซักไม่สะอาดอีกต่อไป

ผงซักฟอกที่ใช้ซักผ้าผืนนี้มีหลายยี่ห้อ ที่นิยมก็คือยี่ห้อ ‘สมถะ’, ‘สันโดษ’ และ ‘พอเพียง’

ทว่าหลายคนมักเข้าใจคำว่า ‘สมถะ’ ‘สันโดษ’ และ ‘พอเพียง’ ผิดๆ

สมถะ มิได้หมายความว่าต้องสวมเสื้อตัวเดียวทั้งชีวิต สันโดษมิได้หมายความว่าต้องหมกตัวในถ้ำกลางป่าเขา กินอาหารวันละมื้อ พอเพียงก็ไม่ได้แปลว่า ห้ามทำงานหาเงินมาเก็บตุนไว้

ความสุขเกิดจากความพอดี ความสมดุลของการใช้ชีวิต

รู้อย่างนี้แล้ว หากผ้าแห่งใจของคุณยังเลอะเทอะอยู่ ก็เป็นความผิดของคุณเอง

ขอบคุณที่มา  ::  FW mailขอบคุณที่มา :: FW mail

บทความโดย...วินทร์ เลียววาริณ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์