ผิดไหมที่ตัดสินใจแต่งงาน?



มีคู่สมรสหลายๆ คู่มักจะเกิดคำถามขึ้นว่า ตัดสินใจผิดไหมที่แต่งงานไปแล้วแทนที่จะอยู่เป็นโสด? ตัดสินใจผิดไหมที่แต่งงานกับคนๆนี้แทนที่จะรอคนอื่นที่ดีกว่านี้? ตัดสินใจผิดไหมที่พบว่าชีวิตหลังแต่งงานมีแต่เรื่องวุ่นวายมากกว่าที่คิด? ตัดสินใจผิดไปแล้วใช่ไหมที่แต่งงานเพราะต้องการให้พ่อแม่สบายใจที่เห็นเป็นฝั่งเป็นฝาโดยลืมคิดไปว่าความสุขที่ตามมาของตัวเองภายหลังแต่งงานต่างหากที่ควรจะนึกถึงก่อนความสุขของพ่อแม่? ตัดสินใจผิดไปแล้วใช่ไหมที่พบว่าคนที่เคยรักและเทิดทูน,เคยคิดจะฝากชีวิตไว้ด้วยกันตลอดไปกลับมาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน บั่นทอนความสุขในชีวิตจนหมดสิ้น

คำถามเหล่านี้คงเป็นคำถามที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั่วไปกับชีวิตสมรสหลายๆคู่ แต่ไม่ว่าจะถามว่าผิดไหมที่ตัดสินใจลงไปแบบนั้นกี่ครั้งก็คงไม่สามารถจะย้อนเอาอดีตกลับคืนมาได้ ตรงข้ามยิ่งถามตัวเองมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดูเหมือนจะเป็นการตอกย้ำความผิดที่ตนเองตัดสินใจผิดพลาดลงไปมากขึ้นเท่านั้น เหมือนเป็นการลงโทษตัวเองมากกว่า การย้ำคิดแบบนั้นบ่อยๆจะทำให้ชีวิตมีแต่จะจมดิ่งลงไปอยู่ในห้วงของความโศกเศร้ามากขึ้นเรื่อยๆ การตัดสินใจผิดพลาดจะมีสาเหตุมาจากคนอื่นหรือตนเองก็ตาม ผลลัพธ์เกิดขึ้นมาแบบนี้ คงจะมาพูดว่า "รู้แบบนี้ฉันไม่เลือกดีกว่า" คงไม่ได้ ถ้าทุกคนรู้ทุกอย่างเหมือนกันหมด คงไม่มีใครอยากมาเจออะไรที่ไม่พึงปรารถนา คงอยากแต่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ชอบมากที่สุด สิ่งที่ถูกกับจริตตนเองมากที่สุด ลองคิดดูว่าโลกจะวุ่นวายขนาดไหนถ้าทุกคนต่างแย่งชิงสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต การทำสิ่งผิดพลาดให้บทเรียนที่สำคัญกับชีวิตมนุษย์ ถ้ามนุษย์ไม่รู้จักสิ่งผิดพลาดเลย บางที่มนุษย์อาจจะไม่เห็นความสำคัญของการเรียนรู้ในชีวิต(จากความล้มเหลว, จากความผิดพลาด)ก็ได้ เพราะเมื่อมนุษย์เคยชินกับความสุขที่สมหวังตลอดเวลา ได้ตอบสนองความต้องการจนเป็นที่พอใจอยู่ตลอดเวลา อาจจะไม่พยายามพัฒนาตนเองต่อไป เนื่องจากไม่เห็นความสำคัญที่จะต้องพัฒนาตนเองเพื่อหลีกหนีจากความทุกข์

ทุกข์แปลว่า "สภาพที่ทนได้ยาก" ดังนั้นเมื่อคนมีความทุกข์ เขาพยายามที่จะหลีกหนีจากสภาพที่ทนได้ยากนั้น จึงหาทางพัฒนาตนเองเพื่อหลุดพ้นจากสภาพดังกล่าว เราหนีทุกข์ได้ตลอดเวลาจริงไหม? ถ้าลองมองดีๆ จะพบว่าจริงๆแล้วเราหนีทุกข์ไปไม่ได้หรอกนะ ที่เราไม่เป็นทุกข์ก็เพราะเรายังทนกับสภาพนั้นได้ต่างหากหรือไม่รู้สึกว่านั่นมันเป็นทุกข์ต่างหาก ดังนั้นทุกข์จึงขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองและยอมรับสภาพนั้นอย่างไร สถานการณ์หนึ่งอาจจะเป็นทุกข์แสนสาหัสของคนๆหนึ่งแต่สำหรับคนอีกคนหนึ่งกับไม่รู้สึกว่ามันเป็นทุกข์เลย ที่สำคัญไม่ใช่มีแต่เราคนเดียวที่เผชิญหน้าอยู่กับทุกข์อยู่ ยังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่เผชิญความทุกข์ที่บางครั้งแสนสาหัสมากกว่าเรา ตอนเราเป็นทุกข์บางครั้งเรามัวแต่จดจ่อเรื่องความทุกข์ของเรามากจนลืมมองโลกที่เป็นอยู่ออกไปกว้างๆจนมองเห็นความทุกข์ที่ทับถมเรายิ่งใหญ่เกินกว่าเรื่องของคนอื่น ตอนเรามีสติกลับมามองโลกและชีวิตอย่างที่เป็นจริง เราจะพบว่าทุกคนในโลกเป็นเหมือนกัน มีความทุกข์เหมือนกันถ้วนหน้า จะมากหรือน้อยอยู่ที่เหตุและปัจจัยที่สร้างกันขึ้นมา การหนีทุกข์จึงไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง แต่การแก้ทุกข์ในชีวิตอย่างแท้จริงน่าจะเป็นการอยู่กับทุกข์โดยไม่เป็นทุกข์มากกว่า เพราะว่าความจริงแล้วเราหนีทุกข์ไปตลอดชีวิตของเราคงไม่ได้ และเช่นเดียวกันคงไม่มีทุกข์ไหนอยู่กับเราไปตลอดกาล ทุกข์เพียงแต่เปลี่ยนจากรูปหนึ่งไปอีกรูปหนึ่งเท่านั้นเอง ทุกข์และสุขทั้งหลายในชีวิตเริ่มต้นที่ใจ ใจของเราต่างหากที่เป็นตัวกำหนดว่าสถานการณ์แบบเดียวกันเป็นสุขหรือทุกข์

คราวนี้หันกลับมาพูดถึงปัญหาในชีวิตสมรสที่มาจากการตัดสินใจผิดพลาดบ้าง การโทษตนเองหรือคนอื่นคงไม่เกิดประโยชน์อะไรดีขึ้นไปกว่าเดิม แต่ควรจะมองว่าจากนี้ไปจะทำอย่างไรให้อยู่กับชีวิตสมรสโดยไม่เป็นทุกข์มากกว่า ชีวิตสมรสเป็นเรื่องของคนสองคน ความสุขหรือทุกข์ก็เกิดจากการกระทำของคนสองคน เมื่ออีกฝ่ายทำหน้าที่บกพร่อง ได้มีการพูดจาตักเตือนกันด้วยคำพูดที่เหมาะสมไหม ถ้าอีกฝ่ายเริ่มด้วยการใช้อารมณ์มีการด่าทอกัน อีกฝ่ายคงไม่รู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ดีขึ้น พื้นฐานของคนทั่วไป คงอยากได้ยินได้ฟังแต่คำชม ถ้อยคำที่ไพเราะ มากกว่าคำติเตียนด่าทอแม้ว่าคำพูดนั้นจะจริงแค่ไหนก็ตาม พฤติกรรมที่สั่งสมมาเป็นเวลานานจนกลายเป็นนิสัยถาวร คงยากที่จะเปลี่ยนแปลงภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ถ้ามีเหตุการณ์ที่สำคัญมากระตุ้นให้คิดจะเปลี่ยนแปลง ตรงนี้มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้เหมือนกัน ความสำคัญคงอยู่ที่ว่ามีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างถาวรหรือชั่วคราว บางครั้งผู้คนก็คิดอะไรไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการกระตุ้นที่เพียงพอ สิ่งที่จะกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนพฤติกรรมไปในแนวที่ถูกต้องนั้นควรจะสอดคล้องกับจริตของอีกฝ่ายด้วย ไม่อย่างนั้นถึงกระตุ้นอย่างไรไปก็ไร้ประโยชน์ การพยายามกระตุ้นให้อีกฝ่ายทำหน้าที่ให้ครบถ้วนคงใช้เวลาและความพยายามอย่างมากทีเดียว ที่สำคัญมีความอดทนมากพอที่จะรอต่อไปได้ไหม ถ้าอีกฝ่ายเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทีละน้อย เราน่าจะยอมรับได้บ้างดีกว่าเขาไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเลย และควรจะให้กำลังใจที่เห็นเขายอมเปลี่ยนแปลงเพื่อความสุขในชีวิตสมรส แต่ถ้าสมมติว่าไม่ว่าจะพยายามกระตุ้นอย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายไม่พยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเลย ยังคงทำหน้าที่บกพร่องเหมือนเดิม คงต้องมานั่งถามใจตนเองดูก่อนว่า ความดีของคนๆนี้มีบ้างไหมและความดีตรงนี้มากพอที่จะทำให้เราให้อภัยในความบกพร่องในหน้าที่อื่นได้บ้างไหม? ผมเชื่อว่าคนทุกคนมีความดีในตัวเอง เพียงแต่บางทีเรามองข้ามไป ลืมนึกไปถึงความดีส่วนนั้นของคนๆนี้ไป ควรจะมองในยามที่ใจปลอดโปร่ง ปราศจากอารมณ์โกรธ เพราะว่าเวลานั้นเราจะมีสติและเห็นภาพอะไรชัดเจนขึ้น ถ้าคนๆนี้มีความดีเพียงพอและทำหน้าที่อีกหลายๆด้านถูกต้อง ก็น่าจะยอมรับได้ระดับหนึ่งถึงจะไม่สมบูรณ์ทั้งหมดก็ตาม ไม่มีใครสมบูรณ์แบบในโลกนี้หรอกครับ ถ้าเรายังรับได้ก็ยังไม่ต้องถึงขนาดเลิกรากันไปเสียทีเดียว ให้โอกาสแก่เขา ถ้าเขาเกิดสำนึกผิดในหน้าที่ที่บกพร่องขึ้นมาและคิดจะปรับปรุงตัว คนเราคงมีโอกาสทำสิ่งผิดพลาดได้แต่ไม่ควรทำสิ่งผิดพลาดนั้นบ่อยๆ เพราะการทำสิ่งผิดพลาดบ่อยๆบ่งบอกว่าคนๆนั้นเป็นคนขาดสติและไม่มีความรับผิดชอบ,ไม่คิดจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น

การเลิกรากันคงเป็นแค่ทางเลือกหนึ่งในอีกหลายๆทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับการตัดสินใจแก้ปัญหาชีวิตสมรส ไม่มีคำว่าถูกหรือผิดที่ตัดสินใจเลือกที่จะเลิกรากันไป แต่ที่สำคัญการเลิกรากันน่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายภายหลังจากที่พยายามหาทางแก้ปัญหาหน้าที่ที่บกพร่องต่างๆมาแล้วด้วยวิธีอื่นแต่ไม่ได้ผล เช่น โดยวิธีพูดคุย โดยการพยายามกระตุ้นเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และให้กำลังใจเมื่ออีกฝ่ายมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงตัวเราเองควรจะมองอะไรกว้างๆ มองโลกอย่างที่เป็นจริงด้วยใจเป็นกลางปราศจากอคติ ก่อนตัดสินใจอะไรลงไปในชีวิตควรใช้สติไตร่ตรองให้รอบคอบสักนิด ชีวิตคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตาฟ้าลิขิตทั้งหมดหรอกครับ ที่ชีวิตเป็นแบบนี้หรือกำลังจะเป็นแบบไหนต่อไปมันเป็นผลมาจากการพฤติกรรมและการตัดสินใจของเราในขณะนี้ต่างหาก เราคงไม่สามารถหลีกหนีความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของการตัดสินใจของตัวเราได้หรอกครับ หลังตัดสินใจอะไรลงไปแล้วไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบไหน ยอมรับมันดีกว่าแล้วหาทางแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไปดีกว่าครับ คงเหมือนกับว่าคนเราเกิดขึ้นมาแล้วเจอปัญหามากมาย มันคงไม่มีประโยชน์ที่จะมาถามตัวเองว่าเกิดมาทำไมเพราะถ้าจะย้อนเวลากลับไปไม่ยอมเกิดเพื่อมาเจอปัญหามากมายแบบนี้ก็คงไม่ได้อยู่ดี แต่น่าจะถามตนเองต่อไปว่าจะพัฒนาชีวิตที่เกิดขึ้นมาแล้วให้ดีขึ้นต่อไปเรื่อยๆอย่างไรมากกว่าครับ ตลอดชีวิตของผู้คน เราคงจะหนีทุกข์ไปไม่ได้ตลอดเวลา ดังนั้นคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหนีทุกข์ให้วุ่นวายใจ แต่ควรจะอยู่กับทุกข์นั้นอย่างไรโดยไม่เป็นทุกข์ต่างหาก


By: คุณชาคโร


   บริษัท ฟอร์จูน เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด




src="http://www.myfirstsight.com/music/wma-files/Cinderella-HaiApaiSakKrang.wma"
width="240" height="240" bgcolor="ffffff" autoplay="true" cache="true"
enablejavascript="true" controller="true">


เพลง: ให้อภัยอีกครั้ง
ศิลปิน: ซินเดอเลเล่

ขอบคุณที่มา  ::  www.love4home.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์