ภัยร้ายของลูกผู้หญิง

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง ภัยร้ายของลูกผู้หญิง

ภัยร้ายของลูกผู้หญิง
ข่มขืน

มันไม่ใช่การข่มขืนหรอก... อันที่จริงแล้วหล่อนต้องการมันนะ แต่หล่อนไม่รู้ หรือไม่ก็รู้แล้วแต่พยายามปิดบังเอาไว้
~ ผู้ต้องหาที่มีอวัยวะเพศชายคนหนึ่งกล่าว

ภาพประกอบ ที่พอจะนำมาลงได้

การข่มขืน (หรือการขืนใจ หรือปล้ำ ก็ว่า) เป็นพฤติกรรมประหลาดของบุคคลบางกลุ่มที่ชอบซาดิสต์ หรือชอบบังคับขู่เข็ญผู้อื่น ส่วนมากแล้วจะเป็นการกระทำของผู้ชายที่ข่มขืนผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ในกฎหมู่รัฐธรรมนู้บฉบับใหม่นั้นได้โม้เอาไว้ว่า อันที่จริงแล้ว ผู้หญิงก็ทำการข่มขืนผู้อื่นได้เช่นกัน และผู้หญิงที่ว่านั้นมักจะข่มขืนผู้หญิงด้วยกันเอง

การข่มขืน (r4pe) โดยทั่วไปเป็นการทำร้ายจิตใจผู้อื่น เนื่องจากคนหนึ่งได้ใช้กำลังบังคับอีกคนหนึ่งให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งอาจขัดกับความต้องการหรือตั้งใจของคนๆนั้น แต่บางครั้งก็เป็นการสมยอม (ตกลงกันแล้วว่าจะให้ใครข่มขืนกับใครที่ไหนเวลาใด) หรือเป็นเพียงการแสดงละคร การข่มขืนมีความเสี่ยง บ่อยครั้งผู้ถูกข่มขืนจะฟ้องร้องดำเนินคดี เนื่องจากการกระทำเหล่านั้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บและเสียเวลา บางครั้งถึงขั้นตั้งครรภ์ (ผู้หญิง) หรือติดเอดส์ก็มี อย่างไรก็ตาม บางครั้งคนข่มขืนอาจติดเอดส์จากเหยื่อเสียเองก็มีเช่นกัน

การข่มขืนแบบธรรมดาที่สุดแต่เกิดขึ้นมากที่สุดคือการที่ผู้ชายข่มขืนผู้หญิง 910% รองลงมาคือผู้ชายข่มขืนผู้ชาย 90% และพบว่า 9999999% ของผู้ลงมือขืนใจไม่ใช่ผู้หญิง (มีแต่ในหนังโป๊เท่านั้นที่จะได้เห็นผู้หญิงทำแบบนั้น)

ประวัติศาสตร์ของการข่มขืน

คำว่า ข่มขืน ในสมัยโบราณ หมายถึง การยึดครองหรือเอามาโดยกำลัง และไม่ได้มีความหมายทางเพศเลย ในบางยุคสมัยคำคำนี้หมายถึงการลักพาเรียกค่าไถ่หรือการปล้นก็ได้ เช่นยุคสมัยหนึ่งของไทย มีผู้ที่กล่าวหาว่านักการเมียบางคน "ข่มขืนกระทำชำเราประเทศไทย"

ในยุคโบราณของกรีกและโรมันจนถึงยุคล่าอาณานิคม การข่มขืนนั้นเป็นความผิดที่รุนแรงเทียบเท่ากับการลอบวางเพลิง การขายชาติ และการฆาตกรรมเลยทีเดียว และมันผู้นั้นจะต้องถูกประหารชีวิต

ในยุคต่อๆ มา ก็เกิดความเป็นธรรมที่ว่า "ในคดีข่มขืน ผู้ถูกข่มขืนต้องขึ้นศาล ไม่ใช่ผู้ข่มขืน" อย่างไรก็ตามการลงโทษคนที่ถูกข่มขืนในทางอ้อม เช่น ถูกตราหน้าว่าเสียความบริสุทธิ์แล้ว มีประสบการณ์ทางเพศแล้ว ไม่พรหมจารีย์ เป็นต้น หรือผู้ชายที่เคยติดคุกมาก่อน รู้ถึงไหนอายถึงนั่น เพราะคนหลายกลุ่มเชื่อว่านักโทษโดยทั่วไปจะต้องเคยถูกจับอัดถั่วดำ ฯลฯ ยังมีมาถึงปัจจุบัน

เกือบทุกคนบนโลกใบนี้ล้วนแต่ไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงที่ข่มขืนคนอื่น (ยกเว้นในหนังโป๊ ซึ่งเป็นเพียงการแสดง) ดังนั้นกฎหมายของเกือบทุกประเทศบนโลกจึงยังไม่ได้กำหนดบทลงโทษในกรณีนี้เอาไว้

ในบทลงโทษของกฎหมายในบางประเทศ (ที่ยังล้าหลังและเอาเปรียบผู้หญิง) กล่าวถึงการข่มขืนว่า ต้องถูกกระทำทางช่องคลอดเท่านั้นจึงจะเข้าข่าย ส่วนการข่มขืนทางทวารหนักและการข่มขืนทางปาก ไม่นับว่าเป็นอาชญากรรม ส่วนการคิดต่าง (คิดแตกต่างไปจากความคิดที่ในสังคมเขาคิดกัน) ในประเทศเผด็จการจะถือว่าอาชญากรรมขั้นรุนแรง เช่นในกรณีโลลิคอน หรือการลบหลู่บร๊ะเจ้า เป็นต้น

การข่มขืนกับสงคราม

ย้อนกลับไปในสมัยโบราณ ทหารชาวข้อมูลปกปิด ชอบข่มขืนผู้หญิงและเด็กผู้หญิง (ทหารบางนายเป็นเกย์ จึงข่มขืนเด็กชาย) ในพื้นที่ที่พวกมันได้ยึดครอง ในยุคปัจจุบัน การข่มขืนถูกนับว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม ถ้าหากเหยื่อหลายพันคนขึ้นไปถูกข่มขืนหมู่ หรือข่มขืนแบบเรียงคิว โดยทหารหรือกองกำลังหลายหมื่นคนขึ้นไป นอกจากนี้ในสงครามโลกครั้งที่ 2.4 มีการบังคับผู้หญิงประมาณ 200,000 คนให้เป็นทาสกามในค่ายทหารข้อมูลปกปิด ประเทศเดียวกับที่เป็นดินแดนหนังเอ็กซ์เสรีในเวลาต่อมานั่นเอง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มีทหารของประเทศข้อมูลปกปิด หื่นกามกันทั้งกองทัพ ข่มขืนผู้หญิงและเด็กทีละเป็นล้านๆคน

ฉากการข่มขืนในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่ง

การข่มขืนในสื่อลามก

การข่มขืนที่พบได้ในหนังโป๊นั้น อย่าลืมนะคะ ว่านี่ เป็นเพียงแค่การแสดง (ที่สมจริงสมจังมาก เพราะผู้แสดงมักมีอารมณ์ร่วมดีมากในขณะแสดง) เท่านั้น และเนื่องจากการข่มขืนโดยส่วนใหญ่นั้นเป็นการกระทำที่เลวมาก เพราะผิดทั้งกฎหมายและผิดศีลธรรม จึงควรมีวิจารณญาณในการรับชม และอย่าทำความชั่วตามแบบในหนัง

ถ้าหากคุณไร้ซึ่งคู่นอน กรุณาช่วยตัวเองจะดีกว่า

อย่าไปทำ มันไม่ดี ถ้าทำไปแล้ว อัพคลิปขึ้นยูธูปด้วยนะ
~ สมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดีวีดีคนหนึ่งกล่าว

สาเหตุของการข่มขืน

ผู้ที่ทำผิดฐานข่มขืนในประเทศเทยโดยส่วนมาก มักโยนความผิดไปให้การ์ตูนโป๊, เกมส์โป๊, หนังสือโป๊ และ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง) หนังโป๊ อยู่เสมอแทบทุกครั้งไป นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สื่อลามกทั้งหลายในประเทศเทยถูกแบนจนหมดสิ้น (ยกเว้นผู้ต้องหาบางคนที่อาจนึกไม่ถึง เพราะไม่ค่อยได้รับชมสื่อลามก เลยไปโทษเหล้าแทน)

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ความอยากข่มขืนโดยส่วนใหญ่เกิดจากการเสพเหล้าหรือการเสพยาเสพติดอื่นๆ ยิ่งเสพยาหรือดื่มเหล้าแกล้มการดูหนังโป๊ ก็ยิ่งอยากข่มขืนมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ถ้าเหยื่อดื่มสุรา ผู้ข่มขืนก็จะมีโอกาสกระทำจนสำเร็จมากขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้มีบางคนเชื่อว่า มูลเหตุของการข่มขืนคือ ความปรารถนาที่ก้าวร้าวที่ต้องการจะอยู่เหนือฝ่ายตรงข้าม มากกว่าต้องการที่จะสำเร็จความใคร่... สงสัยพวกที่ชอบข่มขืนบางคนคงจะเป็นโรคจิตไปแล้วไม่มากก็หนักหนาเอาการ

ประเภทของการข่มขืน

รู้หน้าไม่รู้ใจ ผลสำรวจพบว่าส่วนมากเกิดจากคนใกล้ตัวนั่นแหละที่ทำ น้อยครั้งที่จะเกิดจากชายแปลกหน้า น้อยรองลงมาคือจากสามี (สงสัยจะสมยอมกันง่ายหน่อย เลยไม่ค่อยจะมีสถิติของกรณีนี้) แต่กระนั้นเอง การข่มขืนโดยชายแปลกหน้านี่แหละที่ตกเป็นข่าวบ่อยมาก รองจากพ่อขืนใจลูกเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นจะมีการวิจัยไหนเลยว่ะที่มันบอกว่ามีผู้หญิงข่มขืนผู้หญิง คาดว่าเป็นเพราะผู้หญิงไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศ และต้องเล้าโลมกันนานกว่าจะมีความหื่น

การข่มขืนแฟน

หมายถึงกระทำการขืนใจทางเพศต่อคนรักหรือแฟน ซึ่งไม่ยินยอม ในทางกฎหมายก็ถือว่านี่เป็นการข่มขืน จึงไม่ต่างจากการข่มขืนสาวแปลกหน้าที่ดูแล้วน่าข่มขืนเป็นยิ่งนัก เพราะนั่นก็ข่มขืน นี่ก็ข่มขืน ถือว่าผิดทั้งนั้น ดังนั้นเหยื่อสามารถแจ้งความเอาผิดฝ่ายข่มขืนได้ อย่างไรก็ตาม บางทีเธอดีเกินไป เนื่องจากเธอ ผู้ที่โดนข่มขืน ไม่แจ้งความเอาผิดกับฝ่ายชาย ซึ่งมีความใคร่กับอีกฝ่ายมาก (เพราะเธอหน้าตาดี ผิวพรรณดี หุ่นดี ฯลฯ) และเป็นฝ่ายข่มขืนเธอ นั่นทำให้ฝ่ายชายเขาได้ใจ และจะทำอีกเรื่อยๆ

ผู้เสียหายมักเกิดอาการสับสน เพราะถ้าแจ้งจับแฟนของตัวเอง ก็เท่ากับการสูญเสียแฟน รวมถึงการเสียซิง การเสียชื่อเสียงต่อสังคม อย่างไรก็ตามผลของการโดนแฟนข่มขืนมักจะนำไปสู่เหตุที่ต้องเลิกรากับแฟนในที่สุด

สถานที่เกิดเอดส์เหตุ

ที่ตกเป็นข่าวบ่อยมากคือการถูกขืนใจหรือการข่มขืนแล้วฆ่าแล้วปลดทรัพย์ในสถานที่แปลกเช่น ในป่าละเมาะ ในพงหญ้า ในห้องน้ำสาธารณะ เป็นต้น อันแสดงถึงความซาดิสต์ของผู้ก่อเหตุ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันขัดแย้งกับความเชื่อโดยทั่วไปที่ว่าจะถูกข่มขืนนอกบ้านมากที่สุด เพราะอันที่จริงแล้ว (ต่างประเทศ) มากกว่า 2 ใน 3 ของการข่มขืนทั้งหมด เกิดที่บ้านของใครคนใดคนหนึ่งนี่เอง ที่เหลือนอกบ้านคงจะพอมีสถานที่สำหรับข่มขืนอยู่บ้างเล็กน้อย

วิธีป้องกันไม่ให้โดนข่มขืน

วิธีป้องกันกันทั้งท่านชายและท่านหญิงไม่ให้โดนข่มขืน ออริจินัลโดย หมอแมว MThai.Com เพิ่มเติมเสริมแต่งโดยไร้สาระนุกรม

ท้อง
- การต่อยท้องโดยที่ไม่ได้ทันตั้งตัว ทำให้ผู้ชายจุกได้พอๆกับผู้หญิง... ถ้าคุณคิดว่ามีแรงพอ แต่ไม่แนะนำเพราะว่าโอกาสสำเร็จ ยาก...
ลำคอ
- ขมับ การต่อยหรือจกนิ้วแรงๆเข้าไปที่ลูกกระเดือก หรือขมับ สามารถทำให้อีกฝ่ายอึดอัและเจ็บปวดได้มาก หากทำแรงมากพอ... แต่ยากตรงที่ว่าระดับที่อยู่สูงมักทำให้อีกฝ่ายเห็นและป้องกันตัวได้ก่อน
ลูกตา
- จิกลูกตาหรือกดเอาให้แตกเละคามือ เหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าคนเรามีสองมือพอๆกัน ถ้าจะทำแนะนำให้...ดูข้อสี่
อัณฑะ
- เตะ เหยียบ กระทืบ ....เตะ กระทืบ เหยียบ อย่างใดอย่างหนึ่ง โอกาสหายากพอสมควร นอกจากว่าคุณกำลังพยายามทำตามข้อ3อยู่.... แต่ถ้าทำได้ก็สำเร็จครับ โอกาสรอดสูงถ้าคุณเหี้ยมพอ
~~ลิ้ม~~ ลิ้น
- ดังกรณีที่เคยปรากฎ ถ้ามีใครเอาลิ้นมาในปาก ให้เราดูดเข้ามาแล้วกัดให้ขาด... อย่าลืมตามด้วยข้อสี่ขณะอีกฝ่ายตกตะลึงอยู่
อวัยวะเพศ
- บางคนอาจจะรู้แล้ว แต่บางคนก็ยังไม่รู้ เจ้านั่นของผู้ชาย สามารถถูกหักได้แบบแท่งไอติมทรงกระบอกตามงานวัด
- เมื่อของผู้ร้ายแข็งตัวเต็มที่ หาจังหวะที่อำนวยที่สุดจับหมับเข้าไป ถ้าจับได้มือเดียวก็ใช้วิธีกระชากแรงๆ(ที่สุดในชีวิต) ถ้าจับได้สองมือให้กดบี้ให้ส่วนปลายมาหักชนโคน หรือทำอย่างไรก็ได้ที่คิดว่าจะหักมันได้
- หากไม่มีโอกาสเลย และถูกสอดใส่หรือข่มขืนไปแล้วในระยะนึง ให้กะจังหวะที่ส่วนนั้นเข้าลึกที่สุด แล้วถีบตนเองลง(ดีที่สุด)หรือซ้ายขวาอย่างแรงที่สุด... ถ้านึกไม่ออก ลองเอามือซ้ายกำแล้วเอานิ้วชี้ขวาใส่ แล้วลองเลื่อนมือซ้ายเร็วๆ..... จะเกิดเหตุการณ์ประมาณก้านมะละกอถูกปลิดจากต้น....(รู้สึกจะเคยเห็นแบบหักๆ มาที่ห้องฉุกเฉินสามคนครับ รักษายากดี) ที่ให้ทำแม้โดนไปแล้ว ก็เพื่อไม่ให้มันหลั่งในตัวเราหรือไม่อย่างนั้นก็เพื่อ.......(คิดเอาเอง)
- หรือไม่ก็กัดให้ขาดดื้อๆ นอกจากนี้หากไม่มีโอกาสใดๆเลย คุณควรขอเสนอตัวอมนกเขาให้ เพื่อที่จะได้โอกาสในข้อนี้
หมายเหตุ ทำตามทุกข้อแล้ว อย่าลืมทำตามข้อ 4 และ 6 ซ้ำทุกครั้ง เพื่อลดอาชญากรรมข่มขนในสังคมให้ลดน้อยลง

ทุกข้อ หากมีโอกาสและทำได้ ขอให้นึกไว้เสมอว่าต้องซ้ำให้สาหัสที่สุด เอาให้ลุกไม่ขึ้น.... อย่าทำแบบหนังไทยที่เตะผู้ร้ายแล้ววิ่งหนี หรือเตะปืนหลุดจากมือแล้ววิ่งหนี ทิ้งอาวุธไว้กับผู้ร้าย..

ที่กล่าวมาเป็นเพียงการแนะนำจุดอ่อนของท่านชายให้ฟัง ไม่ได้แนะนำให้สู้ไปเฉยๆนะครับ เพราะอาจเป็นการยั่วยุให้เราโดนทำร้ายหรือถึงตายได้ ซึ่งหากสนใจจริงๆ ควรไปเรียนตามหลักสูตรป้องกันตัว ซึ่งจะสอนเป็นกิจลักษณะกว่านี้ เช่น

จก ขยำ ขยี้ บิด เตะ เหยียบ กระทืบ ขยี้(ด้วยเท้า) กระทืบอก(ด้วยส้นเท้า) เตะหน้า กระทืบหน้า หรือ เตะ เหยียบ ขยี้ เตะคาง กระทืบตา.....ฯลฯ ซึ่งจะสอนเป็นขั้นตอนให้ทำจริงได้อย่างไม่ติดขัดไม่เคอะเขิน