พัฒนาการ คุมกำเนิด ใช้ รีโมตคอนโทรล


พัฒนาการ คุมกำเนิด ใช้ รีโมตคอนโทรล


พัฒนาการ "คุมกำเนิด" ใช้ "รีโมตคอนโทรล"

บริษัท "ไมโครชิปส์" จากรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา พัฒนาอุปกรณ์สำหรับคุมกำเนิดในสตรีแบบใหม่ ที่สามารถควบคุมการใช้งานได้ตามใจปรารถนา เพียงแค่กดปุ่มรีโมตคอนโทรล เพื่อปิดหรือเปิดการทำงานของอุปกรณ์ที่ผ่าตัดฝังไว้ในร่างกายได้แล้ว เตรียมวางจำหน่ายทั่วไปได้ในอีก 4 ปีข้างหน้านี้

อุปกรณ์ดังกล่าว ต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อฝังไว้ใต้ผิวหนังของผู้หญิงที่ต้องการคุมกำเนิด แต่มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 16 ปี หลังจากนั้นต้องผ่าตัดเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทดแทน

อุปกรณ์คุมกำเนิดใหม่ มีขนาดเล็กมาก คือ 20x20x7 มิลลิเมตร ผลิตจากไทเทเนียมและแพลทินัม ภายในเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถรับสัญญาณจากรีโมตคอนโทรลภายนอก ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งผลกระแสไฟฟ้าเข้าไปในแอ่งบรรจุฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรลที่ ติดตั้งอยู่ภายใน กระแสไฟฟ้าดังกล่าวจะทำหน้าที่ละลายผนึกปิดแอ่งฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรลให้ เปิดออก ปล่อยฮอร์โมนออกมาสู่ร่างกาย ครั้งละ 30 ไมโครกรัม ซึ่งสามารถป้องกันการคุมกำเนิดได้ในระยะเวลา 1 วัน

ถ้าหากอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ถูกปิดการทำงาน มันจะทำหน้าที่หลั่งฮอร์โมนเพื่อการคุมกำเนิดดังกล่าวออกมาทุกวันต่อเนื่อง จนกว่าจะครบ 16 ปี แต่ผู้ใช้สามารถเลือกปิดการทำงาน เพื่อยุติการคุมกำเนิดได้เมื่อใดก็ตามต้องการ

ผู้พัฒนาอยู่ในกระบวนการทดลองประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของการใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ในสัตว์ทดลอง และมีกำหนดจะทดสอบประสิทธิภาพในคน (คลินิคอลเทสต์) ในอีก 4 เดือนข้างหน้า หากประสบความสำเร็จด้วยดีก็สามารถยื่นขออนุญาตเพื่อจัดจำหน่ายและคาดว่าจะ เริ่มจำหน่ายในราคาที่ไม่แพงนักได้ในปี 2018

ดร.โรเบิร์ต ฟาร์รา ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ ระบุว่า ข้อดีในการที่อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถปิด-เปิดการทำงานได้ด้วยรีโมตคอนโทรลและ จัดการได้ด้วยตัวเอง ทำให้เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดที่เหมาะสมมากสำหรับการวางแผนครอบครัว เพราะที่ผ่านมาถึงแม้จะมีอุปกรณ์คุมกำเนิดชนิดผ่าตัดฝังแล้ว แต่การใช้งานหรือการปิดการใช้งานก็จำเป็นต้องให้ผู้ที่ตัดสินใจคุมกำเนิด เดินทางไปพบแพทย์ด้วยตัวเองอยู่ดี

ประเด็นหลักที่ต้องระมัดระวังต่อไปก็คือ ทำอย่างไรไม่ให้อุปกรณ์ดังกล่าวถูกปิดหรือเปิดการทำงานโดยที่สตรีที่คุมกำเนิดอยู่ไม่รู้ตัวหรือรู้เรื่องด้วย ดร.ฟาร์ราเสนอแนะว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จึงควรจำกัดระยะการติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ที่ฝังอยู่ภายในร่างกายให้อยู่ใน ระดับใกล้มากที่สุด ชนิดต้องติดกับผิวหนังได้ยิ่งดี เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่อยู่ห่างอีกฟากหนึ่งของห้อง ปิด-เปิดอุปกรณ์ได้โดยที่ผู้คุมกำเนิดเองไม่รู้ตัว

นอกเหนือจากการนำมาใช้ในการคุมกำเนิดแล้ว ระบบเดียวกันนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการจ่ายยาอื่นๆ ที่ต้องการความสม่ำเสมอและปริมาณที่ถูกต้องให้กับผู้ป่วยได้อีกด้วย



พัฒนาการ คุมกำเนิด ใช้ รีโมตคอนโทรล

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์