ผู้หญิงที่รักมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี...

ผู้หญิงที่รักมากเกินไป คือ ผู้หญิงที่รักๆๆๆ ผู้ชายของตัวเองจนยอมทุกอย่าง รักจนหงอ รักแบบกล้าๆ กลัวๆ รักแบบมอบกายถวายชีวิต ยอมเจ็บปวดแทนทุกอย่าง

ผู้หญิงที่รักมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี...


ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น รักแบบนี้จะมีความสุขหรือคะ

ผู้หญิงประเภทนี้มักรักผู้ชายมากกว่าที่ผู้ชายรักตัวเธอ บางครั้งการแสดงความห่วงใยจนทำให้เขารำคาญ เธอก็ยังอุตส่าห์เหมาว่าเป็นความผิดตัวเอง ขอโทษขอโพยเขาเสียอีกนะ ครั้นจะเลิกราเพื่อไปหาคนดีกว่า รักมากกว่า ทำให้ชีวิตสาวมีความสุขมากกว่า ก็เสพติดความเจ็บปวดจนถอนตัวไม่ขึ้น เรียกว่ามีความสุขบนความเจ็บปวดว่างั้นเถอะ

นอกจากนั้นยังมอบกายถวายตัว ทุ่มเททั้งจิตใจและร่างกายอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ดีไม่ดีอาจไม่เห็นแก่อนาคตของตัวเองด้วย ชีวิตทั้งชีวิตแขวนอยู่กับชายคนรัก ไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไร ขอให้ฉันได้อยู่รับใช้สุดที่รักเท่านั้นเป็นพอ

ผู้หญิงที่รักมากเกินไปมักมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1. เป็นเด็กที่บ้านมีปัญหา


ตอนเด็กๆ พ่อแม่มักมีปัญหาครอบครัว ทำให้เกิดผลกระทบมาถึงลูก เด็กไม่ได้รับการตอบสนองทั้งทางด้านความรักและอารมณ์ เช่น พ่อแม่เอาแต่ทะเลาะกัน ไม่มีใครเอาใจใส่ลูก ทอดทิ้งลูกให้โหยหาความรัก โดยไม่รู้วิธีจัดการกับความรักให้พอเหมาะพอดี ครอบครัวมีปัญหามักเป็นครอบครัวที่

@ พ่อแม่ติดเหล้าหรือใช้ยาเสพติด

@ เข้มงวดกวดขันกับลูกมากเกิน ไม่ว่าจะลุกจะเดินจะยืนหรือนั่ง ขยับตัวนิดเดียว ก็ต้องอยู่ในสายตาของพ่อแม่ หรือตั้งความหวังไว้กับลูกสูงเกินไป ไม่รู้จักประมาณความสามารถของลูก หนำซ้ำไม่เคยสนใจความรู้สึกของลูก

@ ทุบตีคู่สมรสหรือทุบตีเด็กๆ

@ พ่อแม่มีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมต่อลูก

@ ทะเลาะเบาะแว้งกันทุกวี่ทุกวัน ชีวิตมีแต่ความเครียด ไม่เคยมีความสุขเลย

@ พ่อแม่ทำเชิด ไม่ยอมพูดกันเป็นวันๆ

@ พ่อแม่ที่มีความคิดขัดแย้งหรือมีพฤติกรรมแง่งๆ ใส่กันตลอดเวลา จนลูกๆ ไม่เชื่อถือหรือไม่เคารพ

@ พ่อแม่ที่ชอบแข่งขันชิงดีชิงเด่นกันเองหรือแข่งขันกับลูกๆ

@ พ่อแม่ที่สื่อสารกันไม่รู้เรื่องหรือเอาแต่หลีกเลี่ยงไม่ยอมเผชิญหน้ากัน เลยไม่รู้เรื่องกันสักที

ครอบครัวไหนที่พ่อแม่มีพฤติกรรมแบบนี้แค่ข้อเดียวก็มีผลต่อลูกแล้ว เมื่อโตขึ้นลูกจะเป็นผู้ใหญ่ที่หิวโหยความรัก ใช้ความรักในทางที่ไม่ถูก ไม่มากไปก็น้อยไป หรือไม่รู้จักยอมรับความเป็นตัวตนผู้อื่น

2. ใส่ใจดูแลคนรักมากเกินไป


ความที่ตอนเด็กขาดความอบอุ่น ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร โตขึ้นก็เลยกลายเป็นผู้หญิงที่หันมาเอาใส่ดูแลแฟน มอบความรักให้ไปสุดหัวใจ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ตัวเองขาด ถ้าเป็นเด็กผู้ชายก็จะแสดงออกในทางก้าวร้าวรุนแรง แต่เด็กผู้หญิงจะหันไปหาตุ๊กตา ฟูมฟักดูแลราวกับลูกในไส้ ผู้หญิงพวกนี้มักมีอาชีพที่ช่วยเหลือหรือบริการผู้อื่น เช่น พยาบาล ที่ปรึกษา นักจิตวิทยา หรือพวกสังคมสงเคราะห์เรียกว่าชีวิตทั้งชีวิตมีแต่ให้ๆๆๆ เท่านั้น

3. มุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงชายคนรัก


นี่เพราะตอนเด็กไม่สามารถทำให้พ่อแม่หันมามอบความรักความเอาใจใส่ หรือทำตัวเป็นพ่อแม่ที่น่ารักได้ ความที่อยากมีครอบครัวอบอุ่น เธอจึงพยายามเปลี่ยนแปลงชายคนรัก (โดยเฉพาะถ้าบังเอิญเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยมีความเป็นเฟมีลี่แมนเท่าไร) โดยการทุ่มเทความรักให้อย่างไม่คิดชีวิต

ผู้หญิงประเภทนี้ก็แปลก ชอบไปหลงรักหลงเพ้อกับผู้ชายที่มีปัญหาทางจิต แต่กับผู้ชายที่ดีน่ารักสมบูรณ์พร้อม มาจากครอบครัวอบอุ่น สามารถเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายได้ ก็ไม่ยักสนใจ เหมือนหาเรื่องใส่ตัว หาเหาใส่หัวอย่างไรอย่างนั้น เพราะผู้ชายที่มีปัญหาขาดความอบอุ่นมักย้ำเตือนให้นึกถึงพ่อแม่ในสมัยเด็ก ผู้หญิงพวกนี้จึงเกิดสำนึกที่ดี เกิดความรู้สึกที่อยากจะทำดีเป็นนางฟ้าหรือแม่พระ มอบความรักความเอาใจใส่ทุกอย่างให้เขา

4. กลัวถูกทอดทิ้ง


ความที่กลัวถูกทอดทิ้ง จึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ความรักอยู่รอดปลอดภัย คำว่าถูกทอดทิ้งสำหรับผู้หญิงประเภทนี้ มีความหมายรุนแรงสาหัสนัก ประมาณว่า ต้องอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย อาจถึงแก่ตรอมใจตาย เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่รอดคนเดียวได ้โดยปราศจากคนรักอยู่เคียงข้าง ยิ่งถ้าเป็นการทอดทิ้งทางอารมณ์ คือตัวอยู่ด้วยกัน แต่ไม่เคยดูแลใส่ใจ ต่างคนต่างอยู่ไปงั้นๆ ยิ่งแย่ใหญ่ ดังนั้น จึงต้องทำทุกอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้รักอยู่กับตัวนานเท่าที่เป็นไปได้

5. ทุ่มเทสุดๆ


ดูแลช่วยเหลือคนรักที่มีปัญหาในด้านจิตใจทุกอย่างจริงๆ ตัวอย่างเช่น

@ ซื้อเสื้อผ้าให้เขา เพื่อทำให้ภาพพจน์ของเขาดูดีขึ้น
@ หาจิตแพทย์มือดีและพยายามขอร้องให้เขาไปพบ
@ สรรหางานอดิเรกสุดแพงเพื่อให้เขาใช้เวลาอย่างมีค่า
@ ยอมย้ายที่อยู่ไปไหนต่อไหนเพียงเพราะเขาไม่ชอบ
@ มีอะไรก็ยกทูนหัวทูนเกล้าให้เขาหมด หรือไม่ก็ยอมให้เขาเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่ง เพราะไม่อยากให้เขารู้สึกต่ำกว่า
@ เอื้อเฟื้อที่พักให้เขาเพื่อเขาจะได้รู้สึกปลอดภัย
@ ปล่อยให้เขาทำร้ายจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะสงสารที่เขามาจากครอบครัวไร้รักขาดความอบอุ่น คงไม่มีโอกาสได้ระบายอารมณ์กับใครมาก่อน
@ หางานให้เขาทำ

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเพียงเบาะๆ สำหรับผู้หญิงใจพระ ซึ่งเอาแต่ช่วย ไม่เคยหยุดคิดถามตัวเองเลยว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นสมควรหรือไม่ วันๆก็ทุ่มเททั้งเวลาและพลังงานสมอง พยายามเค้นคิดหาทางช่วยเหลือหรือหาวิธีใหม่ในการเข้าหาคนรัก เพื่อเข้าถึงจิตใจเขาให้ได้มากที่สุด

6. รับผิดชอบทุกอย่างแทบทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาด ความรับผิดชอบ หรือคำตำหนิติเตียน ข้าพเจ้าขอรับไว้บนหัวแต่เพียงผู้เดียว จากเด็กบ้านไร้รัก เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จึงเกิดความรับผิดชอบว่า ตัวเองต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และถือเป็นหน้าที่ทะนุถนอมความรักไปตลอดรอดฝั่งให้จงได้ จะชั่วร้ายดีเลวอย่างไรไม่ว่า ขอทำตัวเป็นกระโถนท้องพระโรงพร้อมเสมอที่จะรับเละทุกอย่าง

7. เป็นโรคติดคนรัก

ผู้หญิงประเภทนี้ใช้ความหลงใหลในตัวชายคนรักมาบังหูบังตา เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด ความโดดเดี่ยว ความกลัวและความโกรธ เรียกว่าใช้ความสัมพันธ์ฉันคนรักเป็นยาบำบัดก็ว่าได้ หากมีชีวิตอยู่โดยปราศจากเขา จะเกิดอาการทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น เหงื่อออก คลื่นเหียน หนาวสะท้าน หมกมุ่นครุ่นคิด หดหู่ นอนไม่หลับ ตกใจง่าย แถมยังวิตกจริตเกินกว่าเหตุ และเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้เธอจะย้อนกลับไปหาคนรักที่เพิ่งเลิกรากัน หรือไม่ก็รีบหาชายคนใหม่มาดามหัวใจทันที

8. มัวแต่สนใจคนรักจนละเลยตัวเอง

ก็เพราะมัวแต่ยุ่งวุ่นวาย คอยสังเกตสังกาว่าเขารู้สึกอย่างไร ต้องการอะไร ก็เลยไม่รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเอง ตัดสินใจไม่ได้ว่าอะไรคือเป้าหมายชีวิตหรือควรทำอย่างไรต่อไปเพื่อตัวเอง ซึ่งยังผลให้ชีวิตไม่เป็นสุข ไม่รู้จักตัวเองเสียด้วยซ้ำ ทำตัวให้จมอยู่กับวังวนชีวิตราวกับนิยายน้ำเน่า จนหมดปัญญาหาหนทางแก้ไข ไม่ผิดถ้าอยากระบายอารมณ์ด้วยการร้องกรี๊ดตีอกชกตัวหรือร่ำไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด แต่การใช้อารมณ์ราวชีวิตเป็นดั่งละครไม่ได้ช่วยให้เรามีสติในการแก้ไขปัญหาได้

9. สนใจผู้ชายที่ไม่น่าสนใจ

ผู้ชายดีๆ มีน้ำใจงาม มีความมั่นคง ดูน่าเชื่อถือ มาให้ความสนใจ ก็ดันไม่สนใจเขา
กลับไปมองว่า...
@ ผู้ชายที่ไม่มีความมั่นคงดูน่าตื่นเต้นดี
@ ผู้ชายที่ไม่น่าเชื่อถือดูท้าทายชวนค้นหา
@ ผู้ชายที่คาดเดาอะไรไม่ได้ดูเป็นคนโรแมนติค
@ ผู้ชายอ่อนหัดดูมีเสน่ห์
@ ผู้ชายเจ้าอารมณ์ดูเป็นคนลึกลับ
@ ผู้ชายขี้โมโหต้องการความเข้าใจ
@ ผู้ชายไร้สุขต้องการกำลังใจ
@ ผู้ชายที่ไม่เคยพอต้องการแรงสนับสนุน
@ ผู้ชายเย็นชาต้องการความอบอุ่น

ผู้หญิงประเภทนี้ไม่ต้องการผู้ชายเพียบพร้อมที่สามารถให้ความสุขได้ทุกอย่าง กลับพึงใจผู้ชายขาดๆ เกินๆ เพราะเสพติดกับความเจ็บปวดทางอารมณ์จนถอนตัวไม่ขึ้น ดูแปลกแต่นี่คือความจริงอย่างที่สุด

ลองดูว่าตัวเองมีคุณสมบัติตรงกับข้อใดบ้าง ถ้ามีก็รีบปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก่อนจะตกเป็นเบี้ยรองบ่อนชายคนรักที่อาจกำลังเอาเปรียบเราอยู่ตอนนี้ก็ได้นะคะ


ขอบคุณที่มา:ผู้หญิงนะคะดอทคอม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์