ฝากมาเตือนกัน คุณกำลังเลี้ยงลูกให้เก่งและเก่ง สนองความต้องการของตัวเองอยู่หรือเปล่า

ฝากมาเตือนกัน คุณกำลังเลี้ยงลูกให้"เก่งและเก่ง" สนองความต้องการของตัวเองอยู่หรือเปล่า

เด็กที่ได้รับความเครียดอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เด็กขาดโอกาสการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต 


ลองมาดูข้อมูลจาก หมอมินพระราม 6 ที่นำมาแบ่งปันในหน้าเพจค่ะ 
เราเร่งรัดลูกเกินไปหรือเปล่าจ๊ะ ??

_____________________

# เด็กที่ถูกเร่งรัด หรือ Hurried Child Syndrome (ตอนที่ 1 + ตอนที่2)
แบ่งปันจาก ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย

หมอสังเกตว่า พ่อแม่ในปัจจุบันนิยมให้ลูกเรียนหรือทำกิจกรรมหลายๆ อย่างมากเกินควร วันนี้หมอจึงมีบทความที่น่าสนใจจาก ศ.พญ.วินัดดา ปิยะศิลป์ มาฝากให้อ่านกันเพื่อศึกษากันดูนะครับ และลองเสนอความคิดเห็นกันด้วยก็ดีครับ (บทความต้นฉบับยาวสักหน่อย หมอจึงได้ตัดต่อเรียบเรียงใหม่นะครับ)
# หมอมินพระราม 6
__________

Hurried child syndrome หมายถึงภาวะที่เด็กถูกเร่งในหลายๆ เรื่องให้แสดงพฤติกรรมเกินวัย อาจจะแต่งตัวแต่งหน้าและทำพฤติกรรมเลียนแบบผู้ใหญ่ รวมถึงการใช้ชีวิตที่รับผิดชอบสูง มีกำหนดการสำหรับกิจกรรมต่างๆ มากมาย ถูกผลักให้เข้าโรงเรียนเข้าสังคมเร็วกว่าเด็กอื่น ต้องเรียนรู้มากทั้งด้านการเรียนและการทำกิจกรรมหรือแม้แต่เรื่องเพศ ถูกเร่งรัดกดดันตั้งแต่เช้าจนค่ำจนขาดเวลาที่จะเป็นตัวของตัวเองมากพอ ขาดโอกาสหัวเราะสนุกสนาน หรือทำตัวตามวัยกับเพื่อนที่อายุเท่ากัน ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจ

สาเหตุ งานวิจัยที่วิเคราะห์พ่อแม่ที่เร่งรัดลูก พบว่ามีความเป็นมาจากการที่พ่อแม่เลี้ยงลูกเพื่อชดเชยความล้มเหลวหรือความขาดแคลนของตนเองในอดีต พ่อแม่ที่เรียนไม่ดีมาก่อน ขาดแคลน ต้องทำงานหนัก หรือมีเกียรติที่ด้อยกว่าคนอื่นในสังคม จึงพยายามผลักดันให้ลูกพัฒนาโดยเฉพาะในด้านที่ตนเองไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองได้รับ เช่น แม่เรียนไม่เก่ง จะเร่งรัดด้านการเรียนของลูก หรือพ่อไม่มีโอกาสเรียนดนตรีตอนเด็กเพราะยากจน จึงบีบบังคับให้ลูกเรียนดนตรีตามความใฝ่ฝันของตนเอง หรือแม่ที่ทำงานหนักเพื่อหาเงินให้ตายายและน้องๆในครอบครัวใช้จ่ายตั้งแต่เด็ก จะส่งเสริมให้ลูกใช้เงินเกินฐานะโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น

การส่งเสริมเร่งรัดเด็กในด้านต่างๆ จนเด็กมีความสามารถขึ้นเป็นความภาคภูมิใจในตัวพ่อแม่ที่ได้คุยกับผู้อื่นอย่างสง่าผ่าเผยว่าลูกของฉันทำได้ ความสามารถของเด็กจึงเสมือนเป็นหน้าเป็นตาให้พ่อแม่ เพียงแค่ส่งเข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงหรือค่าเล่าเรียนแพงๆ หรือเข้าโรงเรียนนานาชาติที่หรูหรา พ่อแม่ก็รู้สึกดี ใครจะมาดูถูกฉันไม่ได้อีกแล้ว

เด็กที่ถูกเร่งรัดในด้านการเรียน มีลักษณะคือมักจะเข้าเรียนเร็ว หรือครูให้ข้ามชั้นเพราะมีความรู้มาก (เนื่องจากพ่อแม่จะสอนเนื้อหาที่เกินกว่าอายุ) ในระยะแรกของการเรียน เด็กกลุ่มนี้มักจะมีผลการเรียนดี ความพึงพอใจของเด็ก คือการทำให้พ่อแม่พอใจในผลการเรียน แต่เมื่อการเรียนยากขึ้น ถูกเร่งรัดเนื้อหาวิชาการ ต้องเรียนนานจนไม่รู้จุดสิ้นสุด จะเริ่มเห็นความเฉื่อยชา ไม่สนุก และเบื่อหน่ายจนในที่สุดจะละทิ้งวิธีการที่เคยพยายามเรียนให้ได้ตามที่พ่อแม่ต้องการ แต่ขณะเดียวกันก็วิตกกังวลกลัวว่าพ่อแม่จะไม่ยอมรับ เมื่อการเรียนตามไม่ทัน จะเริ่มเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่มีสมาธิ ขาดความสนใจ ไม่จดจำ หรือมีอาการทางกาย เช่น ปวดศีรษะและปวดท้องที่หาสาเหตุทางกายไม่พบ เป็นต้น

เมื่อเด็กเหล่านี้เติบโตเข้าวัยรุ่นซึ่งตามปกติจะมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์ และสังคม เด็กกลุ่มที่ถูกเร่งรัดก็จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพใหม่เช่นกัน ถ้าปรับตัวไม่ได้จะมีผลกระทบต่อพัฒนาการทุกด้าน แต่ความที่พื้นฐานดูมั่นคงแค่สภาพภายนอก และสภาพภายในกลวง ทำให้วัยรุ่นกลุ่มนี้มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป แปรปรวนหรืออาจไปในทิศทางตรงข้ามได้โดยสิ้นเชิง คืออาจจะพบพฤติกรรมก้าวร้าวต่อต้านสังคม ไม่ยอมเรียน ปรับตัวไม่ได้ หรืออารมณ์แปรปรวน ซึ่งนำไปสู่การใช้สารเสพติด การขับรถซิ่ง ก่อกวนสังคม พฤติกรรมทางเพศเบี่ยงเบน หรือซึมเศร้า และนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่กับเด็กได้ง่ายและรุนแรงคาดว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่นำไปสู่การฆ่าตัวตายในวัยรุ่นด้วย
_____
# ภาค2 
ปฏิกิริยาของเด็กที่มีต่อความเครียดจากการถูกเร่งรัด

ความที่เคยชินกับการทำตามกติกาที่พ่อแม่วางไว้ตั้งแต่เด็ก อาจดูเหมือนว่าสนุกสนานต่อการเรียนรู้ในช่วงแรก โดยแสดงพฤติกรรมเกินวัย ทั้งคำพูดและท่าทาง ระยะแรกพ่อแม่จะชื่นชมพฤติกรรมเกินวัยของเด็ก เพราะเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่แสดงถึงความรับผิดชอบ จึงเป็นเหตุให้พ่อแม่สบายใจ จนให้เวลากับเด็กลดลง ซึ่งอาจถึงขั้นละเลยหรือละทิ้ง เด็กเองก็รับรู้ถึงเหตุผลต่างๆ ที่พ่อแม่ยกขึ้นมาอ้าง เพียงแต่มีความรู้สึกภายในตัวเองที่เหงา เศร้า และไม่สามารถแสดงหรือเล่าความรู้สึกเหล่านั้นออกมาได้ เพราะเท่ากับเป็นการแสดงลักษณะแบบเด็กเล็กที่พ่อแม่ไม่พอใจ และส่งผลให้ได้รับคำตำหนิตามมาได้

เด็กพยายามจะเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ จึงมีบุคลิกภาพแบบชอบแข่งขัน ไขว่คว้าหาความสำเร็จที่มากขึ้นไปเรื่อยๆ (achievement striving) กระวนกระวาย อ่อนเพลีย ความอดทนต่ำและหงุดหงิดง่าย เอาจริงเอาจัง ไม่ร่าเริง แจ่มใส รู้สึกอึดอัดเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามแผน เครียดและวิตกกังวลสูง แสดงออกเป็นพฤติกรรมเจ้าระเบียบ บีบคั้น เน้นความถูกต้อง ยึดกับกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้มากเกินไป ถ้าไม่เป็นไปตามแผนที่พ่อแม่คาดหวัง เด็กมักจะวิตกกังวลมาก มีอาการกระวนกระวาย ไม่มีสมาธิ ไม่รู้ว่ากลัวอะไร บางคนมีพฤติกรรมก้าวร้าว ผลการเรียนไม่ดี อาจมีอารมณ์ซึมเศร้าและร้องไห้ง่าย หรือมีอาการเครียดที่แสดงออกทางกาย เช่น ปวดท้อง ปวดศีรษะ เป็นต้น ไม่ยินดีเริ่มหรือไม่สนใจทำกิจกรรมที่เคยสนใจ ชอบอยู่บ้านมากกว่า แสดงพฤติกรรมต่อต้านสังคม พูดปด ขโมย ลืมหรือปฏิเสธไม่ทำงานบ้าน ผลการเรียนตกลง แสดงความสนใจน้อยหรือไม่สนใจต่อการเข้าเรียนและทำการบ้าน และหันมาพึ่งพาพ่อแม่มากกว่าเดิม

มีคำพูดอธิบายความรู้สึกภายในของเด็กกลุ่มนี้ว่า “คำพูดและพฤติกรรมสะท้อนความเป็นผู้ใหญ่ แต่สภาวะจิตใจยังเป็นเด็ก”

เด็กและวัยรุ่นกลุ่มนี้มักจะมาพบแพทย์ด้วยปัญหาต่างๆ ได้หลายรูปแบบ เช่น
1. ปัญหาสุขภาพ เช่น ตัวเล็ก ไม่สูง ไม่กินอาหาร เป็นต้น ซักประวัติจะพบว่าขาดการออกกำลังกาย บางรายเป็นลม บ่นเหนื่อย หมดแรง บ่นปวดศีรษะ ปวดท้องโดยหาสาเหตุทางร่างกายไม่พบ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากความเครียดที่เกินกว่าจะควบคุมได้
2. ปัญหาการเรียน เช่น ผลการเรียนลดลง ไม่มีสมาธิ เรียนไม่ทัน ไม่รู้เรื่อง ความจำไม่ดี รู้สึกเฉื่อย ไม่สนุกหรือเบื่อการเรียน เป็นต้น จนบางครั้งอาจถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นได้
3. ปัญหาด้านอารมณ์ ไม่แจ่มใส แยกตัว วิตกกังวลสูง ซึมเศร้า ร้องไห้ง่าย เจ้าระเบียบ เน้นความถูกต้อง และยึดกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ จนอาจมีปัญหาในการปรับตัวกับเพื่อน
4. ปัญหาพฤติกรรม อาจจะมีพฤติกรรมเหมือนพฤติกรรมของวัยรุ่นทั่วไป แต่จะรุนแรงและยาวนานกว่า เช่น เฉื่อยชา ไม่รับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ แยกตัว ไม่ร่วมกิจกรรม นอนน้อย ต่อต้านสังคม ไม่ยอมเรียน หรือก้าวร้าว ขาดความรับผิดชอบ และจริยธรรมต่ำ ไปจนถึงเคร่งครัดกับตัวเองและคนอื่นมากเกินไป หรือแสดงพฤติกรรมเกินวัยทั้งคำพูดและท่าที
5. ปัญหาการปรับตัว เช่น ปรับตัวกับพ่อแม่ พี่น้อง ครูอาจารย์ หรือเพื่อนไม่ได้ ซึ่งการปรับตัวที่มีปัญหานี้เป็นผลมาจากการเร่งรัดเด็ก
6. ปัญหาพฤติกรรมทางเพศ เช่น แสดงพฤติกรรมทางเพศเกินพอดี ทั้งด้านการพูด การแสดงออก หรือแต่งตัวเกินวัย มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ตั้งครรภ์ ทำแท้ง หรือเปลี่ยนคู่บ่อย เป็นต้น
7. ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การเสพสารเสพติด และพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งมักจะพบบ่อยในวัยรุ่นชายและวัยรุ่นหญิงบางราย

Cr: หมอมินพระราม6 
ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย

‪#‎kidmazonkids‬


 ฝากมาเตือนกัน คุณกำลังเลี้ยงลูกให้เก่งและเก่ง สนองความต้องการของตัวเองอยู่หรือเปล่า


 ฝากมาเตือนกัน คุณกำลังเลี้ยงลูกให้เก่งและเก่ง สนองความต้องการของตัวเองอยู่หรือเปล่า

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก  Cr: หมอมินพระราม6 

 ฝากมาเตือนกัน คุณกำลังเลี้ยงลูกให้เก่งและเก่ง สนองความต้องการของตัวเองอยู่หรือเปล่า

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์