มาติด กาแฟ กันเถอะ

มาติด กาแฟ กันเถอะ


คอกาแฟทั้งหลายต่างต้องใจชื้นและชื่นใจเมื่อได้ฟังเรื่องนี้

เพราะกาแฟไม่ได้มาพร้อมกับอาการปวดหัวตุบ ๆ เมื่อเรา "ขาด" เพราะ "ติด" เพียงอย่างเดียว แต่กาแฟที่รักก็ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะสามารถป้องกันผิวของคุณจากรังสีอัลตราไวโอเลต ในแสงแดด และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง

บริษัทผู้ผลิตครีมกันแดดเบลมาร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศอเมริกา ยืนยันผลการวิจัยที่ให้เจ้าหนูทดลองกินน้ำผสมสารกาเฟอีน อาศัยอยู่ใต้หลอดไฟที่มีรังสีอัลตราไวโอเลต และเปรียบเทียบกับหนูทั่วไป ซึ่งผลออกมาว่า เจ้าหนูที่กินน้ำผสมสารกาเฟอีนเหล่านี้เสี่ยงที่จะมีแนวโน้มเป็นโรคมะเร็งผิวหนังน้อยกว่า

จากการวิจัยนี้ คอกาแฟจึงมีแนวโน้มเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม

ทั้งนี้ ทางบริษัทจะมีการวิจัยต่อเนื่องว่ากาแฟส่งผลต่อมะเร็งผิวหนังอย่างไร

ถึงขนาดว่ากันว่า ในอนาคตเราอาจได้ใช้กาแฟแทนครีมกันแดดเชียวนะ

ไม่เพียงเท่านั้น กาแฟยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเกิดจากภาวะที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินที่ไหลเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น ศาสตราจารย์แฟรงก์ ฮู ผู้เชี่ยวชาญจากฮาร์วาร์ด วิจัยชาวอเมริกันกว่า 193,000 คนที่ดื่มกาแฟมากกว่า 6-7 แก้วต่อวัน และผลออกมาว่ามีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 น้อยกว่าผู้ที่ดื่มกาแฟ 4-6 แก้วต่อวัน 28% และเสี่ยงน้อยกว่าผู้ที่ดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวัน 35%

ทั้งนี้ ไม่ได้ควบคุมปัจจัยแตกต่างทางเพศ น้ำหนักตัว และถิ่นที่อยู่

เป็นอันว่าสมเหตุสมผลมากพอให้คุณออกไปฉวยกาแฟอีกสักแก้วของวัน เพราะกาแฟที่รักแก้วนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ด้วย

สารต้านอนุมูลอิสระมาจากหลายแหล่งสารอาหาร ฉะนั้นยิ่งบริโภคได้หลากหลายยิ่งดี จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยสครานตัน ในรัฐเพนซิลเวเนีย

หากกลัวกาเฟอีนส่งผลให้ความดันโลหิตสูง ก็หนีมาดื่มกาแฟไร้กาเฟอีนได้ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน

รัก (และติด) แล้ว...อะไรก็ดี

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์