พิฆาต 6 ต้นตอ “เหนื่อย – ท้อ – หมดแรง”

พบตัวการสร้างความเหนื่อล้าที่คุณอาจคาดไม่ถึง พร้อมด้วยวิธีรับมือเพื่อเรียกความสดชฃื่นแข็งแรงกลับคืนมา

1. ตัวการเผชิญตัวเลือกมากเกินไป

ในแต่ละวันคุณต้องเผชิญกับตัวเลือกนับร้อย เริ่มตั้งแต่จะชงกาแฟสักแก้วในตอนเช้าไปจนถึงเลือกรายการทีวีในตอนค่ำ การชั่งใจกับทุกๆ ตัวเลือกที่ผ่านเข้ามาจะทำให้คุณเหนื่อยล้าพบว่า คนที่ต้องสินใจเลือกซื้อของจำนวนมากรู้สึกเหนื่อยและสับสนในความคิดมากกว่าคนที่ดูผ่านๆ

ทริคเรียกพลัง : หลีกเลี่ยงการตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนไปเสียทุกเรื่อง ข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สำคัญไปบ้าง เช่นในเลือกอาหารสุขภาพ แทนที่จะเลือกจากรายการอาหารทั้งหมด ให้คัดเมนูแคลดรีต่ำ 2 เมนูแรกที่ คุณชอบที่สุดแล้วตัดสินใจเลือกจาก 2 ตัวเลือกนี้ สำหรับเรื่องสำคัญ เช่น การซื้อบ้านหรือการเลือกสถานที่เรียนต่อ ให้ลิสต์ข้อดีและข้อเสียของแต่ละตัวเลือกออกมา แล้วค่อยๆให้เวลาตนเองได้ผ่านกระบวนการคิดกลั่นกรองตัดสินใจอย่างเต็มที่แล้วสัญชาตญานจากจิตใต้สำนึกจะชี้นำคุณเอง

2. ตัวการดูดพลังติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วดมง 7 วัน

การถูกตามตัวได้ตลอดเวลาอาจทำให้คุรก้าวหน้าในอาชีพ แต่ที่แท้จริงแล้ว เมื่อกลับถึงบ้านคุรควรมีเวลาส่วนตัวบ้าง เพราะพบว่า ผู้หยิงที่ติดต่อเรื่องงานผ่านโทรศัพท์หรืออีเมล์ที่บ้านในช่วงวักหยุดหรือหลังเลิกงาน รู้สึกเหนื่อยล้าและไม่มีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมตรงหน้ามากกว่าคนที่ได้หยุดผักผ่อนอย่างแท้จริง

การทำตัวให้ติดต่อได้ 24 ชั่วโมงทำให้คุรต้องอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เป็นสาเหตุให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความเครียดออกมา หากเครียดติดต่อกันนานๆ ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันลดต่ำลงด้วย

ทริคเรียกพลัง : ถ้าคุณไม่สามารถตัดการติดต่อนอกเหนือจากเวลาทำงานได้ อย่างน้อยก็ควรกำหนดช่วงเวลาปลอดดทรศัพท์และอีเมลไว้บ้าง นอกจากนี้สัญญาตนเองว่า จะงดเซ็กงานจากอีเมลไอดฟน หรือแบล็กเบอร์รี่ในวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน หรือไม่กี่ชั่วโมงก็ยังดี

3. ตัวการดูดพลัง เพื่อสาวจอมปรับทุกข์

การฟังเพื่อนปรับทุกข์หรือบ่นวกวนจากปัยหานั้นมาปัญหานี้อย่างไม่รู้จบ จะทำให้คุณตกอยู่ในวังวงของความคิดแง่ลบ ซึ่งทำให้ร่างกายผลิตออรืโมนความเครียดออกมามากเป็นพิเศษ

ทริคเรียกพลัง : การช่วยเพื่อนไม่ได้หมายถึงการเป็นที่ระบายความทุกข์เพียงอย่างเดียว ดีที่สุดคือ ควรดึงเพื่อนออกมาจากความรู้สึกวาตนเองตกเป็นเหยื่อของปัญหา ด้วยการถามว่า “ฉันเข้าใจและเห็นใจที่เธอต้องตกอยู่ในสถาณ์แบบนี้ แล้วเธอคิดจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร”

ถ้ายังไม่ได้ผล ลอง “ขอโทษจริงๆ ฉันกำลังจะประชุมในอีก 10 นาที ให้ฉันช่วยอะไรเอได้บ้าง” การจำกัดเวลาทำให้เพื่อนของคุณเรียงลำดับความคิดและปรึกษาแต่เรื่องที่จำเป้นจริงๆ หรือไม่ก็โทรศัพท์หาที่ระบ่ยรายอื่นต่อไป

4. ตัวการดูดพลัง เดินหลังงอ – นั่งห่อไหล่

เมื่อคุณหลังค่อม อกของคุรจะห่อและปอดจะถุกบีบอัด ทำให้หายใจเอาอากาศเข้าปอดได้น้อยกว่าปกติ ส่งผลให้มีปริมาณออกซิเจนไปเลี้ยงสมองน้อยลงและรู้สึกวิงเวียน

การนั่ง ยืน หรือเดินหลังโกง ยังทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนบนและช้าวงคอตึง แต่ละนิ้วที่คุณโน้มไปข้างหน้า ร่างกายต้องใช้ความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อพยุงศีรษะไว้

ทริคเรียกพลัง : ระหว่างวันควรเว็กท่าททางของตนเองทุก 2- 3 ชั่วโมง ให้แน่ใจว่า ไหล่ หู และสะโพกอยู่ในแนวขนานกัน(กรณียืน ศีรษะตรง ไหล่ตรง และไม่ทิ้งน้ำหนังลงสะโพกข้างใดข้างหนึ่ง) เมื่อทำไปนานๆ ท่าทางที่ถูกลักษณะนี้จะกลายเป็นท่าทางธรรมชาติที่คุณไม่รู้สึกฝืนอีกต่อไป

5. ตัวการดูดพลัง ได้รับแมกนีเวียมไม่เพียงพอ

ร่างกายต้องการแมกนีเวียมเพื่อใช้ในการแปรอาหารเป็นพลังงาน พบว่า ผู้หญิงที่ขาดแร่ธาตุชนิดนี้ ร่างกายต้องการออกซิเจนในขณะทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากกว่าคนที่ได้รับแมกนีเวียมเพียงพอ

ทริคเรียกพลัง : กินอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง เช่น เมล็ดฟักทอง ,ถั่วขาว, ผักโขมและก็แหล่งอาหารอื่นๆที่มีแมกนีเซียมสูง

6. ตัวการดูดพลัง ตะทำงานยุ่งเหยิง

โต๊ะทำงานทีรกรุงรังทำให้คนที่ทำงานอยู่รู้สึกแย่อย่างแน่นอน ความยุ่งหยิงจะทำให้สมองมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ช้าลงและขาดสมธิ เพราะเมื่อคุณอยู่ท่ามกลางสิ่งของรกเลอะเทอะสมองต้องใช้ความพยามยามในการรับรู้และแยกแยะข้อมูลทั้งหมดที่ตาเห้นเพื่อให้เหลือแต่สิ่งที่ต้องการ

ทริคเรียกพลัง : จัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ กำจัดเอกสารเก่าที่ไม่ใช้หรือเก็บใส่แฟ้ม มองหาจุดที่รกรุงรังและทำให้คุรประสาทเสียที่สุดแล้วเคลียร์จุดนั้นให้สะอาด แล้วหาของที่ทำให้จิตใจแจ่มใสมาวางไว้แทน เช่น กระถางต้นไม้

ที่มา : นิตยสาร Shape